The first part of movie presents "T

The first part of movie presents "The Crisis," and depicts the essentials of the water cycle and how human activity affects and is affected by that cycle. The earth has a limited amount of water. However the water comes around in a cycle itself that if left alone, it will never run out. The little girl in the film explains this process of the water cycle, it starts off with evaporation, when the heat of the sun turns the water from rivers, lakes, or oceans and turns it into vapor and goes into the air. Condensation then starts, when water vapors become very cold and changes back into liquid forming clouds. Precipitation occurs when enough liquid has been collected in the clouds and the air cannot hold it anymore, then it starts to rain. However, due to human uses when it rains, it hits concrete, side walker or street, the water is unable to be absorbed into the ground. Instead the water then travels down storm drains into the oceans where it brings no use to society. It means the ground will get very dry, the grasses and trees die (Blue Gold). Maude Barlow, who is National Chair of the Council of Canadians states that “The world will become desertification so quickly and we are becoming deserts in many places” (Maude Barlow). Dr Michal Kravick explains that “as we dry out the land, it is changing from green to yellow, resulting in all the fresh water cumulating in the ocean. As the land surface weight is lightened while the rise of water in the oceans increase the weight on the ocean floor, this can cause the changes of structure of the earth’s crust which causes earthquakes and potentially tsunami waves like the ones we experience in 2004” (Kravick).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนแรกของภาพยนตร์ และนำเสนอ "วิกฤต" แสดงให้เห็นความสำคัญของวัฏจักรของน้ำและกิจกรรมที่ว่ามนุษย์มีผลกระทบต่อ และได้รับผลกระทบ โดยรอบนั้น โลกมีจำนวนจำกัดของน้ำ อย่างไรก็ตาม น้ำมาในวงจรตัวที่ถ้าเหลือคนเดียว ก็จะไม่ทำงานออก สาวน้อยในภาพยนตร์อธิบายกระบวนการของวัฏจักรของน้ำ เริ่มปิดกับระเหย เมื่อความร้อนของดวงอาทิตย์เปลี่ยนน้ำ จากแม่น้ำ ทะเลสาบ มหาสมุทร และกลายเป็นไอน้ำไปในอากาศ มีหยดน้ำเกาะแล้วเริ่ม ไอระเหยน้ำกลายเป็นอาหาร และเปลี่ยนกลับไปเป็นของเหลวที่เป็นเมฆ ฝนเกิดขึ้นเมื่อของเหลวเพียงพอรวบรวมในเมฆ และอากาศไม่สามารถเก็บได้อีก แล้วก็เริ่มโปรย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมนุษย์ใช้ เมื่อฝนตก มันฮิตวอล์คเกอร์คอนกรีต ด้านข้างถนน น้ำไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่พื้นดิน แทน น้ำแล้วเดินทางลงท่อระบายน้ำพายุในมหาสมุทรที่นำไม่ใช้กับสังคม หมายถึง พื้นดินจะได้แห้งมาก หญ้าและต้นไม้ตาย (สีทอง) Maude Barlow ที่เก้าอี้แห่งชาติคณะกรรมการชาวแคนาดาอเมริกาว่า "โลกจะกลายเป็น desertification อย่างรวดเร็ว และเราจะกลายเป็นทะเลทรายหลายแห่ง" (Maude Barlow) ดร. Kravick มีคาอธิบายว่า "เป็นเราแห้งออกจากแผ่นดิน มันจะเปลี่ยนจากสีเขียวเหลือง ในทั้งหมดน้ำสะสมในมหาสมุทร เป็นน้ำหนักพื้นผิวแผ่นดิน lightened ในขณะที่เพิ่มขึ้นของน้ำในมหาสมุทรเพิ่มน้ำหนักบนพื้นมหาสมุทร นี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างของเปลือกโลกที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวและอาจคลื่นสึนามิเช่นเราพบใน 2004" (Kravick)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่วนแรกของภาพยนตร์ที่มีการจัด "วิกฤต" และแสดงให้เห็นถึงสาระสำคัญของวัฏจักรของน้ำและวิธีการที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมของมนุษย์และได้รับผลกระทบโดยรอบว่า โลกมีจำนวน จำกัด ของน้ำ แต่น้ำมารอบในวงจรตัวเองว่าถ้าเหลือเพียงอย่างเดียวก็จะไม่หมด สาวน้อยในภาพยนตร์เรื่องนี้อธิบายถึงกระบวนการของวัฏจักรของน้ำนี้มันเริ่มออกด้วยการระเหยเมื่อความร้อนของดวงอาทิตย์จะเปิดน้ำจากแม่น้ำทะเลสาบหรือมหาสมุทรและเปลี่ยนมันเป็นไอและไปในอากาศ การควบแน่นแล้วเริ่มต้นเมื่อมีไอระเหยกลายเป็นน้ำเย็นมากและเปลี่ยนกลับเป็นของเหลวขึ้นรูปเมฆ ปริมาณน้ำฝนที่เกิดขึ้นเมื่อมีสภาพคล่องเพียงพอที่ได้รับการเก็บรักษาในเมฆและอากาศไม่สามารถถือได้อีกต่อไปแล้วมันก็เริ่มที่จะมีฝนตก แต่เนื่องจากมนุษย์ใช้เมื่อฝนตกก็ฮิตคอนกรีตด้านข้างหรือถนนวอล์คเกอร์, น้ำไม่สามารถที่จะถูกดูดซึมลงไปในดิน แต่น้ำจากนั้นเดินทางลงท่อระบายน้ำพายุเข้ามาในมหาสมุทรที่จะนำไปใช้ในสังคมไม่มี มันหมายถึงพื้นดินจะได้รับแห้งมากหญ้าและต้นไม้ตาย (สีฟ้าสีทอง) ม้อดบาร์โลว์แห่งชาติที่เป็นประธานสภาของแคนาดากล่าวว่า "โลกจะกลายเป็นทะเลทรายอย่างรวดเร็วและเราจะกลายเป็นทะเลทรายในหลายสถานที่" (มอสบาร์โลว์) ดรคา Kravick อธิบายว่า "ในขณะที่เราแห้งออกที่ดินก็มีการเปลี่ยนแปลงจากสีเขียวเป็นสีเหลืองผลในทุก cumulating น้ำจืดในมหาสมุทร เป็นน้ำหนักพื้นผิวที่ดินลดหย่อนในขณะที่การเพิ่มขึ้นของน้ำในมหาสมุทรเพิ่มน้ำหนักบนพื้นมหาสมุทรนี้สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างของเปลือกโลกซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่อาจเกิดขึ้นเช่นคนที่เราพบในปี 2004 "( Kravick)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนแรกของภาพยนตร์นำเสนอ " วิกฤติ " และแสดงให้เห็นความสําคัญของวัฏจักรของน้ำและกิจกรรมของมนุษย์ส่งผลกระทบต่อ และได้รับผลกระทบโดยรอบนั้น โลกนี้มีจำนวน จำกัด ของน้ำ อย่างไรก็ตาม น้ำมาถึงในรอบของตัวเองว่า ถ้าเหลือคนเดียวก็จะไม่มีวันหมด สาวน้อยในภาพยนตร์ที่อธิบายกระบวนการของวัฏจักรของน้ำนี้มันเริ่มออกกับการระเหยเมื่อความร้อนของดวงอาทิตย์จะเปลี่ยนน้ำจากแม่น้ำ ทะเลสาบ หรือมหาสมุทร และเปลี่ยนมันเป็นไอไปในอากาศ การควบแน่นแล้วเริ่มขึ้น เมื่อน้ำกลายเป็นไอเย็นมากและเปลี่ยนกลับเข้าไปในของเหลวเป็นเมฆ การตกตะกอนเกิดขึ้นเมื่อของเหลวที่พอถูกเก็บในเมฆ และอากาศไม่สามารถกลั้นได้อีกต่อไป แล้วมันก็เริ่มตก แต่เนื่องจากมนุษย์ใช้เมื่อฝนตกมันกระทบด้านวอล์คเกอร์ หรือถนนคอนกรีต น้ำไม่สามารถซึมลงไปในดิน แทนน้ำ แล้วเดินทางลงท่อระบายน้ำทิ้งในมหาสมุทรที่ไม่ได้ใช้ในสังคม มันหมายความว่า พื้นดินจะแห้งมาก หญ้าและต้นไม้ตาย ( ฟ้าทอง ) ม้อดบาร์โลว์ซึ่งเป็นเก้าอี้ของคณะกรรมการของแคนาดาระบุว่า " โลกจะกลายเป็นทะเลทรายอย่างรวดเร็วและเราก็จะกลายเป็นทะเลทรายในที่ต่าง ๆ " ( ม้อดบาร์โลว์ ) ดร คาล kravick อธิบายว่า " เราบริการออกที่ดินมันเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ซึ่งทั้งหมด cumulating สดน้ำในมหาสมุทรเป็นดินหนักสว่าง ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของน้ำในมหาสมุทรเพิ่มน้ำหนักบนพื้นมหาสมุทร ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเปลือกโลกทำให้เกิดแผ่นดินไหวและคลื่น สึนามิ อาจเหมือนที่เราพบใน 2004 " ( kravick )