AbstractObjectivesReview past studi

Abstract
Objectives

Review past studies of the microbiology of subperiosteal abscesses (SPOA) complicating sinusitis in children and their implications of the antimicrobials administered to treat the infection.

Methods

Literature search was conducted of the Cochrane Library, EMBASE, TRIP, EMBASE, and MEDLINE databases from their inception.

Results

The most common pathogens isolated from studies of SPOA complicating sinusitis are aerobic (Streptococcus pneumoniae, Streptococcus spp., Haemophilus spp., Eikenella corrodens), anaerobic (Peptostreptococcus, Fusobacterium, Prevotella, Porphyromonas, Bacteroides, and Veillonella spp.), and micoaerophilic streptococci (Streptococcus anginosus/Streptococcus milleri group), all members of the oropharyngeal flora. S. pneumoniae and S. aureus were more frequently recovered in children >7 years old, while polymicrobial aerobic–anaerobic flora were more often isolated from those >15 years. The introduction of pneumococcal vaccine reduced the rate of isolation of S. pneumoniae, and correlated with increase of recovery of S. aureus including methicillin resistant strains, as well as Streptococcus pyogenes and S. anginosus/milleri group.

Conclusions

The microbiology and consequently the treatment of respiratory infections including sinusitis and its complications has evolved over the past decades. Establishing the microbiology of SPOA by obtaining appropriate cultures for both aerobic and anaerobic bacteria are essential for proper antimicrobial selection.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์ทบทวนการศึกษาจุลชีววิทยาของฝี subperiosteal (SPOA) ซับซ้อนไซนัสอักเสบในเด็กและการของยาต้านจุลชีพยาในการรักษาติดเชื้อที่ผ่านมาวิธีการดำเนินการค้นหาเอกสารของฐานข้อมูลไลบรา รีคอเครน EMBASE เดินทาง EMBASE และ MEDLINE จากเริ่มผลลัพธ์เชื้อโรคทั่วไปที่แยกได้จากการศึกษาของ SPOA ซับซ้อนไซนัสมีแอโรบิก (pneumoniae อุณหภูมิ อุณหภูมิออกซิเจน ออกซิเจน Haemophilus, Eikenella corrodens), ไม่ใช้ออกซิเจน (Peptostreptococcus, Fusobacterium, Prevotella, Porphyromonas, Bacteroides และ Veillonella ออกซิเจน), และ micoaerophilic streptococci (อุณหภูมิ anginosus/อุณหภูมิ กลุ่ม milleri), สมาชิกทั้งหมดของพืช oropharyngeal S. pneumoniae และหมอเทศข้างลาย S. ถูกกู้คืนมาบ่อยมากในเด็ก > 7 ปี ในขณะที่ polymicrobial แอโรบิก – ใช้พืชมากมักจะถูกแยกจาก > 15 ปี การแนะนำของวัคซีนเชื้อลดอัตราการแยกของ S. pneumoniae และความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของการกู้คืนของหมอเทศข้างลาย S. ทั้งสาย พันธุ์ที่ทนทานต่อ methicillin รวมถึงอุณหภูมิ pyogenes และ S. anginosus/milleri กลุ่มบทสรุปการจุลชีววิทยา และการรักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเช่นไซนัสอักเสบและมีภาวะแทรกซ้อนจึงมีพัฒนาในทศวรรษ สร้างจุลชีววิทยาของ SPOA โดยได้รับวัฒนธรรมที่เหมาะสมสำหรับแบคทีเรียทั้งออกซิเจน และเป็นการเลือกยาต้านจุลชีพที่เหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ตรวจสอบที่ผ่านมาการศึกษาทางจุลชีววิทยาของฝี subperiosteal (SPOA) แทรกซ้อนโรคไซนัสอักเสบในเด็กและผลกระทบของยาต้านจุลชีพยาในการรักษาโรคติดเชื้อ. วิธีการค้นหาวรรณกรรมได้ดำเนินการของ Cochrane Library, EMBASE เดินทาง, EMBASE และฐานข้อมูล MEDLINE จาก การลงทะเบียนเรียนของพวกเขา. ผลลัพธ์เชื้อโรคที่พบมากที่สุดที่แยกได้จากการศึกษาของ SPOA แทรกซ้อนโรคไซนัสอักเสบเป็นแอโรบิก (Streptococcus pneumoniae, Streptococcus spp. Haemophilus spp. corrodens Eikenella) แบบไม่ใช้ออกซิเจน (Peptostreptococcus, Fusobacterium, Prevotella, Porphyromonas, Bacteroides และ Veillonella spp.) และ micoaerophilic streptococci (Streptococcus anginosus / Streptococcus กลุ่ม milleri) สมาชิกทุกคนของฟลอร่า oropharyngeal S. pneumoniae และ S. aureus หายบ่อยครั้งมากขึ้นในเด็ก> 7 ปีในขณะที่ฟลอร่าแอโรบิก polymicrobial-แบบไม่ใช้ออกซิเจนมากขึ้นมักจะถูกแยกจากผู้ที่> 15 ปี การแนะนำของวัคซีนโรคปอดบวมลดอัตราของการแยกของ S. pneumoniae และมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเชื้อ S. aureus สายพันธุ์รวมทั้ง methicillin ทนเช่นเดียวกับเชื้อ Streptococcus pyogenes และ S. anginosus / กลุ่ม milleri. สรุปผลการวิจัยจุลชีววิทยาและทำให้การรักษา ของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคไซนัสอักเสบและภาวะแทรกซ้อนได้พัฒนากว่าทศวรรษที่ผ่านมา การสร้างทางจุลชีววิทยาของ SPOA โดยได้รับวัฒนธรรมที่เหมาะสมสำหรับทั้งเชื้อแบคทีเรียและแอโรบิกแบบไม่ใช้ออกซิเจนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเลือกยาต้านจุลชีพที่เหมาะสม