Thai economy should rely more on As

Thai economy should rely more on Asia and ASEAN, says economist

The Thai economy should shift to rely more on Asian and intra-ASEAN markets, according to a leading economist.
Speaking at annual meeting of the National Economic and Social Development Board (NESDB), agency director Narongchai Akrasanee said Thai economic and political affairs must be restructured under the 11th National Economic and Social Development plan.

The Thai economy must not rely on the United States destinations any longer.

Investors should turn to do more business with Asian countries and ASEAN members, including Laos, Cambodia, Myanmar and Vietnam, and open new markets such as Africa, China, India, and the Middle East, he advised.

Mr. Narongchai said entrepreneurs must pay greater attention to innovative products and designs and government must help stimulate demand.

Intellectual property protection must also be given priority, beginning with upgrading the Intellectual Property Department being upgraded to the same status as the Board of Investment (BoI), Mr. Narongchai said. (TNA)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เศรษฐกิจไทยควรอาศัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอเชียและอาเซียนนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า

เศรษฐกิจไทยควรจะเปลี่ยนไปพึ่งพามากขึ้นในตลาดเอเชียและภายในอาเซียนตามที่นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ
พูดในที่ประชุมประจำปีของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช. )ผู้อำนวยการหน่วยงานณรงค์ชัยอัครเศรณีกล่าวว่ากิจการทางเศรษฐกิจและการเมืองไทยจะต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 11.

เศรษฐกิจไทยจะต้องไม่พึ่งพาประเทศสหรัฐอเมริกาสถานที่ท่องเที่ยวได้อีกต่อไป.

นักลงทุนควรหันมาทำธุรกิจมากขึ้นกับเอเชีย ประเทศและสมาชิกอาเซียนรวมทั้งลาวกัมพูชาพม่าและเวียดนามและเปิดตลาดใหม่เช่นแอฟริกา, จีน, อินเดียและตะวันออกกลางเขาแนะนำ.

mr ณรงค์ชัยกล่าวว่าผู้ประกอบการต้องให้ความสนใจมากขึ้นกับผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและการออกแบบและรัฐบาลต้องช่วยกระตุ้นความต้องการ.

คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาจะต้องให้ความสำคัญเริ่มต้นด้วยการอัพเกรดกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้รับการปรับสถานะเช่นเดียวกับคณะกรรมการการลงทุน (บีโอไอ), นาย ณรงค์ชัยกล่าวว่า (TNA)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เศรษฐกิจไทยควรอาศัยมากขึ้นในเอเชียและอาเซียน กล่าวว่า นักเศรษฐศาสตร์

เศรษฐกิจไทยควรเปลี่ยนไปใช้มากขึ้นในเอเชียและอาเซียนภายในประเทศ ตามนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ
พูดในการประชุมประจำปีของชาติเศรษฐกิจและสังคมพัฒนาคณะ (สศช.), ผู้อำนวยการสำนักณรงค์ชัย Akrasanee กล่าวว่า เศรษฐกิจไทย และกิจการทางการเมืองต้องถูก restructured ภายใต้ 11 พัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติแผนการ

ที่ไทยเศรษฐกิจต้องไม่พึ่งท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป

นักลงทุนควรหันไปทำธุรกิจเพิ่มเติมกับประเทศสมาชิกอาเซียน ลาว กัมพูชา พม่า และ เวียดนาม เปิดตลาดใหม่เช่นแอฟริกา จีน อินเดีย ตะวัน ออกกลาง และเขาแนะนำกัน

นายณรงค์ชัยกล่าวว่า ผู้ประกอบการต้องสนใจมากกว่าผลิตภัณฑ์นวัตกรรม และการออกแบบและรัฐบาลต้องช่วยกระตุ้นความต้องการ

คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญานอกจากนี้ยังให้ความสำคัญ นายณรงค์ชัยกล่าวว่า เริ่มปรับแผนกทรัพย์สินทางปัญญาถูกปรับสถานะเดียวกันเป็นคณะ (BoI), (ทีเอ็น)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เศรษฐกิจไทยคงต้องอาศัยมากขึ้นใน ภูมิภาค เอเชียและประเทศอาเซียนกล่าวว่านักเศรษฐศาสตร์

เศรษฐกิจไทยที่ควรจะเปลี่ยนไปมากขึ้นต้องอาศัยอยู่ในตลาดเอเชียและ ภายใน กลุ่มอาเซียนตามนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ
พูดในการประชุมประจำปีของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ( สภา พัฒน์)อัครเศรณีประธานกรรมการบริหารกรรมการผู้อำนวยการหน่วยงานราชการแผ่นดินทางเศรษฐกิจและทางการเมืองประเทศไทยจะต้องปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้ มาตรฐาน National แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 11 .

เศรษฐกิจไทยที่จะต้องไม่ได้ต้องอาศัยในประเทศสหรัฐอเมริกาปลายทางที่ได้อีกต่อไป.

ผู้ลงทุนควรหันไปทำธุรกิจได้มากขึ้นด้วยประเทศเอเชียและสมาชิกอาเซียนรวมถึงประเทศลาวกัมพูชาพม่าและเวียดนามและเปิดตลาดใหม่เช่นแอฟริกาใต้จีนอินเดียและตะวันออกกลางที่เขาแนะนำ.

นาย ณรงค์ชัยศรีสันติแสงกล่าวว่าผู้ประกอบการจะต้องให้ความสนใจมากขึ้นและการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ ที่เป็นนวัตกรรมล่าสุดและรัฐบาลจะต้องช่วยในการกระตุ้นอุปสงค์.

การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาจะต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกันเริ่มต้นด้วยการอัพเกรดทรัพย์สินทางปัญญากรมการอัพเกรดไปเป็นสถานะเดียวกันกับบอร์ดของการลงทุน(บีโอไอ)กล่าวว่านายณรงค์ชัยศรีสันติแสง ( tna )