สภาวะโลกร้อน (Global Warming) ภ

สภาวะโลกร้อน (Global Warming)








ภาวะโลกร้อน คือ การที่ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากภาวะเรือน กระจก หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ว่า Green house effect ซึ่งมีต้นเหตุจากการที่มนุษย์ ได้เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จาก การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ การขนส่ง และ การผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนั้น มนุษย์เรายังได้เพิ่มก๊าซกลุ่มไนตรัสออกไซด์ และคลอโรฟลูโรคาร์บอน ( CFC) เข้าไปอีก ด้วย พร้อมๆกับการที่เราตัดและทำลาย ป่าไม้จำนวนมหาศาลเพื่อสร้างสิ่งอำนวย ความสะดวกให้แก่มนุษย์ ทำให้กลไกใน การดึงเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป จากระบบบรรยากาศถูกลดทอนประสิทธิ ภาพลง และในที่สุดสิ่งต่างๆที่เราได้กระทำ ต่อโลกได้หวนกลับมาสู่เราในลักษณะของ ภาวะโลกร้อน

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน

ซี่งปรากฏการณ์ทั้งหลายเกิดจากภาวะโลกร้อนขึ้นที่มีมูลเหตุมาจากการปล่อยก๊าซพิษต่าง ๆ จากโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านชั้นบรรยากาศมาสู่พื้นโลกได้มากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นที่รู้จักกันโดยเรียกว่า สภาวะเรือนกระจก
ก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ 6 ชนิด ที่จะต้องลดการปล่อยได้แก่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2) ก๊าซมีเทน ( CH4) ก๊าซไนตรัสออกไซด์ ( N2O) ก๊าซไฮโดรฟลูโรคาร์บอน ( HFCS) ก๊าซเปอร์ฟลูโรคาร์บอน ( CFCS) และก๊าซซัลเฟอร์เฮกซ่าฟลูโอโรด์ ( SF6 )

ผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน

1. ผลกระทบด้านนิเวศวิทยา

แถบขั้วโลกได้รับผลกระทบมากสุดและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูเขาน้ำแข็ง ก้อนน้ำแข็งจะละลายอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำทะเลทางขั้วโลกเพิ่มขึ้น และไหลลงสู่ทั่วโลกทำให้เกิดน้ำท่วมได้ทุก ทวีป นอกจากนี้จะพลอยทำให้สัตว์ทางทะเลเสียชีวิตเพราะระบบนิเวศเปลี่ยนแปลง

ส่วนทวีปยุโรป ยุโรปใต้ภูมิประเทศจะกลายเป็นพื้นที่ลาดเอียงเกิดความแห้งแล้ง ในหลายพื้นที่ปัญหาอุทกภัยจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากธารน้ำแข็งบนบริเวณยอดเขาสูงที่ปกคลุมด้วยหิมะจะละลายจนหมด

ขณะที่เอเชียอุณหภูมิจะสูงขึ้นเกิดฤดูกาลที่แห้งแล้ง มีน้ำท่วม ผลิตผลทางอาหารลดลง ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นสภาวะอากาศ แปร ปรวนอาจทำให้เกิดพายุต่าง ๆ มากมายเข้าไปทำลายบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชน ซึ่งปัจจุบันก็เห็นผลกระทบได้ชัดไม่ว่าจะเป็นใต้ฝุ่นกก

แต่แถบทวีปอเมริกาเหนืออุตสาหกรรมการผลิตอาหารจะได้รับผลประโยชน์เนื่องจากอากาศที่อุ่นขึ้น พร้อม ๆ กับทุ่งหญ้าใหญ่ของแคนาดาและทุ่งราบใหญ่สหรัฐอเมริกา

นักวิจัยได้มีการคาดประมาณอุณหภูมิผิวโลกในอีก 100 ปีข้างหน้า หรือประมาณปี 2643 ว่า อุณหภูมิจะสูงขึ้นจากปัจจุบันราว 4.5 องศาเซลเซียส เนื่องจากคาดการณ์ว่า จะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึงร้อยละ 63 และก๊าซมีเทนร้อยละ 27 ของก๊าซเรือนกระจก

สำหรับประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 1 องศาเซลเซียส ในช่วง 40 ปี อย่างไรก็ตาม
หากอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น 2- 4 องศาเซลเซียส จะทำให้พายุไต้ฝุ่นเปลี่ยนทิศทาง เกิดความรุนแรง
และมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-20 ในอนาคต นอกจากนี้ ฤดูร้อนจะขยายเวลายาวนานขึ้น ในขณะที่ฤดูหนาวจะสั้นลง

2. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ

รัฐที่เป็นเกาะเล็ก ๆ ของทวีปอเมริกาจะได้รับผลจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นกัดกร่อนชายฝั่ง จะสร้างความเสียหายแก่ระบบนิเวศ แนวปะการังจะถูกทำลาย ปลาทะเลประสบปัญหา เนื่องจากระบบนิเวศที่แปรเปลี่ยนไป ธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญจะสูญเสียรายได้มหาศาล

นอกจากนี้ ในเอเชียยังมีโอกาสร้อยละ 66-90 ที่อาจเกิดฝนกระหน่ำและมรสุมอย่างรุนแรง รวมถึงเกิดความแห้งแล้งในฤดูร้อนที่ยาวนาน ทั้งนี้ ในปี 2532-2545 ประเทศไทยเกิดความเสียหาย จากอุทกภัย พายุ และภัยแล้ง คิดเป็นมูลค่าเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 70,000 ล้านบาท

รายงาน " Global Deserts Outlook" ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ
เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน ชี้ว่า ภายใน 50 ปีข้างหน้า ระบบนิเวศวิทยาทะเลทราย จะเปลี่ยนแปลงไปทั้งด้านชีววิทยา เศรษฐกิจและวัฒนธรรม

ปัจจุบันพืชและสัตว์ทะเลทราย คือแหล่งทรัพยากรมีคุณค่าสำหรับผลิตยาและธัญญาหารใหม่ๆ
ที่ทำให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองน้ำและยังมีช่องทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ เช่น การทำฟาร์มกุ้งและบ่อปลาในทะเลทรายรัฐอาริโซนาและทะเลทรายเน เจฟในอิสราเอล

อย่างไรก็ตาม ทะเลทรายที่มีอยู่ 12 แห่งทั่วโลก กำลังเผชิญปัญหาใหญ่ ไม่ใช่เรื่องการขยายตัว แต่เป็นความแห้งแล้งเนื่องจากโลกร้อน ธารน้ำแข็งซึ่งส่งน้ำมาหล่อเลี้ยงทะเลทรายในอเมริกาใต้กำลังละลาย น้ำใต้ดินเค็มขึ้น รวมทั้งผลกระทบที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ ซึ่งหากไม่มีการลงมือป้องกันอย่างทันท่วงที ระบบนิเวศวิทยาและสัตว์ป่าในทะเลทรายจะสูญหายไปภายใน 50 ปีข้างหน้า

ในอนาคตประชากร 500 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเขตทะเลทรายทั่วโลกจะอยู่ไม่ได้อีกต่อไป เพราะอุณหภูมิสูงขึ้นและน้ำถูกใช้จนหมดหรือเค็มจนดื่มไม่ได้

3. ผลกระทบด้านสุขภาพ
ภาวะโลกร้อนไม่เพียง ทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไปแต่มีสิ่งซ่อนเร้นที่แอบแฝงมาพร้อม ปรากฏการณ์นี้ด้วยว่าโลกร้อนขึ้นจะสร้างสภาวะที่พอเหมาะพอควรให้เชื้อโรคเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

โลกร้อนขึ้นจะก่อให้เกิด สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การฟักตัวของเชื้อโรคและศัตรูพืช ที่เป็นอาหารของมนุษย์บางชนิด โรคที่ฟักตัวได้ดีในสภาพร้อนชื้นของโลก จะสามารถเพิ่มขึ้นมากในอีก 20 ปีข้างหน้า ทั้งจะมีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในโรคมาลาเรีย ไข้ส่า อหิวาตกโรค และอาหารเป็นพิษนักวิทยาศาสตร์ในที่ประชุมองค์การอนามัยโลก และ London School of Hygiene and Tropical Medicine วิทยาลัยศึกษาด้านสุขอนามัยและเวชศาสตร์เขตร้อนของอังกฤษ แถลงว่า ในแต่ละปีประชาชนราว 160,000 คนเสียชีวิตเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ตั้งแต่โรคมาลาเรีย ไปจนถึงการขาดแคลนสุขอนามัยที่ดี และตัวเลขผู้เสียชีวิตนี้อาจเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตัวในอีก 17 ปีข้างหน้า แถลงการณ์ของคณะแพทย์ระดับโลกระบุว่า เด็กในประเทศกำลังพัฒนาจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงมากที่สุด เช่นในประเทศแถบแอฟริกา ละตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะต้องเผชิญกับการแพร่ขยายของการขาดแคลนสุขอนามัยโรคท้องร่วง และโรคมาเลเรีย ท่ามกลางอุณหภูมิโลกร้อนขึ้น น้ำท่วม และภัยแล้ง

จะป้องกันได้อย่างไร ได้มีผู้แนะนำวิธีการช่วยป้องกันสภาวะโลกร้อนไว้ดังนี้

1. ลดระดับการใช้งานเครื่องใช้ ไฟฟ้าลง เช่น เพิ่มความร

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สภาวะโลกร้อน (ภาวะโลกร้อน)








ภาวะโลกร้อนคือการที่ กระจกหรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่าผลบ้านสีเขียวซึ่งมีต้นเหตุจากการที่มนุษย์ จากการขนส่งและการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมนอกจากนั้น และคลอโรฟลูโรคาร์บอน (CFC) เข้าไปอีกด้วยพร้อม ๆ กับการที่เราตัดและทำลายทำให้กลไกใน จากระบบบรรยากาศถูกลดทอนประสิทธิภาพลง ภาวะโลกร้อน

ๆ จากโรงงานอุตสาหกรรมก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ 6 ชนิดที่จะต้องลดการปล่อย ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ก๊าซมีเทน (CH4) ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) ก๊าซไฮโดรฟลูโรคาร์บอน (HFCS) ก๊าซเปอร์ฟลูโรคาร์บอน (CFCs) และก๊าซซัลเฟอร์เฮกซ่าฟลูโอโรด์ (SF6)

ผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน

1 ผลกระทบด้านนิเวศวิทยา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูเขาน้ำแข็งก้อนน้ำแข็งจะละลายอย่างรวดเร็วทวีป
ส่วนทวีปยุโรปมีน้ำท่วมผลิตผลทางอาหารลดลงระดับน้ำทะเลสูงขึ้นสภาวะอากาศแปรปรวนอาจทำให้เกิดพายุต่าง ๆพร้อม ๆ100 ปีข้างหน้าหรือประมาณปี 2643 ว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นจากปัจจุบันราว 45 องศาเซลเซียสเนื่องจากคาดการณ์ว่า 63 และก๊าซมีเทนร้อยละ 27 1 องศาเซลเซียสในช่วง 40 ปีอย่างไรก็ตาม
หากอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียสจะทำให้พายุไต้ฝุ่นเปลี่ยนทิศทางเกิดความรุนแรง
และมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-20 ในอนาคตนอกจากนี้ฤดูร้อนจะขยายเวลายาวนานขึ้นในขณะที่ฤดูหนาวจะสั้นลง

2ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ

รัฐที่เป็นเกาะเล็ก ๆ จะสร้างความเสียหายแก่ระบบนิเวศแนวปะการังจะถูกทำลายปลาทะเลประสบปัญหาเนื่องจากระบบนิเวศที่แปรเปลี่ยนไปนอกจากนี้ในเอเชียยังมีโอกาสร้อยละ 66-90 ทั้งนี้ในปี 2532-2545 ประเทศไทยเกิดความเสียหายจากอุทกภัยพายุและภัยแล้ง000 ล้านบาท

รายงาน "แนวโน้มทะเลทรายทั่วโลก" 5 มิถุนายนชี้ว่าภายใน 50 ปีข้างหน้าระบบนิเวศวิทยาทะเลทรายจะเปลี่ยนแปลงไปทั้งด้านชีววิทยาเศรษฐกิจและวัฒนธรรม

ปัจจุบันพืชและสัตว์ทะเลทรายที่เป็นมิตรกับธรรมชาติเช่น เจฟในอิสราเอล

อย่างไรก็ตามทะเลทรายที่มีอยู่ 12 แห่งทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ไม่ใช่เรื่องการขยายตัว50 ปีข้างหน้า

ในอนาคตประชากร 500 ผลกระทบด้านสุขภาพ
ภาวะโลกร้อนไม่เพียงโลกร้อนขึ้นจะก่อให้เกิด ที่เป็นอาหารของมนุษย์บางชนิด จะสามารถเพิ่มขึ้นมากในอีก 20 ปีข้างหน้าไข้ส่าอหิวาตกโรค และลอนดอนสกูลสุขอนามัยและเวชศาสต​​ร์เขตร้อน แถลงว่าในแต่ละปีประชาชนราว 160,000 ตั้งแต่โรคมาลาเรียไปจนถึงการขาดแคลนสุขอนามัยที่ดี 17 ปีข้างหน้าเช่นในประเทศแถบแอฟริกาละตินอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโรคมาเลเรียท่ามกลางอุณหภูมิโลกร้อนขึ้นน้ำท่วมและภัยแล้ง

จะป้องกันได้อย่างไร ลดระดับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าลงเช่นเพิ่มความร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สภาวะโลกร้อน (โลกร้อน)








ภาวะโลกร้อนคือการที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากภาวะเรือนกระจกหรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่ากรีนเฮ้าส์ผลซึ่งมีต้นเหตุจากการที่มนุษย์ได้เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จาก การขนส่งและการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมนอกจากนั้นมนุษย์เรายังได้เพิ่มก๊าซกลุ่มไนตรัสออกไซด์และคลอโรฟลูโรคาร์บอน (CFC) เข้าไปอีกด้วยพร้อมๆกับการที่เราตัดและทำลายป่าไม้จำนวนมหาศาลเพื่อสร้างสิ่งอำนวย ทำให้กลไกในการดึงเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปจากระบบบรรยากาศถูกลดทอนประสิทธิภาพลงและในที่สุดสิ่งต่างๆที่เราได้กระทำต่อโลกได้หวนกลับมาสู่เราในลักษณะของภาวะโลกร้อน

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน

ซี่งปรากฏการณ์ทั้งหลายเกิดจากภาวะโลกร้อนขึ้นที่มีมูลเหตุมาจากการปล่อยก๊าซพิษต่างๆ จากโรงงานอุตสาหกรรมทำให้แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านชั้นบรรยากาศมาสู่พื้นโลกได้มากขึ้นซึ่งนั่นเป็นที่รู้จักกันโดยเรียกว่า ก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ 6 สิ่งที่จะต้องลดการปล่อยได้แก่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ก๊าซมีเทน (CH4) ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) ก๊าซไฮโดรฟลูโรคาร์บอน (HFCS) ก๊าซเปอร์ฟลูโรคาร์บอน (ผ่าน) และก๊าซซัลเฟอร์เฮกซ่าฟลูโอโรด์ (SF6)

ผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน

1 ผลกระทบด้านนิเวศวิทยา

แถบขั้วโลกได้รับผลกระทบมากสุดและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งภูเขาน้ำแข็งก้อนน้ำแข็งจะละลายอย่างรวดเร็วทำให้ระดับน้ำทะเลทางขั้วโลกเพิ่มขึ้น ทวีปนอกจากนี้จะพลอยทำให้สัตว์ทางทะเลเสียชีวิตเพราะระบบนิเวศเปลี่ยนแปลง

ส่วนทวีปยุโรปยุโรปใต้ภูมิประเทศจะกลายเป็นพื้นที่ลาดเอียงเกิดความแห้งแล้งในหลายพื้นที่ปัญหาอุทกภัยจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากธารน้ำแข็งบนบริเวณยอดเขาสูงที่ปกคลุมด้วยหิมะจะละลายจนหมด

ขณะที่เอเชียอุณหภูมิจะสูงขึ้นเกิดฤดูกาลที่แห้งแล้งมีน้ำท่วมผลิตผลทางอาหารลดลงระดับน้ำทะเลสูงขึ้นสภาวะอากาศแปรปรวนอาจทำให้เกิดพายุต่างๆ มากมายเข้าไปทำลายบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชน
แต่แถบทวีปอเมริกาเหนืออุตสาหกรรมการผลิตอาหารจะได้รับผลประโยชน์เนื่องจากอากาศที่อุ่นขึ้นพร้อมๆ กับทุ่งหญ้าใหญ่ของแคนาดาและทุ่งราบใหญ่สหรัฐอเมริกา

นักวิจัยได้มีการคาดประมาณอุณหภูมิผิวโลกในอีก 100 ปีข้างหน้าหรือประมาณปี 2643 ว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นจากปัจจุบันราว 45 องศาเซลเซียสเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึงร้อยละ 63 และก๊าซมีเทนร้อยละ 27 ของก๊าซเรือนกระจก

สำหรับประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 1 องศาเซลเซียสในช่วง 40 ปีอย่างไรก็ตาม
2 - 4 หากอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นองศาเซลเซียสจะทำให้พายุไต้ฝุ่นเปลี่ยนทิศทางเกิดความรุนแรง
และมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-20 ในอนาคตนอกจากนี้ฤดูร้อนจะขยายเวลายาวนานขึ้นในขณะที่ฤดูหนาวจะสั้นลง

2 ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ

รัฐที่เป็นเกาะเล็กๆ ของทวีปอเมริกาจะได้รับผลจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นกัดกร่อนชายฝั่งจะสร้างความเสียหายแก่ระบบนิเวศแนวปะการังจะถูกทำลายปลาทะเลประสบปัญหาเนื่องจากระบบนิเวศที่แปรเปลี่ยนไป
นอกจากนี้ในเอเชียยังมีโอกาสร้อยละ 66-90 ที่อาจเกิดฝนกระหน่ำและมรสุมอย่างรุนแรงรวมถึงเกิดความแห้งแล้งในฤดูร้อนที่ยาวนานทั้งนี้ในปี 2532-2545 ประเทศไทยเกิดความเสียหายจากอุทกภัยพายุและภัยแล้ง 70000 ล้านบาท

รายงาน "หวานสากล Outlook" ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ
เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายนชี้ว่าภายใน 50 ปีข้างหน้าระบบนิเวศวิทยาทะเลทรายจะเปลี่ยนแปลงไปทั้งด้านชีววิทยาเศรษฐกิจและวัฒนธรรม

ปัจจุบันพืชและสัตว์ทะเลทรายคือแหล่งทรัพยากรมีคุณค่าสำหรับผลิตยาและธัญญาหารใหม่ ๆ
เช่นที่ทำให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองน้ำและยังมีช่องทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติการทำฟาร์มกุ้งและบ่อปลาในทะเลทรายรัฐอาริโซนาและทะเลทรายเนเจฟในอิสราเอล

อย่างไรก็ตามทะเลทรายที่มีอยู่ 12 แห่งทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ไม่ใช่เรื่องการขยายตัวแต่เป็นความแห้งแล้งเนื่องจากโลกร้อนธารน้ำแข็งซึ่งส่งน้ำมาหล่อเลี้ยงทะเลทรายในอเมริกาใต้กำลังละลาย รวมทั้งผลกระทบที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ซึ่งหากไม่มีการลงมือป้องกันอย่างทันท่วงทีระบบนิเวศวิทยาและสัตว์ป่าในทะเลทรายจะสูญหายไปภายใน 50 ปีข้างหน้า

ในอนาคตประชากร 500 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเขตทะเลทรายทั่วโลกจะอยู่ไม่ได้อีกต่อไปเพราะอุณหภูมิสูงขึ้นและน้ำถูกใช้จนหมดหรือเค็มจนดื่มไม่ได้

3 ผลกระทบด้านสุขภาพ
ภาวะโลกร้อนไม่เพียงทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไปแต่มีสิ่งซ่อนเร้นที่แอบแฝงมาพร้อมปรากฏการณ์นี้ด้วยว่าโลกร้อนขึ้นจะสร้างสภาวะที่พอเหมาะพอควรให้เชื้อโรคเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

โลกร้อนขึ้นจะก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การฟักตัวของเชื้อโรคและศัตรูพืชที่เป็นอาหารของมนุษย์บางชนิดโรคที่ฟักตัวได้ดีในสภาพร้อนชื้นของโลกจะสามารถเพิ่มขึ้นมากในอีก 20 ปีข้างหน้า ไข้ส่าอหิวาตกโรคและอาหารเป็นพิษนักวิทยาศาสตร์ในที่ประชุมองค์การอนามัยโลกและลอนดอนโรงเรียนสุขอนามัยและเวชศาสตร์เขตร้อนวิทยาลัยศึกษาด้านสุขอนามัยและเวชศาสตร์เขตร้อนของอังกฤษแถลงว่าในแต่ละปีประชาชนราว 160000 คนเสียชีวิตเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนตั้งแต่โรคมาลาเรียไปจนถึงการขาดแคลนสุขอนามัยที่ดีและตัวเลขผู้เสียชีวิตนี้อาจเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตัวในอีก 17 ปีข้างหน้าแถลงการณ์ของคณะแพทย์ระดับโลกระบุว่า เช่นในประเทศแถบแอฟริกาละตินอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะต้องเผชิญกับการแพร่ขยายของการขาดแคลนสุขอนามัยโรคท้องร่วงและโรคมาเลเรียท่ามกลางอุณหภูมิโลกร้อนขึ้นน้ำท่วมและภัยแล้ง

จะป้องกันได้อย่างไรได้มีผู้แนะนำวิธีการช่วยป้องกันสภาวะโลกร้อนไว้ดังนี้

1 ลดระดับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าลงเช่นเพิ่มความร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สภาวะโลกร้อน ( Global warming )








ภาวะโลกร้อน คือการที่ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากภาวะเรือน หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อกระจกสีเขียวว่าบ้านมีผลซึ่งมีต้นเหตุจากการที่มนุษย์ได้เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเที่ยวชมการขนส่งการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมนอกจากนั้นมนุษย์เรายังได้เพิ่มก๊าซกลุ่มไนตรัสออกไซด์และคลอโรฟลูโรคาร์บอน(พร้อม)เข้าไปอีกพร้อมๆกับการที่เราตัดและทำลายป่าไม้จำนวนมหาศาลเพื่อสร้างสิ่งอำนวยด้วยทำให้กลไกในการดึงเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปจากระบบบรรยากาศถูกลดทอนประสิทธิ ภาพลง และในที่สุดสิ่งต่างๆที่เราได้กระทำต่อโลกได้หวนกลับมาสู่เราในลักษณะของ ภาวะโลกร้อน
ตามมาตรฐาน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน

ซี่งปรากฏการณ์ทั้งหลายเกิดจากภาวะโลกร้อนขึ ๆจากโรงงานอุตสาหกรรมทำให้แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านชั้นบรรยากาศมาสซึ่งนั่นเป็นที่รู้จักกันโดยเรียกว่าก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ 6 ชนิดที่จะต้องลดการปล่อยได้แก่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์( CO 2 )ก๊าซมีเทน( CH 4 )ก๊าซไนตรัสออกไซด์( N 2 O )ก๊าซไฮโดรฟลูโรคาร์บอน( hfcs )ก๊าซเปอร์ฟลูโรคาร์บอน( cfcs )และก๊าซซัลเฟอร์เฮกซ่าฟลูโอโรด์( SF 6 )

ผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน

1 . ผลกระทบด้านนิเวศวิทยา

แถบขั้วโลกได้รับผลกระทบมากสุดและก่อให้เกิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูเขาน้ำแข็ง ก้อนน้ำแข็งจะละลายอย่างรวดเร็วทำให้ระดับน้ำทะเลทางขั้วโลกเพิ่มขึ้นทวีปนอกจากนี้จะพลอยทำให้สัตว์ทางทะเลเสียชีวิตเ
ส่วนทวีปยุโรป ยุโรปใต้ภูมิประเทศจะกลายเป็นพื้นที่ลาดเอีย ในหลายพื้นที่ปัญหาอุทกภัยจะเพิ่มขึ้นเนื่องขณะที่เอเชียอุณหภูมิจะสูงขึ้นเกิดฤดูกาลที่ มีน้ำท่วมผลิตผลทางอาหารลดลง ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นสภาวะอากาศ แปรปรวนอาจทำให้เกิดพายุต่างมากมายเข้าไปทำลายบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของปๆ
แต่แถบทวีปอเมริกาเหนืออุตสาหกรรมการผลิตอาหพร้อมๆกับทุ่งหญ้าใหญ่ของแคนาดาและทุ่งราบใหญ่สหรันักวิจัยได้มีการคาดประมาณอุณหภูมิผิวโลกในอ 100 ปีข้างหน้าหรือประมาณปี 2643 ว่า อุณหภูมิจะสูงขึ้นจากปัจจุบันราว 4 .5 องศาเซลเซียสเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึงร้อยละ 63 และก๊าซมีเทนร้อยละ 27 ของก๊าซเรือนกระจก

สำหรับประเทศไทยมีอุณหภูมิ 1 องศาเซลเซียสในช่วง 40 ปีอย่างไรก็ตาม
หากอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น 2 - 4 องศาเซลเซียสจะทำให้พายุไต้ฝุ่นเปลี่ยนทิศทางเกิดความรุนแรง
และมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-20 10-20 10-20 ในอนาคตนอกจากนี้ฤดูร้อนจะขยายเวลายาวนานขึ้น ในขณะที่ฤดูหนาวจะสั้นลง

2 .ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ

รัฐที่เป็นเกาะเล็กๆของทวีปอเมริกาจะได้รับผลจากระดับน้ำทะเลที่จะสร้างความเสียหายแก่ระบบนิเวศแนวปะการังจะถูกทำลายปลาทะเลประสบปัญหาเนื่องจากระบบนิเวศที่แปรเปลี่ยนไป
นอกจากนี้ในเอเชียยังมีโอกาสร้อยละ 66-90 ที่อาจเกิดฝนกระหน่ำและมรสุมอย่างรุนแรงรวมถึงเกิดความแห้งแล้งในฤดูร้อนที่ยาวนานทั้งนี้ในปี 2532-2545 ประเทศไทยเกิดความเสียหาย จากอุทกภัย พายุ และภัยแล้ง70000 ล้านบาท

รายงาน"โลกของหวาน Outlook "ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ
เนื่อง 5 มิถุนายนชี้ว่า ภายใน 50 ปีข้างหน้าระบบนิเวศวิทยาทะเลทรายจะเปลี่ยนแปลงไปทั้งด้านชีววิทยา เศรษฐกิจและวัฒนธรรม

ปัจจุบันพืชและสัตว์ทะเลทรายคือแหล่งทรัพยากรมีคุณค่าสำหรับผลิตยาและธัญที่ทำให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองน้ำและยังมีช่องทาที่เป็นมิตรกับธรรมชาติเช่นการทำฟาร์มกุ้งและบ่อปลาในทะเลทรายรัฐอาริโซ เจฟในอิสราเอล

อย่างไรก็ตามทะเลทรายที่มีอยู่ 12 แห่งทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ไม่ใช่เรื่องการขยายตัวแต่เป็นความแห้งแล้งเนื่องจากโลกร้อนธารน้ำแข็งซึ่งส่งน้ำมาหล่อเลี้ยงทะเลทรายในรวมทั้งผลกระทบที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ซึ่งหากไม่มีการลงมือป้องกันอย่างทันท่วงทีระบบนิเวศวิทยาและสัตว์ป่าในทะเลทรายจะสูญหา 50 ปีข้างหน้า

ในอนาคตประชากร 500 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเขตทะเลทรายทั่วโลกจะอย เพราะอุณหภูมิสูงขึ้นและน้ำถูกใช้จนหมดหรือเ ผลกระทบด้านสุขภาพ
ภาวะโลกร้อนไม่เพียง ทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไปแต่มีสิ่งซ่อนเร ปรากฏการณ์นี้ด้วยว่าโลกร้อนขึ้นจะสร้างสภาวโลกร้อนขึ้นจะก่อให้เกิด สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การฟักตัวของเชื้อโ ที่เป็นอาหารของมนุษย์บางชนิด โรคที่ฟักตัวได้ดีในสภาพร้อนชื้นของโลก จะสามารถเพิ่มขึ้นมากในอีกปีข้างหน้า 20ไข้ส่าอหิวาตกโรคและอาหารเป็นพิษนักวิทยาศาสตร์ในที่ประชุมองและ London School of ด้านสุขอนามัยและตามแบบเขตร้อนยารักษาโรควิทยาลัยศึกษาด้านสุขอนามัยและเวชศาสตร์เขตรแถลงว่าในแต่ละปีประชาชนราว 160 ,000 คนเสียชีวิตเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อ ตั้งแต่โรคมาลาเรียไปจนถึงการขาดแคลนสุขอนามัยที่ดีและตัวเลขผู้เสียชีวิตนี้อาจเพิ่มขึ้นเกือบส 17 ปีข้างหน้าแถลงการณ์ของคณะแพทย์ระดับโลกระบุว่าเช่นในประเทศแถบแอฟริกาละตินอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะต้องเผชิญกับการแพร่ขยายของการขาดแคลนสและโรคมาเลเรีย ท่ามกลางอุณหภูมิโลกร้อนขึ้น น้ำท่วม และภัยแล้ง
ตามมาตรฐาน
จะป้องกันได้อย่างไร ได้มีผู้แนะนำวิธีการช่วยป้องกันสภาวะโลกร้อ ลดระดับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าลงเช่นเพิ่มความร