The myoelastic aerodynamic theory o

The myoelastic aerodynamic theory of vocal fold vibration states that greater mass, lesser tension or lesser elasticity of the vocal folds will tend to reduce the frequency of vibration, whereas less mass, greater tension or greater elasticity will increase the frequency of vibration. Airflow will also make a difference, as the rate at which subglottic pressure builds up underneath the vocal folds will change.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีพลศาสตร์ myoelastic ของรัฐแกนนำการสั่นสะเทือนพับว่ามวลมากขึ้นความตึงเครียดน้อยหรือความยืดหยุ่นน้อยกว่าแกนนำพับจะมีแนวโน้มที่จะลดความถี่ของการสั่นสะเทือนในขณะที่มวลน้อยกว่าความตึงเครียดมากขึ้นหรือความยืดหยุ่นมากขึ้นจะช่วยเพิ่มความถี่ของการสั่นสะเทือน การไหลของอากาศก็จะสร้างความแตกต่าง,เป็นอัตราที่ความดัน subglottic สร้างขึ้นภายใต้แกนนำพับจะมีการเปลี่ยนแปลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Myoelastic ของ vocal พับสั่นสะเทือนอากาศพลศาสตร์ทฤษฎีระบุว่า มวลมากกว่า น้อยกว่าความตึงเครียด หรือความยืดหยุ่นน้อยกว่าของพับเสียงจะมีแนวโน้มในการ ลดความถี่ของการสั่นสะเทือน ในขณะที่น้อยกว่ามวล ความตึงเครียดมากขึ้นหรือความยืดหยุ่นมากขึ้นจะเพิ่มความถี่ของการสั่นสะเทือน ไหลของอากาศจะทำให้ความแตกต่าง อัตราที่ subglottic ที่ความดันสร้างขึ้นใต้พับเสียงจะเปลี่ยนไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎี myoelastic ตามหลักอากาศพลศาสตร์ของการสั่นเท่าเสียงรัฐว่าความยืดหยุ่นมากขึ้นหรือน้อยกว่าความตึงเครียดน้อยกว่าของเสียงที่พับเก็บได้จะมีแนวโน้มที่จะลดความถี่ของการสั่นสะเทือนในขณะที่น้อยลงความยืดหยุ่นมากกว่าหรือความตึงเครียดมากขึ้นจะเพิ่มความถี่ของการสั่นสะเทือน การไหลเวียนของอากาศจะทำให้ความแตกต่างที่ยังเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ซึ่งความดัน subglottic ก็จะสร้างประจุไฟฟ้ามากขึ้นด้านล่างสามารถพับเก็บได้เสียงจะเปลี่ยน