IntroductionSlovenia takes part in

Introduction
Slovenia takes part in more than one international knowledge researches that measure
the reading literacy. In Slovenia this field of science is developed and measured by PISA and
PIRLS researches. The PISA periodically researches reading, mathematical and science literacy
on the level of Primary and High school education. In 2009 the PISA research was focused on
general reading literacy. 470.000 pupils from all over the world co-operated in the research.
In Slovenia 7.764 high school students from 333 high school educational programmes and
46 pupils from 24 primary schools participated. The results of the research showed that the
achievements of Slovenian students, compared to the EU and OECD, are below the average
and they had aggravated since 2006 by 11 points. Slovenia scored 483 points on this area (the
EU average is 489 and the OECD average is 494). According to the research the basic reading
competences are reached by 79% of the students (the EU average is 82%). These competences
enable students to continue their education on every single field and to be successful and efficient
in their everyday life. The highest reading competences are reached by 0.3% of Slovenian
students (1% in OECD and 0.6% in the EU) (http://www.pei.si/Default.aspx).
People who learn usually do it improperly because nobody has thought them how to
do it. The methods of learning are individual and every pupil or student has his/her own,
therefore it is very important for them to adjust their own methods of learning to their individual characteristics and particularities. The pupil with bad learning methods stays bad even if he has
a good teacher, so teachers must use efficient methods to pass them on to young people (Pečjak,
1977). One of the goals of our educational system is that the students, at the end of compulsory
education, should reading literate. This means they read fluently, understand what they have
read and are capable to use the information they have read to use for solving life’s and learning
problems and for their own personal growth (Pečjak, 2002).
Reading is highly organized activity and brain activity (Pečjak, 1996).
Some authors talk about two basic components of the reading process, namely the process
of decoding and understanding the process, while others approach the teaching of reading in
terms of time series and talk about two basic stages in reading development. This is the stage of
learning to read and phase of learning through reading (Pečjak, 1995).
School teachers insist on too many facts to be learnt. New working methods are embraced
regularly but pupils are usually left on their own when talking about their learning methods
(Aberšek, 2012). Students should be encouraged to discover the essence of the text, search
for keywords, determine important details in the text and to make a conceptual map. Students’
motivation for reading can be encouraged by selecting various texts and to thereby facilitate
the processing of texts (Wood, Lapp, Flood and Taylor, 2008). Students achieve significantly
greater quantity and quality of knowledge when being familiar with basic skills and strategies
of reading and how to use them (Buehl, 2000 by Gregory and Cahill, 2010).
When finishing the primary school education, the pupils should master:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำสโลวีเนียใช้เวลาส่วนหนึ่งในงานวิจัยความรู้นานาชาติมากกว่าหนึ่งที่วัดสามารถอ่าน ใน ฟิลด์นี้วิทยาศาสตร์จะพัฒนา และวัด โดยปิซา และงานวิจัย PIRLS PISA เป็นระยะ ๆ วิจัยอ่าน คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์สามารถในระดับประถมและมัธยมศึกษา ในปี 2552 การวิจัยปิซาถูกเน้นสามารถอ่านทั่วไป นักเรียน 470.000 จากทั่วโลกที่ร่วมดำเนินการในการวิจัยในสโลวีเนีย 7.764 มัธยม นักเรียนจากสูง 333 โรงเรียนโครงการการศึกษา และนักเรียน 46 จาก 24 โรงเรียนเข้าร่วม ผลการวิจัยพบว่าการความสำเร็จของนักเรียนภาษาสโลเวเนีย เมื่อเทียบกับ EU และ OECD จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและพวกเขามี aggravated 2549 11 จุด 483 คะแนนในพื้นที่นี้(สโลวีเนียค่าเฉลี่ย EU 489 และค่าเฉลี่ย OECD 494) ตามการวิจัยการอ่านcompetences มีถึง 79% ของนักเรียน (ค่าเฉลี่ย EU เป็น 82%) Competences เหล่านี้ให้นักศึกษาต้องศึกษาในทุกเขตข้อมูลเดียว และประสบความสำเร็จ และมีประสิทธิภาพในชีวิตประจำวัน Competences การอ่านสูงสุดได้ถึง 0.3% ของสโลเวเนียนักเรียน (1% ใน OECD และ 0.6% ในสหภาพยุโรป) (http://www.pei.si/Default.aspx)ผู้เรียนมักไม่ถูกต้องเนื่องจากไม่มีใครมีความคิดว่าลงมือสิ วิธีการเรียนรู้แต่ละคนและนักเรียนทุก หรือมีนักเรียนเขา/เธอเองดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการปรับปรุงตนเองวิธีการเรียนรู้ของแต่ละลักษณะและ particularities นักเรียน ด้วยวิธีการเรียนไม่ดีอยู่ไม่ดีแม้ว่าเขาได้ครูดี ดังนั้นครูต้องใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพเพื่อส่งต่อไปเพื่อเยาวชน (Pečjak1977) หนึ่งเป้าหมายของระบบของการศึกษาคือนักเรียน ที่สิ้นคิดการศึกษา ควรอ่าน literate ซึ่งหมายความว่า พวกเขาอ่าน fluently เข้าใจสิ่งที่พวกเขาได้การอ่านและมีความสามารถในการใช้ข้อมูลที่พวกเขาได้อ่านเพื่อใช้สำหรับแก้ปัญหาของชีวิต และการเรียนรู้ปัญหาและ การเจริญเติบโตส่วนบุคคลของตนเอง (Pečjak, 2002)อ่านเป็นคำจัดกิจกรรมและกิจกรรมสมอง (Pečjak, 1996)บางอย่างผู้เขียนพูดถึงสององค์ประกอบพื้นฐานของกระบวนการอ่าน ได้แก่กระบวนการถอด และทำความเข้าใจกระบวนการ ในขณะที่คนอื่น ๆ วิธีการสอนอ่านในเงื่อนไขของชุดข้อมูลเวลาและพูดคุยเกี่ยวกับสองขั้นตอนพื้นฐานในการพัฒนา นี้เป็นขั้นตอนของเรียนรู้การอ่านและขั้นตอนการเรียนรู้ผ่านการอ่าน (Pečjak, 1995)ครูโรงเรียนยืนยันในข้อเท็จจริงมากเกินไปจะได้เรียนรู้ วิธีทำงานใหม่ถูกโอบล้อมเป็นประจำ แต่นักเรียนจะไปด้วยตนเองเมื่อพูดถึงวิธีการเรียนรู้(Aberšek, 2012) นักศึกษาควรจะสนับสนุนการค้นพบสาระสำคัญของข้อความ ค้นหาคำสำคัญ กำหนดรายละเอียดสำคัญ ในข้อความ และ การทำแผนผังแนวคิด ของนักเรียนแรงจูงใจสำหรับการอ่านสามารถได้รับการสนับสนุน โดยการเลือกข้อความต่าง ๆ และ เพื่อความสะดวกจึงการประมวลผลข้อความ (ไม้ Lapp น้ำท่วม และ เทย์เลอร์ 2008) นักเรียนประสบความสำเร็จอย่างมากปริมาณและคุณภาพของความรู้เมื่อมีความคุ้นเคยกับทักษะพื้นฐานและกลยุทธ์มากขึ้นอ่านและวิธีการใช้ (Buehl, 2000 โดยเกรกอรี Cahill, 2010)เมื่อจบการศึกษาประถมศึกษา นักเรียนที่ควรหลัก:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
สโลวีเนียมีส่วนร่วมในมากกว่าหนึ่งงานวิจัยองค์ความรู้ระหว่างประเทศที่วัด
ความรู้การอ่าน สโลวีเนียในสาขาวิทยาศาสตร์นี้ได้รับการพัฒนาและวัดโดย PISA และ
PIRLS วิจัย PISA ระยะวิจัยการอ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
ในระดับของการศึกษาของโรงเรียนประถมและมัธยม ในปี 2009 การวิจัย PISA ได้รับการมุ่งเน้นไปที่
การรู้หนังสืออ่านทั่วไป 470.000 นักเรียนจากทั่วทุกมุมโลกร่วมดำเนินการในการวิจัย.
ในสโลวีเนีย 7.764 นักเรียนมัธยมจาก 333 โปรแกรมการศึกษาโรงเรียนมัธยมและ
46 นักเรียนจาก 24 โรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วม ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า
ความสำเร็จของนักเรียนสโลวีเนียเมื่อเทียบกับสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศ OECD จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
และพวกเขาได้กำเริบตั้งแต่ปี 2006 โดย 11 คะแนน สโลวีเนียได้คะแนน 483 คะแนนในพื้นที่นี้ (
เฉลี่ยของสหภาพยุโรปคือ 489 และค่าเฉลี่ยของ OECD คือ 494) ตามการวิจัยพื้นฐานของการอ่าน
competences จะถึง 79% ของนักเรียน (เฉลี่ยของสหภาพยุโรป 82%) ความสามารถเหล่านี้
ช่วยให้นักเรียนได้ศึกษาต่อในสนามเดียวทุกคนและจะประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพ
ในชีวิตประจำวันของพวกเขา อำนาจสูงสุดในการอ่านจะถึง 0.3% ของสโลวีเนีย
นักเรียน (1% ในกลุ่มประเทศ OECD และ 0.6% ในสหภาพยุโรป) (http://www.pei.si/Default.aspx).
คนที่เรียนรู้มักจะทำมันไม่ถูกต้องเพราะไม่มีใครมี คิดว่าพวกเขาว่าจะ
ทำมัน วิธีการเรียนรู้ที่เป็นบุคคลและนักเรียนหรือนักเรียนทุกคนมีของเขา / เธอเอง
จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับพวกเขาที่จะปรับวิธีการของตัวเองของการเรียนรู้ลักษณะส่วนบุคคลของพวกเขาและลักษณะเฉพาะ นักเรียนที่มีวิธีการเรียนรู้ที่ไม่ดียังคงเลวร้ายยิ่งถ้าเขามี
ครูที่ดีดังนั้นครูจะต้องใช้วิธีการที่มีประสิทธิภาพที่จะผ่านพวกเขาไปยังคนหนุ่มสาว (Pečjak,
1977) หนึ่งในเป้าหมายของระบบการศึกษาของเราคือการที่นักเรียนในตอนท้ายของภาคบังคับ
การศึกษาควรอ่านความรู้ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอ่านได้อย่างคล่องแคล่วเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาได้
อ่านและมีความสามารถที่จะใช้ข้อมูลที่พวกเขาได้อ่านที่จะใช้สำหรับการแก้ชีวิตและการเรียนรู้
ปัญหาและสำหรับการเจริญเติบโตของตัวเองส่วนบุคคล (Pečjak, 2002).
การอ่านเป็นกิจกรรมที่จัดอย่างมากและการทำงานของสมอง ( Pečjak, 1996).
นักเขียนบางคนพูดคุยเกี่ยวกับสององค์ประกอบพื้นฐานของกระบวนการการอ่านคือกระบวนการ
ของการถอดรหัสและการทำความเข้าใจกระบวนการในขณะที่คนอื่น ๆ วิธีการเรียนการสอนของการอ่านใน
แง่ของอนุกรมเวลาและพูดคุยเกี่ยวกับสองขั้นตอนพื้นฐานในการอ่านการพัฒนา นี้เป็นขั้นตอนของการ
เรียนรู้ที่จะอ่านและขั้นตอนของการเรียนรู้ผ่านการอ่าน (Pečjak, 1995).
ครูโรงเรียนยืนยันในข้อเท็จจริงมากเกินไปที่จะเรียนรู้ วิธีการทำงานใหม่จะกอด
อย่างสม่ำเสมอ แต่นักเรียนที่เหลือมักจะได้ด้วยตัวเองเมื่อพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการเรียนรู้ของพวกเขา
(Aberšek, 2012) นักเรียนควรได้รับการส่งเสริมการค้นพบสาระสำคัญของข้อความค้นหา
สำหรับคำหลักที่กำหนดรายละเอียดที่สำคัญในข้อความและการทำแผนที่ความคิด นักศึกษา
แรงจูงใจสำหรับการอ่านสามารถได้รับการสนับสนุนโดยการเลือกข้อความต่างๆและเพื่ออำนวยความสะดวกจึง
ประมวลผลของข้อความ (ไม้ Lapp น้ำท่วมและเทย์เลอร์, 2008) นักเรียนบรรลุอย่างมีนัยสำคัญ
มากขึ้นปริมาณและคุณภาพของความรู้เมื่อเป็นที่คุ้นเคยกับทักษะพื้นฐานและกลยุทธ์
. ของการอ่านและวิธีการที่จะใช้พวกเขา (Buehl 2000 โดยเกรกอรี่และเคฮิลล์, 2010)
เมื่อจบการศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาที่นักเรียนควร master:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
สโลวีเนียมีส่วนร่วมในมากกว่าหนึ่งความรู้ระหว่างประเทศงานวิจัยที่วัด
ความรู้ การอ่าน สโลวาเกียในฟิลด์นี้ของวิทยาศาสตร์พัฒนาวัดโดย PISA และงานวิจัย pirls
. ที่ปิซาเป็นระยะทางการอ่าน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ความรู้
ในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา . 2552 ในการวิจัยได้มุ่งเน้น
ปิซาการรู้หนังสืออ่านทั่วไป 470.000 นักเรียนจากทั่วโลกร่วมดําเนินการวิจัย .
ในสโลวีเนีย 7.764 นักเรียนมัธยมจากโรงเรียนมัธยมและการศึกษาโครงการ 333
46 นักเรียนจาก 24 โรงเรียนเข้าร่วมโครงการ ผลการวิจัยพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา
สโลเวเนีย เทียบกับสหภาพยุโรปและ OECD อยู่ด้านล่างเฉลี่ย
และพวกเขาได้แย่ลงตั้งแต่ปี 2006 โดย 11 คะแนน สโลวีเนียคะแนน 483 คะแนนในพื้นที่นี้ (
EU โดยเฉลี่ยและ OECD เฉลี่ย 494 ) ตามการวิจัยด้านการอ่าน
พื้นฐานถึงร้อยละ 79 ของนักเรียน ( EU เฉลี่ย 82% ) เหล่านี้ทักษะ
ให้นักเรียนเรียนต่อในทุกๆ ด้าน และประสบความสำเร็จ และมีประสิทธิภาพ
ในชีวิตประจำวันของพวกเขา ทักษะการอ่านสูงสุดถึง 0.3% ของนักเรียนสโลเวเนีย
( 1 ) OECD และ 0.6% ใน EU ) ( http : / / www.pei ศรี / เริ่มต้น . aspx ) .
คนที่เรียนรู้มักจะทำมันไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีใครคิดอย่างไร

ทำเอง วิธีการเรียนรู้แต่ละและทุกๆ นักเรียนหรือนักศึกษาของเขา / เธอเอง
ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับพวกเขาเพื่อปรับวิธีการของตนเองในการเรียนรู้ในลักษณะของแต่ละบุคคลและยุทโธปกรณ์ . นักเรียนด้วยวิธีการเรียนไม่ดี อยู่ไม่ดี ต่อให้เขามี
ครูที่ดี ดังนั้นครูจะต้องใช้วิธีการที่มีประสิทธิภาพเพื่อส่งต่อไปยังเยาวชน ( PE čจั๊ก
1977 ) หนึ่งในเป้าหมายของระบบการศึกษาของเราว่านักเรียนที่จบการศึกษาภาคบังคับ
การศึกษา ควรอ่านหนังสือรู้หนังสือ . ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอ่านได้เข้าใจสิ่งที่พวกเขาได้อ่าน และมีความสามารถ
จะใช้ข้อมูลที่พวกเขาได้อ่านเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาชีวิตและการเรียนรู้
ปัญหาและสำหรับการเจริญเติบโตส่วนบุคคลของพวกเขาเอง ( PE čจั๊ก , 2002 ) .
อ่านเป็นอย่างดี กิจกรรมและสมอง ( PE čจั๊ก
, 1996 ) บางคนเขียนพูดคุยเกี่ยวกับองค์ประกอบขั้นพื้นฐานสองของกระบวนการอ่านคือกระบวนการ
การถอดรหัสและความเข้าใจกระบวนการ ในขณะที่คนอื่น ๆ วิธีการสอนการอ่าน
แง่ของอนุกรมเวลา และพูดคุยเกี่ยวกับสองขั้นตอนพื้นฐานในการพัฒนาการอ่าน นี้เป็นเวทีของการเรียนรู้ที่จะอ่าน
ขั้นตอนของการเรียนรู้ผ่านการอ่าน ( PE čจั๊ก , 1995 ) . ครู
โรงเรียนยืนยันในข้อเท็จจริงมากเกินไปที่จะเรียนรู้ วิธีการทำงานใหม่มี embraced
เป็นประจำ แต่นักเรียนมักจะไปเองเมื่อพูดถึงการเรียนรู้วิธีการ
( แต่š EK , 2012 ) นักเรียนควรได้รับการค้นพบแก่นแท้ของข้อความค้นหา
สำหรับคำหลักตรวจสอบรายละเอียดที่สำคัญในข้อความและการทำแผนครั้งนี้ แรงจูงใจของนักศึกษา
อ่านสามารถสนับสนุนได้โดยการเลือกข้อความต่างๆและเพื่อความสะดวก
การประมวลผลข้อความ ( ไม้ , แล็ป , น้ำท่วมและ Taylor , 2008 ) นักเรียนบรรลุผลอย่างมีนัยสำคัญ
ในปริมาณที่มากขึ้นและคุณภาพของความรู้เมื่อคุ้นเคยกับทักษะพื้นฐานและกลยุทธ์
อ่านและวิธีการใช้ ( buehl 2000 โดยเกรกอรี และเคฮิลล์ , 2010 ) .
เมื่อจบการศึกษาระดับประถมศึกษา นักเรียนควรหลัก :