Health systems in Sri LankaSri Lank

Health systems in Sri Lanka

Sri Lanka’s public spending on health was 1.5 per cent of GDP in 2011, equivalent to US$97 per capita. In the most recent survey, conducted between 1997 and 2010, there were 49 doctors, and 193 nurses and midwives per 100,000 people. Additionally, in the period 2001-12, 99 per cent of births were attended by qualified health staff and in 2012, 99 per cent of one-year-olds were immunised with one dose of measles. In 2011, 93 per cent of people were using an improved drinking water source and 91 per cent had access to adequate sanitation facilities. The most recent survey, conducted in the period 2000-11, reports that Sri Lanka has four pharmaceutical personnel per 100,000 people.

Health and medical services in Sri Lanka are provided by both the public and private sector. The provision of public health service in Sri Lanka takes place at the central, provincial, district and divisional levels. Most people live within 5 km of a health facility. Private sector health services also play an important role, with a relatively low-cost private health care sector. There are some pharmaceutical manufacturing facilities in the country, although the vast majority of pharmaceutical requirements are imported.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบบสุขภาพในประเทศศรีลังกาประเทศศรีลังกาสาธารณะใช้จ่ายด้านสุขภาพได้ร้อยละ 1.5 ของ GDP ใน 2011 เทียบเท่ากับสหรัฐอเมริกา $97 ต่อ capita ในการสำรวจล่าสุด ดำเนินการระหว่างปี 1997 และ 2010 มี 49 แพทย์ และการ 193 พยาบาล และ midwives ต่อ 100000 คน นอกจากนี้ ในช่วง 2001-12 ร้อยละ 99 ของเกิดถูกเข้าร่วมโดยสุขภาพที่เหมาะสม และ ใน 2012 ร้อยละ 99 ของหนึ่งปีได้ immunised กับยาหนึ่งของโรคหัด ใน 2011 ร้อยละ 93 ของผู้ใช้กับแหล่งน้ำดื่มที่ดีขึ้น และเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอสุขาภิบาลมีร้อยละ 91 แบบสำรวจล่าสุด ในระยะ 2000-11 รายงานว่า ศรีลังกามีบุคลากรเภสัชกรรม 4 ต่อ 100000 คนสุขภาพและบริการทางการแพทย์ในประเทศศรีลังกามีทั้งรัฐและเอกชน จัดบริการสาธารณสุขในประเทศศรีลังกาจะตำแหน่งที่เซ็นทรัล จังหวัด อำเภอ และระดับ divisional คนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ภายในของสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสุขภาพ 5 กิโลเมตร บริการสุขภาพภาคเอกชนยังมีบทบาทสำคัญ กับเซกเตอร์สุขภาพส่วนตัวค่อนข้างโลว์คอสต์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกการผลิตยาในประเทศ ถึงแม้ว่าความต้องการยาส่วนใหญ่จะนำเข้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระบบสุขภาพในศรีลังกาของศรีลังกาใช้จ่ายของประชาชนที่มีต่อสุขภาพเป็นร้อยละ 1.5 ของ GDP ในปี 2011 คิดเป็น US $ 97 ต่อหัว ในการสำรวจล่าสุดที่ดำเนินการระหว่างปี 1997 และปี 2010 มี 49 แพทย์และพยาบาล 193 และผดุงครรภ์ต่อ 100,000 คน นอกจากนี้ในช่วง 2001-12 ร้อยละ 99 ของการเกิดได้รับการเข้าร่วมโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มีคุณภาพและในปี 2012 ร้อยละ 99 ของเด็กอายุหนึ่งปีได้รับวัคซีนกับปริมาณของโรคหัด ในปี 2011 ร้อยละ 93 ของคนที่ได้ใช้เป็นแหล่งน้ำดื่มที่ดีขึ้นและร้อยละ 91 มีการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกการสุขาภิบาลอย่างเพียงพอ การสำรวจล่าสุดที่จัดทำในช่วง 2000-11 รายงานว่าศรีลังกามีสี่บุคลากรยาต่อ 100,000 คน. สุขภาพและบริการทางการแพทย์ในศรีลังกาที่มาจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ให้บริการสุขภาพของประชาชนในประเทศศรีลังกาจะเกิดขึ้นที่กลางจังหวัดอำเภอและระดับกองพล คนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ภายใน 5 กิโลเมตรจากสถานบริการสุขภาพ บริการสุขภาพภาคเอกชนนอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญที่มีค่อนข้างต่ำค่าใช้จ่ายภาคการดูแลสุขภาพส่วนตัว มีบางสิ่งอำนวยความสะดวกการผลิตยาในประเทศที่มีถึงแม้ว่าส่วนใหญ่ของความต้องการยาที่นำเข้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระบบสุขภาพในศรีลังกา

ศรีลังกาประชาชนใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพเป็นร้อยละ 1.5 ของ GDP ในปี 2554 เท่ากับ US $ 97 ต่อหัว ในการสำรวจล่าสุดดำเนินการระหว่างปี 1997 และปี 2553 มีแพทย์และพยาบาลและผดุงครรภ์ 49 , 193 บาท 100000 คน นอกจากนี้ ในช่วง 2001-12 99 ร้อยละของการเกิดมีผู้เข้าร่วมที่เหมาะสมสุขภาพพนักงาน และในปี 2012 นี้ร้อยละ 99 ของหนึ่งปีมี immunised กับหนึ่งปริมาณของโรคหัด ใน 2011 , 93 เปอร์เซ็นต์ของคนที่เคยใช้ปรับปรุงน้ำดื่มแหล่งและ 91 เปอร์เซ็นต์เข้าถึงเพียงพอสุขาภิบาลสิ่งอำนวยความสะดวก การสำรวจล่าสุดดำเนินการในช่วง 2000-11 , รายงานว่าศรีลังกามี 4 เภสัชกรรม บุคลากรต่อ

100000 คนสุขภาพและการแพทย์ในศรีลังกา มีให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน การจัดบริการสาธารณสุขในศรีลังกาจะเกิดขึ้นที่ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค เขต และระดับแผนก . คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ภายใน 5 กิโลเมตร จากสถานบริการสุขภาพ บริการสุขภาพภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญกับภาคการดูแลสุขภาพส่วนตัวที่ค่อนข้างราคาถูกมีโรงงานผลิตยาในประเทศ แม้ว่าส่วนใหญ่ของความต้องการยานำเข้า