Prevalence rates are likely to vary

Prevalence rates are likely to vary according to the type of physical illness and patient demographics. In critical care settings, given that patient admission is based on severe medical or surgical disorders, it is more likely that these disorders will co-occur with a psychiatric condition. Rincon et al (2001) assessed 96 patients from three critical care units in California. Based on the Hospital Anxiety Depression Scale, 13.7% experienced depression and 24% experienced anxiety. Using the Confusional Assessment Method, 7.3% experienced delirium. In addition, 29.2% of patients were classified as possible problem drinkers. Prevalence rates also vary according to the type and severity of the disease. Yovtcheva et al (2001) assessed 306 randomly selected hepatitis C patient records using DSM-IV diagnosis
criteria. Thirty-eight per cent of the veteran patients had mood disorders, 30% personality disorders, 19% Post Traumatic Stress Disorder and 17% psychotic disorders, 86% alcohol abuse disorders and 28% intravenous drug use disorders. Prevalence rates for personality disorders among primary care patients with chronic pain range from 24-47% (Sansone et al 2001). Depression and suicidal ideation is common in acutely medically ill older patients, with prevalence rates of depression as high as 45% (Ramsey et al 1991; Koenig et al 1988).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อัตราความชุกมีแนวโน้มที่จะแตกต่างกันไปตามประเภทของการเจ็บป่วยทางกายและประชากรผู้ป่วย ในการตั้งค่าการดูแลที่สำคัญที่ระบุว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะขึ้นอยู่กับความผิดปกติทางการแพทย์หรือการผ่าตัดที่รุนแรงก็มีโอกาสมากขึ้นที่ผิดปกติเหล่านี้จะร่วมเกิดขึ้นกับสภาพทางจิตเวช รินคอน, et al (2001) การประเมิน 96 ผู้ป่วยจากสามหน่วยการดูแลที่สำคัญในรัฐแคลิฟอร์เนีย ขึ้นอยู่กับความวิตกกังวลภาวะซึมเศร้าโรงพยาบาลขนาดที่ 13.7% มีประสบการณ์ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล 24% ที่มีประสบการณ์ โดยใช้วิธีการประเมินความสับสน 7.3% มีประสบการณ์เพ้อ นอกจากนี้ 29.2% ของผู้ป่วยถูกจัดให้เป็นนักดื่มปัญหาที่เป็นไป อัตราความชุกยังแตกต่างกันไปตามชนิดและความรุนแรงของโรค Yovtcheva, et al (2001) การประเมิน 306 สุ่มเลือกระเบียนของผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีโดยใช้การวินิจฉัย DSM-IV
หลักเกณฑ์ ร้อยละสามสิบแปดของผู้ป่วยที่มีประสบการณ์มีความผิดปกติทางอารมณ์บุคลิกภาพผิดปกติ 30%, 19% โพสต์ความผิดปกติของความเครียดบาดแผลและ 17% ความผิดปกติทางจิต, 86% ความผิดปกติของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และ 28% ความผิดปกติของการใช้ยาทางหลอดเลือดดำ อัตราความชุกสำหรับบุคลิกภาพผิดปกติในผู้ป่วยที่ดูแลหลักที่มีอาการปวดเรื้อรังช่วง 24-47% (Sansone et al, 2001) ภาวะซึมเศร้าและคิดฆ่าตัวตายเป็นเรื่องธรรมดาในผู้ป่วยที่ป่วยรุนแรงทางการแพทย์เก่าที่มีอัตราความชุกของภาวะซึมเศร้าสูงถึง 45% (แรมซีย์ et al, 1991; นิก et al, 1988)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อัตราความชุกของโรคมีแนวโน้มที่จะแตกต่างกันไปตามชนิดของการเจ็บป่วยทางกายและลักษณะประชากรของผู้ป่วย ในการตั้งค่าการดูแลที่สำคัญที่ได้รับการรับผู้ป่วยจะขึ้นอยู่กับความผิดปกติทางการแพทย์หรือการผ่าตัดที่รุนแรง มันมีแนวโน้มว่า ความผิดปกติเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับบริษัทสภาวะทางจิต ค้นหา et al ( 2001 ) ประเมินผู้ป่วยจาก 96 สามหน่วยดูแลผู้ป่วยวิกฤตในแคลิฟอร์เนียตามโรงพยาบาลความวิตกกังวลซึมเศร้าขนาด 13.7 % ประสบภาวะซึมเศร้าและ 24% ที่มีความกังวล ใช้วิธีประเมินสับสนฉับพลัน , 7.3 , มีประสบการณ์เพ้อ . นอกจากนี้ 2 % ของผู้ป่วยที่ถูกจัดให้เป็นปัญหาดื่มไปได้ อัตราความชุกแตกต่างกันตามชนิดและความรุนแรงของโรคyovtcheva et al ( 2001 ) แล้วสุ่มประเมินไวรัสตับอักเสบซีผู้ป่วยระเบียนโดยใช้เกณฑ์การวินิจฉัยโรค
dsm-iv . สามสิบแปดเปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยทหารผ่านศึกได้อารมณ์ความผิดปกติ , ความผิดปกติของบุคลิกภาพ 30% , 19% Post Traumatic เครียดและ 17 เปอร์เซ็นต์ความผิดปกติทางจิต ร้อยละ 86 ของการละเมิดแอลกอฮอล์และ 28 % การใช้ยา disordersอัตราความชุกความผิดปกติของบุคลิกภาพของผู้ป่วยการดูแลเบื้องต้น กับช่วงที่ปวดเรื้อรัง จาก 24-47 % ( ซานโซน et al , 2001 ) ภาวะซึมเศร้าและความคิดฆ่าตัวตายเป็นปกติ ในผู้ป่วยที่ป่วยเฉียบพลันแพทย์รุ่นเก่า กับอัตราความชุกของภาวะซึมเศร้าสูงเท่ากับ 45 % ( แรมซีย์ et al 1991 ; Koenig et al , 1988 )
.