One company takes a strategic turnP

One company takes a strategic turn
Pepsi appears to be the one accepting the fact that consumers want to live healthier lifestyles. In response, several years ago Pepsi slowly built a portfolio of brands outside its previous core competency. Well-known brands that are now under the Pepsi umbrella include Gatorade, Quaker, and Frito-Lay. Right now, Pepsi's revenue is almost evenly split between food and beverages. Meanwhile, Coca-Cola still derives the vast majority of its sales from sparkling beverages.

As far as Pepsi's strategy is concerned, the results speak for themselves. Pepsi grew revenue and earnings per share by 2% and 12%, respectively, over the first nine months of 2013. Compare this to Coca-Cola, whose revenue and EPS both fell 2% through the first three quarters of the year. While Coca-Cola remains a blue-chip company that registers hefty profits year in and year out, there's no denying the company's underlying results have hit a snag.

To be fair, both Coca-Cola and Pepsi have richly rewarded shareholders over many decades. Both companies have paid and increased their dividends for many years in a row. Coca-Cola and PepsiCo have increased their dividends for 51 and 41 consecutive years, respectively. And, each stock yields roughly 2.7%, which is better than the 2% payout of the broader market.

If dividends are your primary concern, Dr Pepper Snapple (NYSE: DPS ) might be for you. That's because Dr. Pepper Snapple yields 3.2%, significantly above both Coca-Cola and Pepsi, as well as the overall market. Moreover, Dr. Pepper Snapple is a much smaller competitor than the two industry giants, with a market capitalization of just $9 billion. As a result, Dr. Pepper Snapple might have more room for stock appreciation, since it's got more room to grow due to its much smaller size.

At the same time, Dr. Pepper Snapple is seeing its fair share of troubles to start the year. The company's sales are flat over the first nine months, and operating income has actually declined during the first three quarters of 2013.

While Coca-Cola and Pepsi have delivered strong results for their shareholders for many years, what matters for investors is what the future holds. And when it comes to Coca-Cola and Pepsi, the vastly different strategies laid out by each company's management teams mean there may be a clear choice going forward.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บริษัทหนึ่งจะเปิดกลยุทธ์แป๊ปซี่ให้การยอมรับความจริงที่ว่าผู้บริโภคต้องการชีวิตที่มีสุขภาพดีแล้ว ตอบ หลายปีแป๊ปซี่ช้าสร้างผลงานของแบรนด์นอกความสามารถหลักของก่อนหน้านี้ แบรนด์ที่รู้จักกันดีที่ตอนนี้อยู่ภายใต้ร่มแป๊ปซี่รวม Gatorade, Quaker และ Frito เลย์ ตอนนี้ เกือบเท่า ๆ กันมีแบ่งรายได้ของแป๊ปซี่ระหว่างอาหารและเครื่องดื่ม ในขณะเดียวกัน โคคา-โคล่ายังมาขายของส่วนใหญ่จากเครื่องดื่มเป็นประกายเป็นที่กังวลของแป๊ปซี่กลยุทธ์ ผลพูดสำหรับตัวเอง แป๊ปซี่เพิ่มขึ้นรายได้และกำไรต่อหุ้น 2% และ 12% ตามลำดับ ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2013 เปรียบเทียบนี้โคคา-โคล่า มีรายได้และกำไรต่อหุ้นทั้งสองลดลง 2% ถึง 3 รอบ แรกของปี ในขณะที่โคคา-โคล่ายังคง บริษัทบลูชิพที่ทะเบียนกำไรหนักปีและปีที่ออก มีไว้ไม่มีการปฏิเสธผลการสอบของบริษัทได้ตีตอไม้ใต้น้ำเป็นมีความเป็นธรรม โคคา-โคล่าและแป๊ปซี่มีมั่งคั่งรับรางวัลหุ้นหลายทศวรรษ บริษัททั้งสองได้ชำระเงิน และเพิ่มเงินปันผลของหลายปีในแถว โคคา-โคล่าและ PepsiCo มีเพิ่มขึ้นเงินปันผลของ 41 และ 51 ต่อเนื่องปี ตามลำดับ และ แต่ละหุ้นทำให้ประมาณ 2.7% ซึ่งเป็นการชำระ 2% ของตลาดกว้างกว่าเงินปันผลจะกังวลหลักของคุณ Dr Snapple พริกไทย (NYSE: DPS) อาจจะหาได้ นั่นเป็น เพราะดร. Snapple พริกไทย 3.2% เหนือทั้งโคคา-โคล่า และแป๊ปซี่ เช่นเดียว กับตลาดโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญที่ทำให้ นอกจากนี้ ดร. Snapple พริกไทยเป็นมากมีขนาดเล็กกว่าคู่แข่งกว่ายักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมสอง ด้วยมูลค่าตลาดของเพียง $9 พันล้าน ดัง ดร. Snapple พริกไทยอาจมีห้องเพิ่มเติมสำหรับเพิ่มค่าหุ้น เนื่องจากมีมากจะเติบโตจากขนาดเล็กมากในเวลาเดียวกัน ดร. Snapple พริกไทยจะเห็นส่วนแบ่งยุติธรรมของปัญหาการเริ่มต้นปี ขายของบริษัทจะแบนช่วง 9 เดือนแรก และทำรายได้จริงปฏิเสธในช่วงไตรมาสสามแรกของปี 2013ในขณะที่โคคา-โคล่าและแป๊ปซี่ได้ส่งผลแข็งแรงสำหรับผู้ถือหุ้นของพวกเขาหลายปี สิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนได้ว่าอนาคต และเมื่อมาถึงลาและแป๊ปซี่ กลยุทธ์สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ที่วาง โดยทีมบริหารของบริษัทหมายความว่า อาจมีทางเลือกที่ชัดเจนไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บริษัท หนึ่งจะใช้เวลาเปิดกลยุทธ์
เป๊ปซี่ที่ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในการยอมรับความจริงที่ว่าผู้บริโภคต้องการที่จะอยู่การดำเนินชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ ในการตอบสนองเป็นเวลาหลายปีที่ผ่านมาเป๊ปซี่ช้าสร้างพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ที่อยู่นอกความสามารถหลักเดิม แบรนด์ที่รู้จักกันดีว่าตอนนี้ภายใต้ร่มเป๊ปซี่รวมถึงเตอเควกเกอร์และ Frito-Lay ตอนนี้รายได้ของเป๊ปซี่เกือบจะเท่า ๆ กันแบ่งระหว่างอาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่โคคาโคล่ายังคงเกิดขึ้นส่วนใหญ่ของยอดขายมาจากประกายเครื่องดื่มเท่าที่กลยุทธ์ของเป๊ปซี่เป็นห่วงผลการพูดสำหรับตัวเอง เป๊ปซี่เติบโตของรายได้และกำไรต่อหุ้น 2% และ 12% ตามลำดับในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2013 เปรียบเทียบนี้เพื่อ Coca-Cola, ที่มีรายได้และกำไรต่อหุ้นทั้งสองลดลง 2% ผ่านสามไตรมาสแรกของปี ในขณะที่โคคาโคล่ายังคงเป็น บริษัท บลูชิพที่ลงทะเบียนกำไรหนักในปีและปีที่ออกมาไม่มีการปฏิเสธผลการพื้นฐานของ บริษัท ที่มีการตีอุปสรรค์เป็นธรรมทั้ง Coca-Cola และเป๊ปซี่ได้รับรางวัลมั่งคั่งของผู้ถือหุ้นมาเป็นเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งสอง บริษัท ได้จ่ายเงินและการจ่ายเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นของพวกเขาเป็นเวลาหลายปีในแถว Coca-Cola และเป๊ปซี่โคได้เพิ่มขึ้นเงินปันผลของพวกเขาสำหรับ 51 และ 41 ปีติดต่อกันตามลำดับ และแต่ละหุ้นอัตราผลตอบแทนประมาณ 2.7% ซึ่งดีกว่าการจ่ายเงิน 2% ของตลาดที่กว้างขึ้นหากการจ่ายเงินปันผลเป็นความกังวลหลักของคุณ Dr Pepper แน็ปเปิล (NYSE: DPS) อาจจะมีสำหรับคุณ นั่นเป็นเพราะ Dr. Pepper แน็ปเปิลอัตราผลตอบแทน 3.2% อย่างมีนัยสำคัญดังกล่าวข้างต้นทั้ง Coca-Cola และเป๊ปซี่เช่นเดียวกับตลาดโดยรวม นอกจากนี้ Dr. Pepper แน็ปเปิลเป็นคู่แข่งที่มีขนาดเล็กกว่าสองยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าตลาดเพียง $ 9000000000 เป็นผลให้ Dr. Pepper แน็ปเปิลอาจจะมีห้องพักมากขึ้นสำหรับการแข็งค่าของหุ้นเพราะมันมีห้องพักมากขึ้นที่จะเติบโตเนื่องจากการขนาดเล็กมากของมันในขณะเดียวกันดรพริกไทยแน็ปเปิลจะเห็นหุ้นยุติธรรมของปัญหาที่จะเริ่มต้นในปี . ยอดขายของ บริษัท จะถูกแบนในช่วงเก้าเดือนแรกและรายได้จากการดำเนินงานลดลงจริงในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2013 ในขณะที่โคคาโคล่าและเป๊ปซี่มีการส่งมอบผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งสำหรับผู้ถือหุ้นของพวกเขาเป็นเวลาหลายปีสิ่งที่สำคัญสำหรับนักลงทุนคือสิ่งที่ในอนาคต ถือ และเมื่อมันมาถึง Coca-Cola และเป๊ปซี่, กลยุทธ์ที่แตกต่างกันอย่างมากมายวางโดยของแต่ละ บริษัท ทีมบริหารหมายความว่าอาจจะมีทางเลือกที่ชัดเจนก้าวไปข้างหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งใน บริษัท ที่ใช้กลยุทธ์เปิด
เป๊ปซี่ ปรากฏเป็นหนึ่งในการยอมรับความเป็นจริงที่ผู้บริโภคต้องการอยู่ฝรั่งจ๋า healthier . ในการตอบสนอง , หลายปีที่ผ่านมาเป๊ปซี่ ค่อยๆสร้างผลงานของแบรนด์นอก สมรรถนะหลักของก่อนหน้านี้ แบรนด์ที่รู้จักกันดีว่าตอนนี้อยู่ภายใต้ร่มเป๊ปซี่รวม Gatorade เควกเกอร์ และฟรีโทวาง ตอนนี้เป๊ปซี่ รายได้เกือบจะเท่ากันแยก ระหว่าง อาหาร และ เครื่องดื่ม ขณะเดียวกัน โคคา - โคล่า ยังมา ส่วนใหญ่ของยอดขายจากเครื่องดื่มแสน

เท่าที่กลยุทธ์ของเป๊ปซี่เป็นกังวล ผลการพูดสำหรับตัวเอง เป๊ปซี่เติบโตรายได้และกำไรต่อหุ้น 2 % และ 12 % ตามลำดับ ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2013 . การเปรียบเทียบนี้ โคคา โคล่าที่มีรายได้และกำไรต่อหุ้นลดลง 2 % จากทั้งสามไตรมาสแรกของปี ในขณะที่ บริษัท โคคา โคล่า ยังคงเป็นหุ้นบลูชิพที่ลงทะเบียนหนักกำไรทุกปี ไม่มีการปฏิเสธของบริษัท เป็นต้น ผลลัพธ์ที่ได้ตีอุปสรรค์ ครับ

เพื่อความเป็นธรรม ทั้งโคคา โคล่า เป๊ปซี่ มั่งคั่งและมีรางวัลผู้ถือหุ้นกว่าหลายทศวรรษที่ผ่านมาทั้งสอง บริษัท ได้จ่ายและเพิ่มการจ่ายเงินปันผลของพวกเขาเป็นเวลาหลายปีในแถว โคคา - โคล่า กำลังเพิ่มขึ้น และเงินปันผลของพวกเขาสำหรับ 51 และ 41 ปีติดต่อกัน , ตามลำดับ และ แต่ละหุ้นอัตราผลตอบแทนประมาณ 2.7% ซึ่งดีกว่า 2 % การจ่ายเงินของตลาดในวงกว้าง

ถ้าปันผลเป็นกังวลหลักของคุณ , ดร. พริกไทย snapple ( NYSE : DPS ) อาจจะให้คุณ นั่นเป็นเพราะดร.พริกไทย snapple ผลผลิตร้อยละ 3.2 ทางด้านบนทั้งสอง และโคคา โคล่า เป๊ปซี่ รวมทั้งตลาดโดยรวม นอกจากนี้ ดร. snapple เป็นคู่แข่งที่เล็กกว่าสองยักษ์ใหญ่ในวงการ มีมูลค่าตลาดเพียง $ 9 พันล้าน ผลคือ ดร. snapple อาจมีห้องพักมากขึ้นสำหรับหุ้นขึ้นราคา เนื่องจากมันมีห้องพักมากขึ้นที่จะเติบโต เนื่องจากมีขนาดเล็กมากขนาด

ในเวลาเดียวกัน ดร. พริกไทย snapple เห็นส่วนแบ่งยุติธรรมของปัญหาที่เริ่มต้นปี ยอดขายของ บริษัท จะแบนกว่าเก้าเดือนแรก และรายได้จะลดลงในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2013 .

ในขณะที่ บริษัท โคคาโคล่าและเป๊ปซี่มีการส่งมอบผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งสำหรับผู้ถือหุ้นของพวกเขาเป็นเวลาหลายปี ที่สำคัญสำหรับนักลงทุนเป็นสิ่งที่อนาคตถือและเมื่อมันมาถึง บริษัท โคคาโคล่า และเป๊ปซี่ กลยุทธ์ที่แตกต่างกันอย่างมากมายที่วางไว้โดยทีมบริหารของแต่ละบริษัท หมายความว่า อาจจะมีทางเลือกที่ชัดเจนต่อไป