There is strong evidence that air p

There is strong evidence that air pollution is the most harmful environmental problem in Canada in terms of human health effects, causing thousands of deaths, millions of illnesses, billions of dollars in health care expenses, and tens of billions of dollars in lost productivity every year. To put these figures in context, the level of deaths and illnesses caused by air pollution in Canada is equivalent to a Walkerton water disaster happening on a daily basis. Put another way, air pollution leads to more premature deaths than traffic accidents annually in Canada, yet generates less media attention and less government action.

Comparisons of nations belonging to the Organization for Economic Cooperation and Development (OECD), conducted by researchers at the University of Victoria and Simon Fraser University, show that Canada consistently ranks among the three worst industrialized nations for per capita sulphur dioxide emissions, nitrogen dioxide emissions, emissions of volatile organic compounds (VOCs), carbon monoxide emissions, and greenhouse gas emissions. Weak laws and guidelines are a major reason why these emissions continue to be a problem and why the ongoing costs of air pollution in Canada are so high. Unless laws and regulations are strengthened and additional actions are taken, pressures from population and economic growth will result in increasing hazardous air emissions.

Polling data indicate that the overwhelming majority of Canadians are deeply concerned about environmental threats to their health and the health of their children. The vast majority of Canadians support stronger regulations to address air pollution. In light of the foregoing factors, it is imperative that the substandard legal protection for air quality currently provided by the Government of Canada be substantially strengthened.

In this report, the David Suzuki Foundation has compared Canada’s existing air quality guidelines with the air quality standards in force in the United States, Australia, and Europe, as well as the guidelines recommended by the World Health Organization. The numbers tell a disturbing tale. Canada’s current voluntary guidelines for air quality lag badly behind the legally enforceable standards found in most western industrialized nations, including the U.S., Australia, and all members of the European Union. In order to catch up with our peers, Canada urgently needs strong national standards for air quality and ambitious long-term targets and timetables for reducing air pollution. It is also critical to understand that burning fossil fuels (oil, coal, and natural gas) not only generates the majority of air pollution in Canada but is the main source of greenhouse gas emissions. Policies should be designed to reduce air pollution and concurrently address climate change.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีฐานว่า มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายที่สุดในแคนาดาในสุขภาพ สาเหตุพันล้านโรค พันล้านดอลลาร์ในการดูแลสุขภาพค่าใช้จ่าย และสิบพันล้านดอลลาร์ในผลผลิตที่สูญหาย เสียชีวิตทุกปี ใส่ตัวเลขเหล่านี้ในบริบท ระดับการตายและการเจ็บป่วยที่เกิดจากมลพิษทางอากาศในแคนาดาจะเท่ากับภัยพิบัติน้ำ Walkerton ที่เกิดขึ้นประจำวัน ใส่อีกวิธี มลพิษทางอากาศนำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากขึ้นมากกว่าอุบัติเหตุทางจราจรในแคนาดา ได้สร้างความสนใจจากสื่อน้อยลงและน้อยกว่าการดำเนินการของรัฐบาลเปรียบเทียบประเทศที่เป็นสมาชิกขององค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD), ดำเนินการ โดยนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยวิกตอเรียและ Simon เฟรเซอร์มหาวิทยาลัย แสดงที่แคนาดาอย่างอันดับที่สามเลวร้ายที่สุดร่ำปล่อยต่อหัวซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ปล่อย ปล่อยสารอินทรีย์ระเหย (VOCs), ปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และปล่อยก๊าซเรือนกระจก กฎหมายอ่อนแอและแนวทางเป็นเหตุผลหลัก ทำไมปล่อยก๊าซเหล่านี้ยังเป็นปัญหา และ สาเหตุที่ต้นทุนอย่างต่อเนื่องของมลพิษทางอากาศในแคนาดามีสูง เว้นแต่ว่ากฎหมายและข้อบังคับมีความเข้มแข็ง และมีดำเนินการดำเนินการเพิ่มเติม แรงกดดันจากประชากรและการเติบโตทางเศรษฐกิจจะส่งผลในการเพิ่มการปล่อยอากาศที่เป็นอันตราย โพลล์ข้อมูลบ่งชี้ว่า ส่วนใหญ่ชาวแคนาดาเป็นห่วงเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อมสุขภาพและสุขภาพของเด็ก ชาวแคนาดาส่วนใหญ่สนับสนุนกฎระเบียบที่แข็งแกร่งการมลพิษในอากาศที่อยู่ เมื่อปัจจัยเหล่านี้ จึงเป็นความจำเป็นที่คุ้มครองทางกฎหมายมาตรฐานคุณภาพอากาศอยู่ในขณะนี้โดยรัฐบาลแคนาดามากแข็งแรงขึ้นในรายงานนี้ มูลนิธิ David Suzuki ได้เปรียบเทียบของประเทศแคนาดาอยู่อากาศคุณภาพแนวทางมาตรฐานคุณภาพอากาศในในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และยุโรป เป็นแนวทางที่แนะนำ โดยองค์การอนามัยโลก ตัวเลขบอกเรื่องรบกวน ของประเทศแคนาดาปัจจุบันแนวทางสมัครใจคุณภาพอากาศช้าเลวมาตรฐานบุคลากรกฎหมายที่พบในประเทศอุตสาหกรรมตะวันตกมากที่สุด สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสมาชิกทั้งหมดของสหภาพยุโรป เพื่อทันกับเพื่อนของเรา แคนาดาอย่างเร่งด่วนต้องแข็งแรงมาตรฐานคุณภาพอากาศ และเป้าหมายระยะยาวที่ทะเยอทะยาน และตารางเวลาสายการลดมลพิษในอากาศ มีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจว่า การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล (น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ) ไม่เพียงแต่สร้างมลพิษทางอากาศส่วนใหญ่ในประเทศแคนาดา แต่เป็นแหล่งที่มาหลักของเรือนกระจกปล่อยก๊าซ นโยบายควรออกแบบเพื่อลดมลพิษทางอากาศและพร้อมเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีหลักฐานที่แข็งแกร่งที่มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายมากที่สุดในประเทศแคนาดาในแง่ของผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ทำให้หลายพันของการเสียชีวิตนับล้านเจ็บป่วยพันล้านดอลลาร์ในค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและนับพันล้านดอลลาร์ในการผลิตที่หายไปทุกปี . ที่จะนำตัวเลขเหล่านี้ในบริบทระดับของการเสียชีวิตและการเจ็บป่วยที่เกิดจากมลพิษทางอากาศในประเทศแคนาดาจะเทียบเท่ากับภัยพิบัติน้ำ Walkerton ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน วางวิธีอื่นมลพิษทางอากาศที่นำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากกว่าอุบัติเหตุจราจรเป็นประจำทุกปีในประเทศแคนาดายังสร้างความสนใจของสื่อน้อยลงและการกระทำของรัฐบาลน้อย. การเปรียบเทียบประเทศที่เป็นขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ที่จัดทำโดยนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย วิกตอเรียและไซมอนเฟรเซอร์มหาวิทยาลัยแสดงให้เห็นว่าประเทศแคนาดาอย่างสม่ำเสมออันดับในสามประเทศอุตสาหกรรมที่เลวร้ายที่สุดสำหรับต่อหัวการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์, การปล่อยก๊าซไนโตรเจนการปล่อยสารอินทรีย์ระเหย (VOCs) การปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์และปล่อยก๊าซเรือนกระจก กฎหมายอ่อนแอและแนวทางเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมการปล่อยก๊าซเหล่านี้ยังคงเป็นปัญหาและเหตุผลที่ค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องของมลพิษทางอากาศในประเทศแคนาดามีความสูงมาก ยกเว้นกรณีที่กฎหมายและระเบียบที่มีความเข้มแข็งและการกระทำเพิ่มเติมจะได้รับการกดดันจากประชากรและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะส่งผลในการเพิ่มการปล่อยมลพิษทางอากาศที่เป็นอันตราย. ข้อมูลการลงคะแนนเลือกตั้งระบุว่าส่วนใหญ่ที่ครอบงำของแคนาดามีความกังวลอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อมต่อสุขภาพของพวกเขาและสุขภาพของเด็กของพวกเขา . ส่วนใหญ่ของแคนาดาสนับสนุนกฎระเบียบที่แข็งแกร่งเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ในแง่ของปัจจัยดังกล่าวข้างต้นก็มีความจำเป็นที่การคุ้มครองทางกฎหมายที่ต่ำกว่ามาตรฐานสำหรับให้คุณภาพอากาศในขณะนี้โดยรัฐบาลแคนาดามีความเข้มแข็งอย่างมีนัยสำคัญ. ในรายงานนี้เดวิดซูซูกิมูลนิธิได้เมื่อเทียบแนวทางคุณภาพอากาศที่มีอยู่ของแคนาดากับมาตรฐานคุณภาพอากาศใน มีผลบังคับใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาออสเตรเลียและยุโรปเช่นเดียวกับแนวทางที่แนะนำโดยองค์การอนามัยโลก ตัวเลขบอกเรื่องรบกวน แคนาดาแนวทางสมัครใจปัจจุบันล่าช้าคุณภาพอากาศไม่ดีที่อยู่เบื้องหลังมาตรฐานตามกฎหมายที่พบมากที่สุดในประเทศอุตสาหกรรมตะวันตกรวมทั้งสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, และสมาชิกทุกคนในสหภาพยุโรป เพื่อที่จะจับขึ้นกับเพื่อนของเราแคนาดาเร่งด่วนที่ต้องการมาตรฐานแห่งชาติที่แข็งแกร่งสำหรับคุณภาพอากาศและมีความทะเยอทะยานเป้าหมายในระยะยาวและตารางเวลาสำหรับการลดมลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจว่าการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล (น้ำมันถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ) ไม่เพียง แต่สร้างส่วนใหญ่ของมลพิษทางอากาศในประเทศแคนาดา แต่เป็นแหล่งที่มาหลักของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นโยบายควรได้รับการออกแบบมาเพื่อลดมลพิษทางอากาศและพร้อมเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีหลักฐานว่า มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายมากที่สุดในแคนาดา ในแง่ของผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ ก่อให้เกิดการเสียชีวิตนับพัน ล้านของการเจ็บป่วย , พันล้านดอลลาร์ในค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ และนับพันล้านดอลลาร์ในการสูญเสียผลผลิตทุกปี ใส่ตัวเลขเหล่านี้ในบริบทระดับของการเสียชีวิตและการเจ็บป่วยที่เกิดจากมลพิษทางอากาศในประเทศแคนาดาเป็นเทียบเท่ากับ Walkerton น้ำความเสียหายเกิดขึ้นทุกวัน วางวิธีอื่น มลพิษทางอากาศทำให้คลอดก่อนกำหนดเสียชีวิตอุบัติเหตุจราจรมากขึ้นกว่าปีในประเทศแคนาดา แต่สร้างน้อยกว่า สื่อให้ความสนใจและการกระทำของรัฐบาลน้อยลง

การเปรียบเทียบของประเทศเป็นขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ ( OECD ) ได้ดำเนินการโดยนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยวิกตอเรียและมหาวิทยาลัยไซมอนเฟรเซอร์ แสดงที่แคนาดาอย่างต่อเนื่องจัดอันดับระหว่างสามที่เลวร้ายที่สุดต่อประเทศอุตสาหกรรมปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ , ไนโตรเจนไดออกไซด์ การปล่อยสารอินทรีย์ระเหยง่าย ( VOCs )การปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กฎหมายที่อ่อนแอและแนวทางเป็นหลักเหตุผล การปล่อยก๊าซเหล่านี้ยังคงเป็นปัญหา และทำให้ต้นทุนอย่างต่อเนื่องของมลพิษทางอากาศในประเทศแคนาดามีสูงมาก ถ้ากฎหมายมีความเข้มแข็งและการกระทำอื่นๆ ได้รับแรงกดดันจากประชากร และการเติบโตทางเศรษฐกิจจะส่งผลในการเพิ่มการปล่อยมลพิษทางอากาศที่เป็นอันตราย

ข้อมูลหน่วยเลือกตั้งพบว่า ส่วนใหญ่ที่น่าหนักใจของแคนาดามีความกังวลอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพและสุขภาพของเด็กของพวกเขา ส่วนใหญ่ของชาวแคนาดาสนับสนุนกฎระเบียบที่แข็งแกร่งเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ในแง่ของปัจจัยที่กล่าวมาแล้วมันขวางว่า มาตรฐานทางกฎหมายคุ้มครองคุณภาพอากาศในขณะนี้โดยรัฐบาลแคนาดาจะช่วยเพิ่ม

ในรายงานฉบับนี้ มูลนิธิฯ เดวิด ซูซูกิ ได้เทียบแคนาดาที่มีอยู่คุณภาพอากาศแนวทางกับมาตรฐานคุณภาพอากาศในการบังคับในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และยุโรปเป็นแนวทางที่แนะนำโดยองค์การอนามัยโลก ตัวเลขที่บอกเรื่องรบกวน ของแคนาดาปัจจุบัน โดยแนวทางคุณภาพอากาศร่างกายอย่างรุนแรงหลังกฎหมายบังคับใช้มาตรฐานที่พบในประเทศตะวันตกอุตสาหกรรมมากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสมาชิกทั้งหมดของสหภาพยุโรป เพื่อให้ทันกับเพื่อนของเราแคนาดาต้องการมาตรฐานแห่งชาติที่แข็งแกร่งสำหรับคุณภาพอากาศและทะเยอทะยานเป้าหมายระยะยาวและตารางเวลาสำหรับการลดมลภาวะทางอากาศ ก็ยังสำคัญที่จะเข้าใจว่าการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล ( น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ) ไม่เพียง แต่สร้างส่วนใหญ่ของมลพิษทางอากาศในประเทศแคนาดา แต่เป็นแหล่งที่มาหลักของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนโยบายที่ควรจะได้รับการออกแบบเพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศ และพร้อมให้ที่อยู่เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ