All living things need water to liv

All living things need water to live. We can survive without food but not without water. In the early days, Singapore obtained its water supply from local catchment (dependent on weather) and imported water from Malaysia. In order to ensure a sustainable source of water supply to cater to the country’s continued growth, our national water agency, Public Utilities Board (PUB), has since built a resilient supply of water from four different sources known.
What are the four National Taps?
1) Water from local catchment
2) Imported water from Johor
3) Desalinated water from the sea
4) Reclaimed/Recycled water from local waste water (NEWater)



Water from local catchment
Local catchment water is a pillar of our sustainable water supply. About two-thirds of Singapore’s land surface comes under a water catchment system, with more than 14 reservoirs as well as an extensive network of canals, rivers, drains, storm-water and collection ponds to harvest rainwater. Singapore is one of the few countries to harvest storm-water on a large-scale for its water supply.
Marina Barrage creates Singapore’s fifteenth reservoir, the Marina Reservoir, further boost Singapore’s water supply. In 2011, Marina Reservoir together with Punggol and Serangoon Reservoirs, which are our 16th and 17th reservoirs, increased Singapore’s water catchment from half to two-thirds of Singapore’s land surface.
In the long run, PUB aims to boost Singapore’s water catchment area to 90% by 2060 with variable salinity plant.



Imported water from Johor

Singapore has been importing water from Johor, Malaysia. Both countries have signed four agreements to regulate the water supply of water from Malaysian to Singapore.
The first agreement signed on 5th December 1927 between the municipal commissioners of the town of Singapore and Sultan Ibrahim of the state and territories of Johor, is no longer in force..
The second agreement were signed on 2nd October 1961 but effective on 1st September 1961. It was called the Tebrau and Scudai Rivers Water Agreement and was made between the city council of state of Singapore and the government of the state of Johor. It gave Singapore the exclusive right to obtain all the water within designated land of Gunong Pulai, Sungei Tebrau and Sungei Scudai for a period of 50 years. It expired in August 2011.
The third agreement was signed on 29th September 1962 between the Singpore city council and the Johor state government. It was called the Johor River Water Agreement. It is valid for 99 years till 2061. It gives Singapore the exclusive right to draw off water from Johor River.
The 1990 agreement was signed on 24th November 1990 between PUB of Singapore and the Johor state government. It is supplementary to the 1962 agreement and will expire in 2061. In this agreement, Singapore are allowed to build a dam across Sungei Linggui to facilitate the drawing of water from Johor River

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต้องการน้ำอยู่ เราสามารถอยู่รอด โดยไม่มีอาหาร แต่ไม่ มีน้ำไม่ ในยุคแรก สิงคโปร์รับน้ำของลุ่มน้ำภายในเครื่อง (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) และน้ำที่นำเข้าจากมาเลเซีย เพื่อให้เป็นแหล่งน้ำเพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของประเทศอย่างยั่งยืน หน่วยของเราน้ำแห่งชาติ สาธารณูปโภคคณะ (ผับ), ได้ตั้งแต่สร้างอุปทานความยืดหยุ่นของน้ำจากแหล่งต่าง ๆ ที่สี่เรียกว่า วางก๊อกชาติสี่คืออะไร1) น้ำจากลุ่มน้ำในท้องถิ่น 2) น้ำนำเข้าจากยะโฮร์ 3) น้ำทะเล desalinated 4 น้ำ Reclaimed/Recycled จากน้ำเสียในท้องถิ่น (NEWater) น้ำจากลุ่มน้ำในท้องถิ่นน้ำภายในลุ่มน้ำเป็นเสาหลักของน้ำของเราอย่างยั่งยืน มาประมาณสองในสามของพื้นผิวดินของสิงคโปร์ภายใต้เป็นลุ่มน้ำน้ำ อ่างเก็บน้ำกว่า 14 เป็นเครือข่ายของคลอง แม่น้ำ ท่อระบาย น้ำ บ่อน้ำพายุและเก็บเกี่ยวแบบสายฝน สิงคโปร์เป็นประเทศไม่กี่ให้พายุน้ำขนาดใหญ่สำหรับเป็นน้ำหนึ่งสิบห้าเที่ยวอ่างเก็บน้ำ อ่างเก็บน้ำมารีน่าสร้างเขื่อนกั้นน้ำมารีน่า เพิ่มเติม น้ำของสิงคโปร์ ใน 2011 อ่างเก็บน้ำมารีน่าพร้อม Punggol เซรังกูนอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำของเรา 16 และ 17 เพิ่มลุ่มน้ำน้ำของสิงคโปร์จากครึ่งถึงสองในสามของพื้นผิวดินของสิงคโปร์ในระยะยาว ผับมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำน้ำของสิงคโปร์มากกว่า 90% โดย 2060 กับโรงเค็มผันแปรน้ำที่นำเข้าจากยะโฮร์สิงคโปร์มีการนำน้ำจากยะโฮร์ มาเลเซีย ทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลง 4 เพื่อควบคุมน้ำน้ำจากมาเลเซียสู่สิงคโปร์ลงนามข้อตกลงแรกใน 5 1927 ธันวาคมระหว่างเทศบาลในคณะกรรมาธิการของเมืองสิงคโปร์และอิบรอฮีมสุลต่านของรัฐและดินแดนในยะโฮร์ ไม่แรง...ข้อตกลงที่สองถูกลงนาม 2 1961 ตุลาคม แต่ประสิทธิภาพบน 1 1961 กันยายน มันถูกเรียกว่า Tebrau และ Scudai แม่น้ำข้อตกลง และระหว่างสภาเมืองรัฐสิงคโปร์และรัฐบาลของรัฐยะโฮร์ มันให้สิงคโปร์สิทธิจะได้รับทั้งหมดน้ำภายในกำหนดที่ดินของ Gunong ปูไล Sungei Tebrau และ Sungei Scudai เป็นระยะเวลา 50 ปี จะหมดอายุในเดือน 2011 สิงหาคมข้อตกลงสามเซ็นบน 29 1962 กันยายนระหว่างสภาเมืองสิงคโปร์และรัฐบาลของรัฐยะโฮร์ มันถูกเรียกว่าข้อตกลงยะโฮร์แม่น้ำ มันถูกปี 99 จนถึง 2061 มันทำให้สิงคโปร์สิทธิวาดปิดน้ำจากแม่น้ำยะโฮร์ข้อตกลงปี 1990 เซ็นบน 24 1990 พฤศจิกายนระหว่างผับสิงคโปร์และรัฐบาลของรัฐยะโฮร์ ได้เสริมข้อตกลงปี 1962 และจะหมดอายุใน 2061 ในข้อตกลงนี้ สิงคโปร์ได้รับอนุญาตให้สร้างเขื่อนข้าม Sungei Linggui เพื่อให้ง่ายต่อการวาดน้ำจากแม่น้ำยะโฮร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องการน้ำในการดำรงชีวิต เราสามารถอยู่รอดได้โดยปราศจากอาหาร แต่ถ้าไม่มีน้ำ ในวันแรก สิงคโปร์ได้จัดหาน้ำจากพื้นที่รับน้ำในท้องถิ่น ( ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ) และนำเข้าน้ำจากประเทศมาเลเซีย ในการสั่งซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าแหล่งที่ยั่งยืนของน้ำประปาเพื่อรองรับการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของประเทศ หน่วยงานน้ำแห่งชาติ , คณะกรรมการสาธารณูปโภค ( ผับ )เนื่องจากมีการสร้างความยืดหยุ่นของอุปทานน้ำจาก 4 แหล่งจัก
สิ่งที่สี่แห่งชาติก๊อก ?

1 ) น้ำจากลุ่มน้ำท้องถิ่น 2 ) นำเข้าน้ำจาก Johor
3 ) desalinated น้ำจากทะเล
4 ) แห้ง / น้ำรีไซเคิลน้ำเสียในท้องถิ่น ( newater )



กัก
กักน้ำจากภายในท้องถิ่น น้ำ เสาของเราอย่างยั่งยืน การประปาประมาณสองในสามของสิงคโปร์มาผิวดินภายใต้ระบบการกักน้ำ มีมากกว่า 14 แหล่ง ตลอดจนเครือข่ายที่กว้างขวางของคลอง แม่น้ำ การระบายน้ำ และบ่อเก็บพายุเก็บเกี่ยวน้ำฝน สิงคโปร์เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่จะเก็บเกี่ยวพายุน้ำขนาดใหญ่เพื่อการประปาของ ท่าเรือสิงคโปร์ 15 เขื่อน
สร้างอ่างเก็บน้ำท่าเรืออ่างเก็บน้ำเพิ่มสิงคโปร์ประปา ใน 2011 , มารีน่าและอ่างเก็บน้ำพร้อมกับแข่ง Serangoon อ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำ 16 และ 17 ของเราเพิ่มขึ้นจากสิงคโปร์กักน้ำครึ่งถึงสองในสามของสิงคโปร์ของผิวดิน .
ในระยะยาว ผับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มน้ำบางพื้นที่ของสิงคโปร์ถึง 90% โดย 3355 กับพืชค่า



. .นำเข้าน้ำจาก Johor

สิงคโปร์ได้ถูกเข้าน้ำจากยะโฮร์ , มาเลเซีย ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงสี่ประการเพื่อควบคุมน้ำน้ำจากมาเลเซีย สิงคโปร์
ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2470 ลงนามข้อตกลงระหว่างคณะกรรมาธิการเทศบาลของเมืองสิงคโปร์และสุลต่านอิบราฮิมของรัฐและดินแดนของยะโฮร์ , ไม่บังคับ . . . . . . .
ได้ลงนามในข้อตกลงที่สอง 2 ตุลาคม 1961 แต่ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 1961 . มันถูกเรียกว่าแม่น้ำ Tebrau และ scudai น้ำและทำข้อตกลงระหว่างเมืองแห่งรัฐของสิงคโปร์และรัฐบาลของรัฐ Johor . มันให้สิงคโปร์สิทธิพิเศษที่จะได้รับน้ำภายในเขตที่ดินของ gunong Pulai ,Sungei Tebrau และ Sungei scudai เป็นระยะเวลา 50 ปี จะหมดอายุในเดือนสิงหาคม 2011 .
3 ได้ลงนามข้อตกลงในวันที่ 29 กันยายน 2505 ระหว่างสิงคโปร์และยะโฮร์ สภาเมืองรัฐ มันถูกเรียกว่าแม่น้ำยะโฮร์น้ำสัญญา มันใช้ได้สำหรับ 99 ปีจนถึง 2061 . มันช่วยให้สิงคโปร์สิทธิพิเศษที่จะวาดออก น้ำจากแม่น้ำยะโฮร์ .
1990 ข้อตกลงที่ลงนามในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2533 ระหว่างผับสิงคโปร์และยะโฮร์รัฐ มันเสริมสำหรับ 1962 และข้อตกลงจะหมดอายุใน 2061 . ในข้อตกลงนี้ สิงคโปร์จะอนุญาตให้สร้างเขื่อนใน Sungei linggui เพื่อความสะดวกในการวาดน้ำจากแม่น้ำ
ยะโฮร์