Within this theoretical framework a

Within this theoretical framework and previous findings, we setthe following research question:Research question 3: Do employees whose longitudinal profilesof SWB at work are different also differ with respect to recoverystrategies, life satisfaction, and social areas of worklife, such asrewards and sense of community, during the mid-career stage?We expected that employees experiencing a high level of workengagement and a low level of burnout and workaholism wouldbe more likely to experience functional recovery strategies, and ahigh level of life satisfaction (Hakanen & Schaufeli, 2012a; Karasek& Theorell, 1990). Further, in light of the SWB at work model(Bakker & Oerlemans, 2011), we expected that membership of theprofile with high work engagement would predict a high level oflife satisfaction (Hakanen & Schaufeli, 2012a; Hakanen & Schaufeli,2012b; Hayes & Weathington, 2007), whereas coping successfullyat one career stage would predict a high level of subjective well-being. These expectations are in line with the traditional SWBmodel (Diener, Sandvik, & Pavot, 1991b), where relations betweenhigh SWB and life satisfaction as well as happiness were observed.Finally, these expectations arose from the traditional assumption ofthe importance of work in defining one’s identity. Thus, when expe-riences of work are out of balance because of poor SWB at work, anegative spillover effect on the individual’s life overall, i.e. poor lifesatisfaction, can be expected (Kantak, Futrell, & Sager, 1992).According to the traditional notions (Lee & Asfort, 1993), weexpected that in emotionally demanding jobs, such as in jobs inteaching and jobs with demanding social relations, as is the case inour study, significant relationships might emerge between the SWBprofiles and social factors in the work environment. We expectedthat employees with a high level of work engagement and a lowlevel of burnout and workaholism would experience more rewards,and a stronger sense of community (Kahn, 1990; Bakker et al., 2011;de Lange et al., 2005b; Rice, 1984) than employees with a high levelof burnout (i.e. “gloomy perception mechanism”, low activation anddispleasure) (see Fig. 1).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภายในกรอบทฤษฎีนี้และผลการวิจัยก่อนหน้านี้เรา setthe คำถามการวิจัยต่อไปนี้: คำถามการวิจัยที่ 3: อย่าพนักงานที่มีความยาว profilesof SWB ในการทำงานที่แตกต่างกันยังแตกต่างกันเกี่ยวกับการ recoverystrategies พึงพอใจในชีวิตและพื้นที่ทางสังคมของคุณภาพชีวิต, asrewards ดังกล่าวและความรู้สึกของชุมชน ? ในระหว่างขั้นตอนกลางเดือนอาชีพเราคาดว่าพนักงานที่ประสบในระดับสูงของ workengagement และระดับต่ำของความเหนื่อยหน่ายและ workaholism wouldbe มีแนวโน้มที่จะได้สัมผัสกับกลยุทธ์การกู้คืนการทำงานและระดับ ahigh ของความพึงพอใจในชีวิต (Hakanen & Schaufeli, 2012a; Karasek & Theorell , 1990) นอกจากนี้ในแง่ของ SWB ที่รูปแบบการทำงาน (แบกเกอร์และ Oerlema​​ns 2011) เราคาดว่าสมาชิกภาพของ theprofile กับการมีส่วนร่วมในการทำงานสูงที่จะทำนายระดับสูง oflife ความพึงพอใจ (Hakanen & Schaufeli, 2012a; Hakanen & Schaufeli, 2012b; & เฮย์ส Weathington 2007) ในขณะที่การรับมือ successfullyat เวทีอาชีพหนึ่งจะทำนายระดับสูงของอัตนัยเป็นอยู่ที่ดี ความคาดหวังเหล่านี้อยู่ในแนวเดียวกันกับ SWBmodel แบบดั้งเดิม (Diener, Sandvik และ Pavot, 1991b) ซึ่งความสัมพันธ์ที่ betweenhigh SWB และพึงพอใจในชีวิตเช่นเดียวกับความสุขเป็น observed.Finally ความคาดหวังเหล่านี้เกิดขึ้นจากสมมติฐานเดิม ofthe สำคัญของการทำงานในการกำหนดอย่างใดอย่างหนึ่ง เอกลักษณ์ ดังนั้นเมื่อ expe riences ของการทำงานออกจากยอดเงินเพราะ SWB ไม่ดีในที่ทำงานมีผล spillover anegative ในชีวิตของแต่ละบุคคลโดยรวมคือ lifesatisfaction ยากจนสามารถคาดหวัง (kantak, Futrell และเจอร์ 1992) ตามแบบดั้งเดิม พัฒนาการ (ลี & Asfort, 1993), weexpected ว่าในอารมณ์เรียกร้องงานเช่นในงาน inteaching และการจ้างงานที่มีการเรียกร้องความสัมพันธ์ทางสังคมเช่นเดียวกับกรณี inour การศึกษาความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญอาจเกิดระหว่าง SWBprofiles และปัจจัยทางสังคมในสภาพแวดล้อมการทำงาน เรา expectedthat พนักงานที่มีระดับสูงของการมีส่วนร่วมในการทำงานและ lowlevel ของความเหนื่อยหน่ายและ workaholism จะได้สัมผัสกับผลตอบแทนที่มากขึ้นและความรู้สึกที่แข็งแกร่งของชุมชน (คาห์น, 1990; แบกเกอร์และคณะ, 2011;. เดมีเหตุมีผลและคณะ, 2005b. ข้าว 1984) กว่าพนักงานที่มีความเหนื่อยหน่าย levelof สูง (เช่น "กลไกการรับรู้มืดมน" anddispleasure ยืนยันการใช้งานต่ำ) (ดูรูปที่ 1).

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภายในกรอบทฤษฎีนี้และก่อนหน้านี้ พบว่า เรา setthe ต่อไปนี้คำถามการวิจัย : งานวิจัยคำถามที่ 3 : ทำพนักงานที่มีระยะยาว profilesof SWB ทำงานแตกต่างกันยังแตกต่างกันด้วยความเคารพ recoverystrategies ความพึงพอใจในชีวิต และพื้นที่ทางสังคมศาสตร์ asrewards เช่น , และความรู้สึกของชุมชน , ระยะกลางงาน ?เราคาดหวังว่าพนักงานประสบระดับสูงของ workengagement และระดับต่ำของความเหนื่อยหน่ายในการปฏิบัติงานและการบ้างานจะมีโอกาสที่จะพบกลยุทธ์การฟื้นตัวและระดับสูงของความพึงพอใจในชีวิต ( hakanen & schaufeli 2012a ; ส่ง& theorell , 1990 ) นอกจากนี้ในแง่ของ SWB ที่ทำงานแบบ ( Bakker & oerlemans , 2011 )เราคาดหวังว่าสมาชิกของ theprofile กับความผูกพันในงานสูง จะทำนายระดับความพึงพอใจในชีวิต ( hakanen & schaufeli 2012a ; hakanen , & schaufeli 2012b ; เฮย์ส , & weathington , 2007 ) ในขณะที่การ successfullyat อาชีพหนึ่งเวทีจะทำนายระดับความอยู่ดีมีสุข . ความคาดหวังนี้จะสอดคล้องกับ swbmodel ดั้งเดิม ( ไดเนอร์แซนด์& pavot 1991b , )ที่ความสัมพันธ์ betweenhigh SWB และความพึงพอใจในชีวิต ตลอดจนความสุขลดลง ในที่สุด ความคาดหวังเหล่านี้เกิดขึ้นจากสมมติฐานดั้งเดิมของความสำคัญของงานในการกำหนดของตัวตน ดังนั้น เมื่อทดลอง riences งาน ไม่สมดุล เพราะคนจน SWB ที่ทำงาน ผล spillover anegative ในชีวิตโดยรวมของแต่ละบุคคล เช่น lifesatisfaction ยากจนสามารถคาดหวัง ( kantak ฟิวเทรล , &เซเกอร์ , 1992 ) . ตามความคิดแบบดั้งเดิม ( ลี & asfort , 1993 ) weexpected ในอารมณ์ความต้องการงาน เช่น ในการสอนงานและงานที่มีความต้องการความสัมพันธ์ทางสังคม เป็นกรณี inour การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง swbprofiles อาจเกิดขึ้นและปัจจัยทางสังคมงานสิ่งแวดล้อมเราหวังว่าระบบนี้กับพนักงานระดับสูงและระดับต่ำ งานหมั้นของความเหนื่อยหน่ายในการปฏิบัติงานและการบ้างานจะพบรางวัลมากขึ้น และความเข้มแข็งของชุมชน ( คาห์น , 1990 ; Bakker et al . , 2011 ; de Lange et al . , 2005b ; ข้าว , 1984 ) มากกว่าพนักงานในระดับสูง ( เช่น " มืดมน การรับรู้ กลไกการกระตุ้น " ต่ำ anddispleasure ) ( ดูรูปที่ 1 )