Sia Yae eventually lost his life in

Sia Yae eventually lost his life in 1989, As he was leaving the court house in the northeastern provincial capital of Korat, a modified claymore mine was detonated by remote control killing Sia Yae and several of his companions. The assassination method suggested some expertise with explosives which is usually acquired in the military.
For someone who had died in a fashion worthy of the most melodramatic gangster movie, his funeral was truly a star-studded affair. The guest of honour was the minister of
Interior along with several other ministers and MPs.
Sia Yae started out as the son of a Chinese immigrant, began his business career as a bicycle repairman, made his first pile by managing a gambling den, married the relation of a police officer, rose from being a nobody in a sleepy provincial town of Angthong to become a manipulator at the highest level of government, gave all three of his sons the college education he never had, died in a spectacular assassination on the steps of a court house, and was mourned by some of the leading politicians in the land.
Sia L- of Khon Kaen. Sia L- was born in 1934 in Nakhon Ratchasima (Korat). Both of his parents had migrated from mainland China. He said his family was poor. He had four years of elementary schooling in a Chinese school. When he left school he had to help tlhe family by selling noodles , until a grocery store owner in Khon Kaen offered him a job as an all-round shop assistant and delivery boy. He was good at the job and after four or five years he was promoted to look after buying supplies. He travelled a lot and acquired a good knowledge of the surrounding areas in the northeast. With his promotion he received 700 baht a month and he began studying Chinese and accountancy by correspondence. After his study he was promoted to the position of accountant. When he was 28 he left the shop and started his own business.
With the help of a friend, he borrowed several thousand baht from a bank and began buying and selling cash crops around Khon Kaen. Once he had some capital, also acted as a moneylender, advancing the villagers cash and seed in return for a lien on the crop, Next he invested in processing the crops, He set up a flour mill, a cassava processing plant and a rice mill. Finally he extended into a crop wholesaling business and into crop exporting.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Sia แย้หายไปในที่สุดชีวิตของเขาในปี 1989 ขณะที่เขากำลังจะออกจากบ้านศาลในเมืองหลวงของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดโคราชเหมืองเคลย์ที่ปรับเปลี่ยนได้จุดชนวนโดยการควบคุมระยะไกลฆ่าเสี่ยแย้และอีกหลายสหายของเขา วิธีการลอบสังหารที่แนะนำความเชี่ยวชาญบางคนที่มีวัตถุระเบิดที่จะได้รับมักจะอยู่ในทางทหาร.
สำหรับคนที่เสียชีวิตในแบบที่คุ้มค่าของหนังนักเลงดูดดื่มมากที่สุดในงานศพของเขาเป็นจริงเป็นเรื่องดารา แขกผู้มีเกียรติเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมกับรัฐมนตรีคนอื่น ๆ หลายคนและส. Sia แย้เริ่มออกเป็นบุตรชายของผู้อพยพชาวจีนเริ่มอาชีพธุรกิจของเขาเป็นช่างซ่อมจักรยานที่ทำกองแรกของเขาด้วยการจัดการคาสิโนที่ได้แต่งงานกับ ความสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มขึ้นจากการที่ไม่มีใครในเมืองจังหวัดง่วงนอนของจังหวัดอ่างทองที่จะกลายเป็นหุ่นยนต์ในระดับสูงสุดของรัฐบาลให้ทั้งสามของบุตรชายของเขาการศึกษาวิทยาลัยเขาไม่เคยเสียชีวิตในการลอบสังหารที่งดงามในขั้นตอน บ้านศาลและได้รับการไว้ทุกข์โดยบางส่วนของนักการเมืองชั้นนำในแผ่นดิน. Sia L- ขอนแก่น Sia L- เกิดในปี 1934 ในจังหวัดนครราชสีมา (โคราช) ทั้งพ่อและแม่ของเขาได้อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เขากล่าวว่าครอบครัวของเขาเป็นคนยากจน เขามีสี่ปีของการศึกษาระดับประถมศึกษาในโรงเรียนจีน เมื่อเขาออกจากโรงเรียนเขาจะต้องช่วยครอบครัว tlhe โดยการขายก๋วยเตี๋ยวจนเจ้าของร้านขายของชำในจังหวัดขอนแก่นเสนอให้เขาทำงานเป็นผู้ช่วยร้านทุกรอบและเด็กการจัดส่ง เขาเป็นคนดีที่งานและหลังจากสี่หรือห้าปีเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้ดูหลังจากที่ซื้ออุปกรณ์ เขาเดินทางไปเป็นจำนวนมากและได้รับความรู้ที่ดีของพื้นที่โดยรอบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โปรโมชั่นของเขาด้วยเขาได้รับ 700 บาทต่อเดือนและเขาเริ่มเรียนภาษาจีนและการบัญชีโดยการติดต่อ หลังจากการศึกษาของเขาที่เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งของนักบัญชี เมื่อเขาอายุ 28 เขาออกจากร้านและเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง. ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนที่เขายืมมาหลายหมื่นบาทจากธนาคารและเริ่มการซื้อและขายพืชเศรษฐกิจรอบขอนแก่น เมื่อเขามีเงินทุนบางส่วนทำหน้าที่เป็นเจ้าหนี้ที่ก้าวหน้าเงินสดชาวบ้านและเมล็ดพันธุ์ในการตอบแทนสำหรับภาระในการเพาะปลูกที่ถัดไปเขาลงทุนในการประมวลผลพืชที่เขาตั้งโรงโม่แป้ง, โรงงานแปรรูปมันสำปะหลังและโรงสีข้าว . ในที่สุดเขาก็ขยายเข้าสู่ธุรกิจค้าส่งพืชและเข้าสู่การส่งออกพืช

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เสี่ยแอ ในที่สุดก็เสียชีวิตในปี 1989 เมื่อเขาออกจากศาลในเมืองหลวงจังหวัดทางภาคอีสาน โคราช , แก้ไขเคลย์มอร์ของฉันถูกระเบิดด้วยรีโมทคอนโทรล ฆ่าเสี่ยแย้และหลายของผู้ร่วมทาง การลอบสังหารวิธีเสนอความเชี่ยวชาญกับวัตถุระเบิดซึ่งมักจะได้รับในทางทหาร .
สำหรับคนที่เสียชีวิตในแฟชั่นสมควรหนังอันธพาลไปส่วนใหญ่ ศพของเขาก็เป็นดาราคนอื่น แขกผู้มีเกียรติเป็นรัฐมนตรี
ตกแต่งภายในพร้อมกับรัฐมนตรีอีกหลายท่านและ MPs .
เเย เริ่มต้นจากการเป็นลูกชายของผู้อพยพชาวจีน เริ่มอาชีพธุรกิจของเขาเป็นช่างซ่อมจักรยาน ทำให้กองแรก โดยการจัดการการพนันเดนแต่งงานกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพิ่มขึ้นจากการไม่มีใครในเมืองง่วงนอนของจังหวัดอ่างทองเป็นผู้บงการในระดับสูงสุดของรัฐบาล ให้บุตรชายของเขาทั้งสามของวิทยาลัยพลศึกษา เขาไม่เคยตายในการลอบสังหารที่น่าตื่นเต้นในขั้นตอนของศาล และไว้ทุกข์ โดยบางของ นักการเมืองชั้นนำ ใน แผ่นดิน .
เ l - ขอนแก่นเสี่ยหนู - เกิดใน 1934 ในจังหวัดนครราชสีมา ( โคราช ) พ่อแม่ของเขาอพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เขาบอกว่าครอบครัวเขายากจน เขาสี่ปีของการศึกษาในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนจีน เมื่อเขาออกจากโรงเรียน เขาต้องช่วยครอบครัว tlhe โดยการขายก๋วยเตี๋ยว จนเจ้าของร้านขายของชำในจังหวัดขอนแก่นให้งานเขาตลอด และเป็นผู้ช่วยร้าน เด็กส่งของเขาเก่งในงาน และหลังจากสี่หรือห้าปีเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งดูหลังจากซื้อเสบียง เขาเดินทางมากและได้รับความรู้ที่ดีของพื้นที่โดยรอบ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับโปรโมชั่นของเขาเขาได้รับเดือนละ 700 บาท และเขาเริ่มเรียนภาษาจีน และการบัญชี โดยทางจดหมาย หลังจากการศึกษาของเขาเขาได้เลื่อนยศตำแหน่งนักบัญชีเมื่อเขาอายุ 28 เขาออกจากร้าน และเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง
ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อน เขายืมไปหลายพันบาท จากธนาคาร และเริ่มซื้อและขายพืชเงินสดรอบขอนแก่น เมื่อเขามีทุน ก็ทำตัวเป็นคนปล่อยกู้ ด้านชาวบ้านที่สดและเมล็ดในการตอบแทนสำหรับ lien ในการเพาะปลูกต่อไป เขาลงทุนในการประมวลผลพืช เขาตั้งค่าโรงงานแป้ง ,โรงงานแปรรูปมันสำปะหลังและข้าวบด ในที่สุดเขาก็ขยายเป็นธุรกิจค้าส่ง และในพืชพืชส่งออก