Cassava or manioc (Manihot esculent

Cassava or manioc (Manihot esculenta Crantz), a perennial shrub of the New World, currently is the sixth world food crop for more than 500 million people in tropical and sub-tropical Africa, Asia and Latin America. It is cultivated mainly by resource-limited small farmers for its starchy roots, which are used as human food either fresh when low in cyanogens or in many processed forms and products, mostly starch, flour, and for animal feed. Because of its inherent tolerance to stressful environments, where other food crops would fail, it is often considered a food-security source against famine, requiring minimal care. Under optimal environmental conditions, it compares favorably in production of energy with most other major staple food crops due to its high yield potential. Recent research at the Centro Internacional de Agricultura Tropical (CIAT) in Colombia has demonstrated the ability of cassava to assimilate carbon at very high rates under high levels of humidity, temperature and solar radiation,which correlates with productivity across all environments whether dry or humid. When grown on very poor soils under prolonged drought for more than 6 months, the crop reduce both its leaf canopy and transpiration water loss, but its attached leaves remain photosynthetically active, though at greatly reduced rates. The main physiological mechanism underlying such a remarkable tolerance to drought was rapid stomatal closure under both atmospheric and edaphic water stress, protecting the leaf against dehydration while the plant depletes available soil water slowly during long dry periods. This drought tolerance mechanism leads to high crop water use efficiency values. Although the cassava fine root system is sparse, compared to other crops, it can penetrate below 2 m soil,thus enabling the crop to exploit deep water if available. Leaves of cassava and wild Manihot possess elevated activities of the C4 enzyme PEP carboxylase but lack the leaf Kranz anatomy typical of C4 species, pointing to the need for further research on cultivated and wild Manihot to further improve its photosynthetic potential and yield,particularly under stressful environments. Moreover, a wide range in values of Km (CO2) for the C3 photosynthetic enzyme Rubisco was found among cassava cultivars indicating the possibility of selection for higher affinity to CO2, and consequently higher leaf photosynthesis. Several plant traits that may be of value in crop breeding and improvement have been identified, such as an extensive fine root system, long leaf life, strong root sink and high leaf photosynthesis. Selection of parental materials for tolerance to drought and infertile soils under representative field conditions have resulted in developing improved cultivars that have high yields in favorable environments while producing reasonable and stable yields under stress.
PMID: 15669146

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันสำปะหลังหรือ manioc (Manihot อ่อน Crantz), ไม้พุ่มยืนต้นของโลกใหม่ ปัจจุบันคือ พืชอาหารโลกหกมากกว่า 500 ล้านคนในเขตร้อน และกึ่งเขตร้อนแอฟริกา เอเชีย และอเมริกา มันคือปลูก โดยทรัพยากรจำกัดเกษตรกร สำหรับ รากของแป้ง ซึ่งจะใช้เป็นอาหารมนุษย์ทั้งสดต่ำเมื่อ ใน cyanogens หรือ ในหลายรูปแบบแปรรูปและผลิตภัณฑ์ ส่วนใหญ่แป้ง แป้ง และอาหารสัตว์เป็นหลัก เนื่องจากความอดทนอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เครียด การที่พืชอาหารอื่น ๆ จะล้มเหลว มันมักจะถือเป็นแหล่งความปลอดภัยอาหารกับอดอยาก ต้องการการดูแลน้อยที่สุด ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มันเปรียบเทียบพ้องต้องกันในการผลิตพลังงานกับพืชอาหารหลักที่สำคัญส่วนใหญ่อื่น ๆ เนื่องจากศักยภาพสูง งานวิจัยล่าสุดที่ Centro Internacional de Agricultura Tropical (CIAT) ในโคลัมเบียได้แสดงให้เห็นความสามารถของมันสำปะหลังในการดูดซึมคาร์บอนในอัตราที่สูงมากภายใต้ระดับสูงของความชื้น อุณหภูมิ และ รังสีแสงอาทิตย์ ซึ่งคู่กับประสิทธิภาพในทุกสภาพแวดล้อมไม่ว่าจะแห้ง หรือชื้น เมื่อปลูกในดินดีภายใต้ภัยแล้งเป็นเวลานานมากกว่า 6 เดือน พืชลดการใบหลังคาและการคายน้ำน้ำเสีย แต่ใบแนบ photosynthetically active ว่าที่ลดราคา กลไกทางสรีรวิทยาหลักพื้นฐานเช่นความอดทนที่โดดเด่นกับภัยแล้งถูกปิดช่องอย่างรวดเร็วภายใต้ความเครียดทั้งบรรยากาศ และ edaphic น้ำ ปกป้องใบกับการคายน้ำในขณะที่พืชแผ่ดินมีน้ำค่อย ๆ แห้งยาวช่วง กลไกนี้เผื่อแล้งนำไปสู่ประสิทธิภาพสูงพืชน้ำใช้ค่า ถึงแม้ว่าระบบรากดีมันสำปะหลังห่าง เมื่อเทียบกับพืชอื่น ๆ มันสามารถเจาะด้านล่าง 2 เมตรดิน จึง ทำให้การเพาะปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากน้ำลึกถ้ามี ใบของมันสำปะหลัง Manihot ป่ามีกิจกรรมยกระดับของ C4 เอนไซม์นโด้ carboxylase แต่ขาดใบ Kranz กายวิภาคศาสตร์ทั่วไปของสายพันธุ์ C4 ชี้ต้องการการวิจัยเพิ่มเติมบน Manihot ปลูก และป่าเพื่อปรับ ปรุงการดำรงศักยภาพและผลผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สภาพแวดล้อมที่เครียด นอกจากนี้ หลากหลายในค่าของกม. (CO2) สำหรับเอนไซม์การสังเคราะห์แสงของ C3 Rubisco พบระหว่างมันสำปะหลังพันธุ์บ่งชี้ของการเลือกสำหรับความสัมพันธ์ที่สูงกว่า CO2 และสังเคราะห์แสงของใบจึงสูง ลักษณะพืชต่าง ๆ ที่อาจเป็นค่าในพืชผสมพันธุ์ และปรับปรุงได้รับการ ระบุ เช่นระบบรากดีกว้างขวาง ชีวิตใบยาว อ่างล้างรากแข็งแรง และสูงใบสังเคราะห์แสง การเลือกวัสดุโดยผู้ปกครองสำหรับค่าเผื่อในการแห้งแล้งและดินมีบุตรยากภายใต้ฟิลด์พนักงานที่เงื่อนไขมีผลในการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ที่มีผลผลิตสูงในสภาพแวดล้อมที่ดีในขณะที่การผลิตผลตอบแทนที่เหมาะสม และมีเสถียรภาพภายใต้ความเครียดPMID: 15669146

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันสำปะหลังหรือมันสำปะหลัง (Manihot esculenta Crantz) เป็นไม้พุ่มยืนต้นใหม่ของโลกในปัจจุบันเป็นพืชอาหารของโลกหกมากกว่า 500 ล้านคนในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนของทวีปแอฟริกาเอเชียและละตินอเมริกา มันเป็นที่ปลูกส่วนใหญ่โดยเกษตรกรรายย่อยที่มีทรัพยากร จำกัด สำหรับรากแป้งซึ่งจะถูกใช้เป็นอาหารของมนุษย์ทั้งสดเมื่ออยู่ในระดับต่ำ cyanogens หรือในรูปแบบหลายแปรรูปและผลิตภัณฑ์จากแป้งส่วนใหญ่แป้งและอาหารสัตว์ เพราะความอดทนโดยธรรมชาติของมันเครียดกับสภาพแวดล้อมที่พืชอาหารอื่น ๆ จะล้มเหลวก็มักจะคิดว่าเป็นแหล่งที่มีการรักษาความปลอดภัยอาหารกับความอดอยากที่ต้องการการดูแลน้อยที่สุด ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดก็เปรียบเทียบในการผลิตพลังงานอื่น ๆ ส่วนใหญ่พืชอาหารหลักที่สำคัญเนื่องจากผลผลิตที่มีศักยภาพสูง งานวิจัยล่าสุดที่ Centro Internacional de เกษตรเขตร้อน (CIAT) ในโคลัมเบียได้แสดงให้เห็นความสามารถของมันสำปะหลังที่จะดูดซึมคาร์บอนในอัตราที่สูงมากภายใต้ระดับสูงของความชื้นอุณหภูมิและรังสีจากดวงอาทิตย์ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการผลิตในสภาพแวดล้อมที่ทุกคนไม่ว่าจะแห้งหรือชื้น เมื่อปลูกในดินที่ไม่ดีมากภายใต้ภัยแล้งยืดเยื้อมานานกว่า 6 เดือน, การเพาะปลูกลดทั้งสองหลังคาใบและการสูญเสียน้ำคาย แต่ใบที่แนบมาของมันยังคงสังเคราะห์ที่ใช้งานแม้ว่าอัตราที่ลดลงอย่างมากใน กลไกทางสรีรวิทยาหลักพื้นฐานเช่นความอดทนที่โดดเด่นภัยแล้งเป็นปากใบปิดอย่างรวดเร็วภายใต้บรรยากาศและทางดินขาดน้ำทั้งปกป้องใบกับการคายน้ำของพืชในขณะที่บั่นทอนน้ำในดินที่มีอยู่อย่างช้า ๆ ในช่วงระยะเวลาแห้งนาน กลไกการทนแล้งนี้นำไปสู่การปลูกพืชใช้น้ำสูงค่าประสิทธิภาพ แม้ว่ามันสำปะหลังระบบรากดีจะเบาบางเมื่อเทียบกับพืชอื่น ๆ ก็สามารถเจาะต่ำกว่า 2 เมตรดินจึงทำให้การเพาะปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากน้ำลึกถ้ามี ใบของมันสำปะหลังและป่ามันสำปะหลังครอบครองยกระดับกิจกรรมของ C4 เอนไซม์ PEP คาร์บอกซิ แต่ขาดใบ Kranz กายวิภาคศาสตร์ทั่วไปของ C4 ชนิดชี้ไปที่ความจำเป็นในการวิจัยต่อไปในการปลูกและป่ามันสำปะหลังเพื่อปรับปรุงการสังเคราะห์แสงของอัตราผลตอบแทนที่มีศักยภาพและโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้เครียด สภาพแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายในคุณค่าของกิโลเมตร (CO2) สำหรับ C3 สังเคราะห์เอนไซม์ Rubisco ถูกพบในหมู่พันธุ์มันสำปะหลังที่แสดงให้เห็นความเป็นไปได้ของการเลือกสำหรับความสัมพันธ์ที่สูงขึ้นเพื่อ CO2 และการสังเคราะห์แสงของใบจึงสูงขึ้น ลักษณะของพืชหลายอย่างที่อาจจะมีค่าในการปรับปรุงพันธุ์พืชและการปรับปรุงได้รับการระบุเช่นระบบที่กว้างขวางปรับรากชีวิตใบยาวอ่างรากที่แข็งแรงและสังเคราะห์ใบสูง การเลือกวัสดุผู้ปกครองสำหรับความอดทนต่อความแห้งแล้งและดินที่มีบุตรยากในสภาพสนามที่เป็นตัวแทนที่มีผลในการพัฒนาสายพันธุ์ที่ดีขึ้นที่มีผลตอบแทนสูงในสภาพแวดล้อมที่ดีในขณะที่อัตราผลตอบแทนการผลิตที่เหมาะสมและมีเสถียรภาพภายใต้ความเครียด.
PMID: 15669146