The aim of this study was to determ

The aim of this study was to determine the prevalence and symptomsof dysmenorrhea, its r elevant factors, an d the rate of seeking medicalhelp in a group of nursing students. A total of 380 students were included in the study. The demographic data questionnaire, a DailyMenstrual Symptom Rating Scale (DMSR), and the Visual AnalogScalefor pain (VASP) were used as too ls for data collection. The mean age ofthe participants was 20 .31 ± 1.10 years. Most students had experienceddysmenorrhea (84.9%) . Menstrual pain was frequently initiated on thefirst day of menstruation (77.8%) . The most commonly reportedmenstrual problems were irregular menstrual cycles (27.2%) and oligomenorrhea (15.1%) . Only 24.1 % of students consulted their physicians for dysmenorrhea. The participants who had dysmenorrhea hadsignificantly higher symptom scores than the participants who hadnot had dysmenorrhea, interms of decreased activities, tension, hipandabdominal pain, back ache, headache , and fatigue. Also, havinga sister with dysmenorrhea increased the risk of dysmenorrhea. Although dysmenorrhea is a gynecological problem that is commonlyseen in young women and that negatively affects daily activities andschool life, the rate of seeking medical help is low. Ado lescents should,therefor e, be educated and counseled to determine the underlyingcause and to increase the use of an effective treatment method. Considering that nurses should be betterinformed about dysmenorrheacauses and treatment options, a study of nursing students was undertaken .

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้เพื่อตรวจสอบความชุกและอาการ
ของประจำเดือน R ปัจจัย Elevant ของตนวันที่อัตราที่กำลังมองหาแพทย์
ช่วยเหลือในกลุ่มของนักศึกษาพยาบาล นักศึกษารวม 380 ถูกรวมอยู่ในการศึกษา แบบสอบถามข้อมูลประชากรรายวัน
ประจำเดือนอาการสเกลคะแนน (DMSR) และ AnalogScale ภาพ
สำหรับอาการปวด (VASP) ถูกนำมาใช้เป็นคำสั่ง ls เกินไปสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูล อายุเฉลี่ยของ
ผู้เข้าร่วม 20 0.31 ± 1.10 ปี นักเรียนส่วนใหญ่มีประสบการณ์
ประจำเดือน (84.9%) อาการปวดประจำเดือนได้ริเริ่มขึ้นบ่อยครั้งใน
วันแรกของการมีประจำเดือน (77.8%) รายงานกันมากที่สุด
ปัญหาประจำเดือนมีรอบประจำเดือนผิดปกติ (27.2%) และ oligomenorrhea (15.1%) เพียง 24.1% ของนักเรียนปรึกษาแพทย์ของพวกเขาสำหรับประจำเดือน ผู้เข้าร่วมที่มีประจำเดือนมี
คะแนนอาการสูงกว่าผู้เข้าร่วมที่ได้
ไม่ได้มีประจำเดือน interms กิจกรรมลดลงความตึงเครียดสะโพก
ปวด andabdominal, ปวดหลัง, ปวดหัว, และความเหนื่อยล้า นอกจากนี้ยังมี
น้องสาวที่มีประจำเดือนเพิ่มความเสี่ยงของประจำเดือน แม้ว่าประจำเดือนเป็นปัญหาทางนรีเวชที่มักจะ
เห็นในหญิงสาวและที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมประจำวันและ
ชีวิตในโรงเรียนอัตราการแสวงหาความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่อยู่ในระดับต่ำ lescents Ado ควร
ดังนั้นอีได้รับการศึกษาและให้คำปรึกษาในการกำหนดต้นแบบ
เกิดขึ้นและจะเพิ่มการใช้วิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ พิจารณาว่าพยาบาลควรจะ betterinformed เกี่ยวกับประจำเดือน
สาเหตุและตัวเลือกการรักษาการศึกษาของนักศึกษาพยาบาลได้ดำเนินการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการตรวจสอบความชุกและอาการ
ของการปวดประจำกันยายนปัจจัยที่มีอัตราการแสวงหาทางการแพทย์
ความช่วยเหลือในกลุ่มนักศึกษาพยาบาล ทั้งหมด๓๘๐นักเรียนรวมอยู่ในการศึกษา แบบสอบถามข้อมูลประชากรทุกวัน
ขนาดการจัดอันดับประจำเดือนอาการ (DMSR), และภาพที่มีขนาดใหญ่
สำหรับความเจ็บปวด (VASP) ถูกใช้เป็น ls เกินไปสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูล อายุเฉลี่ยของ
ผู้เข้าร่วมเป็น 20. 31 ±๑.๑๐ปี นักเรียนส่วนใหญ่มีประสบการณ์
(๘๔.๙%) อาการปวดประจำเดือนมักเริ่มขึ้นใน
วันแรกของการมีประจำเดือน (๗๗.๘%) รายงานทั่วไป
ปัญหาประจำเดือนเป็นรอบประจำเดือนผิดปกติ (๒๗.๒%) (๑๕.๑%) เพียง๒๔.๑% ของนักเรียนปรึกษาแพทย์ของพวกเขาสำหรับการปวดประจำมกราคม ผู้เข้าร่วมที่มี
คะแนนอาการสูงกว่าผู้เข้าร่วมที่มี
ไม่ได้มีประจำประจำกันยายน, interms ของกิจกรรมลดลง, ความตึงเครียด, สะโพก
และปวดท้อง, ปวดหลัง, ปวดหัว, และความเมื่อยล้า. นอกจากนี้ยังมี
น้องสาวที่มีอาการปวดประจำกุมภาพันธ์เพิ่มความเสี่ยงของการเกิด แม้ว่าประจำสุราเป็นปัญหาทางนรีเวชที่เป็นปกติ
ที่เห็นในเยาวชนหญิงและมีผลเสียต่อกิจกรรมประจำวันและ
ชีวิตของโรงเรียน, อัตราการแสวงหาความช่วยเหลือทางการแพทย์อยู่ในระดับต่ำ. ต้องการ
ได้รับการศึกษาและแนะนำให้ตรวจสอบ
ทำให้เกิดและเพิ่มการใช้วิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ พิจารณาว่าพยาบาลควรจะได้รับการแจ้งเกี่ยวกับ
สาเหตุและการรักษาตัวเลือก, การศึกษาของนักเรียนพยาบาลได้ดำเนินการ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกและอาการ
อุบัติการณ์ของโรคเกาต์และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ
ช่วยกลุ่มนักศึกษาพยาบาล นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการวิจัย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลรายวัน
เครื่องวัดอาการประจำเดือนและแบบวัดการมองเห็น
นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล อายุเฉลี่ย
วัตถุประสงค์ของการศึกษาคือ 20.31 ± 1.10 ปี นักเรียนส่วนใหญ่มีประสบการณ์
ปวดประจำเดือน ปวดประจำเดือนมักจะเกิดขึ้น
การมีประจำเดือนครั้งแรก รายงานที่พบมากที่สุด
ปัญหาการมีประจำเดือนคือความผิดปกติของการมีประจำเดือน เพียง 24.1 เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาอาการปวดประจำเดือน ผู้เข้าร่วมกับโรคเกาต์
คะแนนอาการสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ไม่มีอาการปวดประจำเดือนกิจกรรมลดความตึงเครียดที่สะโพก
อาการปวดท้องปวดหลังปวดศีรษะและอ่อนเพลีย แล้วก็มี
น้องสาวที่มีอาการปวดประจำเดือนเพิ่มความเสี่ยงของอาการปวดประจำเดือน แม้ว่าโรคเกาต์เป็นโรคที่พบบ่อยในนรีเวชวิทยา
เห็นในผู้หญิงวัยรุ่นที่มีผลกระทบเชิงลบต่อกิจกรรมประจำวัน
ชีวิตในโรงเรียนมีอัตราต่ำของการรักษาทางการแพทย์ อาโด้เลสันควรจะเป็น
ดังนั้นการศึกษาและข้อเสนอแนะเพื่อระบุศักยภาพ
และเพิ่มการใช้วิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ พยาบาลควรเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับอาการปวดประจำเดือน
การศึกษาสาเหตุและทางเลือกของการรักษาสำหรับนักศึกษาพยาบาล