This paper examines how performance

This paper examines how performance measures are defined in major earnings-based financial covenants in loan contracts to shed light on the economic rationales underlying the contractual use of performance measures. I find an earnings-based covenant is typically based on a performance measure close to earnings before interest, tax, amortization, and depreciation expenses (EBITDA). However, my empirical analyses show that EBITDA is less useful in explaining credit risk than earnings before interest and tax expenses (EBIT) and even the bottom-line net income. Thus, measuring credit risk cannot fully explain the choice of accounting performance measures in earnings-based covenants. I conjecture that contracting parties choose an EBITDA-related measure, instead of a measure calculated after depreciation and amortization expenses (e.g., EBIT), to make the performance measure less sensitive to investment activities, which can be controlled through other contractual terms, such as a restriction on capital expenditure, and provide empirical evidence consistent with this conjecture.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระดาษนี้ตรวจสอบวิธีกำหนดประเมินประสิทธิภาพในหลักกำไรตามการเงินพันธสัญญาในสัญญาเงินกู้เพื่อแสดงการสิ้นสุดเศรษฐกิจพื้นฐานการใช้สัญญาการประเมินประสิทธิภาพ พันธสัญญาตามกำไรเป็นไปตามตัวชี้วัดประสิทธิภาพใกล้เคียงกับกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ตัด และค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เติม อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์เชิงประจักษ์ของฉันแสดงว่า EBITDA จะน้อยเป็นประโยชน์ในการอธิบายความเสี่ยงด้านเครดิตมากกว่ากำไรก่อนจ่ายดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) และแม้ทำกำไรสุทธิ ดังนั้น การวัดความเสี่ยงด้านเครดิตไม่ครบอธิบายเลือกบัญชีประเมินประสิทธิภาพในกำไรตามพันธสัญญา ผมนึกว่า คู่สัญญาฝ่ายที่เลือกวัดที่เกี่ยวข้องกับ EBITDA แทนการวัดที่คำนวณจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายค่าใช้จ่าย (เช่น EBIT), ทำกิจกรรม ลง ทุนสามารถควบคุมผ่านเงื่อนไขอื่น ๆ ตามสัญญา เช่นมีข้อจำกัดเกี่ยวกับรายจ่ายฝ่ายทุน และแสดงหลักฐานเชิงประจักษ์สอดคล้องกับข้อความคาดการณ์นี้ไวต่อการวัดประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระดาษนี้จะตรวจสอบวิธีการวัดผลการปฏิบัติงานที่กำหนดไว้ในที่สำคัญรายได้ตามเงื่อนไขทางการเงินในการทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อหลั่งน้ำตาแสงในเหตุผลทางเศรษฐกิจพื้นฐานการใช้สัญญาการวัดผลการปฏิบัติงาน ผมพบว่าเป็นพันธสัญญากำไรตามปกติจะขึ้นอยู่กับการวัดประสิทธิภาพการทำงานใกล้เคียงกับกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีค่าตัดจำหน่ายและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์เชิงประจักษ์ของฉันแสดงให้เห็นว่า EBITDA จะเป็นประโยชน์น้อยในการอธิบายความเสี่ยงด้านเครดิตกว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษี (EBIT) และแม้กระทั่งรายได้สุทธิด้านล่างบรรทัด ดังนั้นการวัดความเสี่ยงด้านเครดิตไม่สามารถอธิบายทางเลือกของการวัดผลการปฏิบัติงานการบัญชีในพันธสัญญากำไรตาม ผมคาดว่าคู่สัญญาเลือกมาตรการ EBITDA ที่เกี่ยวข้องแทนการวัดคำนวณได้หลังจากหักค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายค่าใช้จ่าย (เช่น EBIT) เพื่อให้การวัดประสิทธิภาพการทำงานไม่ไวต่อกิจกรรมการลงทุนซึ่งสามารถควบคุมผ่านข้อกำหนดในสัญญาอื่น ๆ เช่น ข้อ จำกัด ในการใช้จ่ายเงินทุนและให้หลักฐานเชิงประจักษ์ที่สอดคล้องกับการคาดเดานี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทความนี้เป็นการวิเคราะห์ว่ามาตรการการปฏิบัติงานที่กำหนดไว้ในรายสาขาตามพันธสัญญาทางการเงินในสัญญาเงินกู้ที่จะหลั่งแสงในทางเศรษฐกิจมีเหตุผลอ้างอิงใช้สัญญาของการวัดประสิทธิภาพ ผมหากำไรตามกติกาโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของมาตรการใกล้เคียงกับกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ( EBITDA ) , . อย่างไรก็ตาม , การวิเคราะห์เชิงประจักษ์ของบริษัทของฉันแสดงให้เห็นว่าเป็นประโยชน์น้อยในการอธิบายสินเชื่อกว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี ( หักค่าใช้จ่าย ) และแม้แต่เส้นฐานเงินได้สุทธิ ดังนั้น การวัดความเสี่ยงสินเชื่อไม่เต็มที่อธิบายทางเลือกของมาตรการในการปฏิบัติตามพันธสัญญา บัญชีรายได้ . ผมคาดเดาว่า ภาคีที่เกี่ยวข้อง เลือก ของ วัด แทนการวัดคำนวณค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายหลังเช่น ( EBIT ) เพื่อให้การวัดประสิทธิภาพความไวน้อยกิจกรรมการลงทุน ซึ่งสามารถควบคุมผ่านเงื่อนไขสัญญาอื่น ๆ เช่น ข้อจำกัดด้านเงินทุน และให้สอดคล้องกับการคาดเดานี้ หลักฐานเชิงประจักษ์