ue to its large size and wide range

ue to its large size and wide range of geographic features, the United States contains examples of nearly every global climate. The climate is temperate in most areas, subtropical in the Southern United States, tropical in Hawaii and southern Florida, polar in Alaska, semiarid in the Great Plains west of the 100th meridian, Mediterranean in coastal California and arid in the Great Basin. Its comparatively favorable agricultural climate contributed (in part) to the country's rise as a world power, with infrequent severe drought in the major agricultural regions, a general lack of widespread flooding, and a mainly temperate climate that receives adequate precipitation.

The main influence on U.S. weather is the polar jet stream, which brings in large low pressure systems from the northern Pacific Ocean. The Cascade Range, Sierra Nevada, and Rocky Mountains pick up most of the moisture from these systems as they move eastward. Greatly diminished by the time they reach the High Plains, much of the moisture has been sapped by the orographic effect as it is forced over several mountain ranges.

Once it moves over the Great Plains, uninterrupted flat land allows it to reorganize and can lead to major clashes of air masses. In addition, moisture from the Gulf of Mexico is often drawn northward. When combined with a powerful jet stream, this can lead to violent thunderstorms, especially during spring and summer. Sometimes during late winter and spring these storms can combine with another low pressure system as they move up the East Coast and into the Atlantic Ocean, where they intensify rapidly.

These storms are known as Nor'easters and often bring widespread, heavy snowfall to the Mid-Atlantic and New England. The uninterrupted flat grasslands of the Great Plains also leads to some of the most extreme climate swings in the world. Temperatures can rise or drop rapidly and winds can be extreme, and the flow of heat waves or Arctic air masses often advance uninterrupted through the plains.

The Great Basin and Columbia Plateau (the Intermontane Plateaus) are arid or semiarid regions that lie in the rain shadow of the Cascades and Sierra Nevada. Precipitation averages less than 15 inches (38 cm). The Southwest is a hot desert, with temperatures exceeding 100 °F (37.8 °C) for several weeks at a time in summer. The Southwest and the Great Basin are also affected by the monsoon from the Gulf of California from July–September, which brings localized but often severe thunderstorms to the region.

Much of California consists of a Mediterranean climate, with sometimes excessive rainfall from October–April and nearly no rain the rest of the year. In the Pacific Northwest rain falls year-round, but is much heavier during winter and spring. The mountains of the west receive abundant precipitation and very heavy snowfall. The Cascades are one of the snowiest places in the world, with some places averaging over 600 inches (1,524 cm) of snow annually, but the lower elevations closer to the coast receive very little snow.

Another significant (but localized) weather effect is lake-effect snow that falls south and east of the Great Lakes, especially in the hilly portions of the Upper Peninsula of Michigan and on the Tug Hill Plateau in New York. The lake effect dumped well over 5 feet (1.52 m) of snow in the area of Buffalo, New York throughout the 2006-2007 winter. The Wasatch Front and Wasatch Range in Utah can also receive significant lake effect accumulations from the Great Salt Lake.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ue เป็นขนาดใหญ่และหลากหลายของลักษณะทางภูมิศาสตร์ สหรัฐอเมริกาประกอบด้วยตัวอย่างของเกือบทุกสภาพภูมิอากาศโลก สภาพภูมิอากาศได้ซึ่งในพื้นที่ส่วนใหญ่ สำรองในประเทศสหรัฐอเมริกา ร้อนในฮาวายและฟลอริดาใต้ ขั้วโลกในอะแลสกา semiarid ในราบใหญ่ทางตะวันตกของเมอริเดียน 1911 เมดิเตอร์เรเนียนชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย และแห้งแล้งในอ่างมาก ภูมิอากาศเกษตรของดีดีอย่างหนึ่งส่วน (บางส่วน) ของประเทศเพิ่มขึ้นเป็นพลังงานโลก ด้วยดำรัสภัยแล้งรุนแรงในภูมิภาคด้านการเกษตรสำคัญ น้ำท่วมแพร่หลาย และเป็นส่วนใหญ่อุณหภูมิที่ได้รับฝนเพียงพอขาดทั่วไปอิทธิพลหลักในอากาศของสหรัฐอเมริกามีกระแส jet โพลาร์ ซึ่งนำระบบแรงดันต่ำขนาดใหญ่จากมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ ช่วงซ้อน เซียร์ราเนวาดา และเทือกเขาร็อกกีรับความชื้นจากระบบเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพวกเขาย้าย eastward อย่างมากลดลงตามเวลาที่พวกเขามาถึงราบสูง มากความชื้นได้ถูก sapped โดยผล orographic เป็นมันถูกบังคับผ่านภูเขาหลายเมื่อเดินผ่านราบดี แบนที่ดินอย่างต่อเนื่องทำให้การจัดระเบียบ และสามารถนำไปสู่การปะทะของอากาศมวลชนหลักการ นอกจากนี้ ความชื้นจากอ่าวเม็กซิโกมักจะออกค่า เมื่อรวมกับกระแส jet มีประสิทธิภาพ นี้อาจคะนองรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน บางครั้งในช่วงปลายฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ พายุเหล่านี้สามารถรวมกับระบบความดันต่ำอีกเป็นพวกเขาย้าย ขึ้นฝั่งตะวันออก และลง สู่ มหาสมุทรแอตแลนติก ที่พวกเขาอย่างรวดเร็วกระชับพายุเหล่านี้จะเรียกว่า Nor'easters และมักนำมาแพร่หลาย หนัก snowfall แอตแลนติกตอนกลางและนิวอิงแลนด์ Grasslands แบนอย่างต่อเนื่องของราบดียังนำของกระเช้าชิงช้าสภาพภูมิอากาศมากที่สุดในโลก อุณหภูมิสามารถเพิ่มขึ้น หรือลดลงอย่างรวดเร็ว และลมสามารถมาก และการไหลของคลื่นความร้อน หรืออากาศขั้วโลกเหนือฝูงมักจะก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องผ่านราบอ่างใหญ่และที่ราบสูงโคลัมเบีย (ราบ Intermontane) มีพื้นที่แห้งแล้ง หรือ semiarid ที่อยู่ในเงาฝนน้ำตกและเซียร์ราเนวาดา ฝนหาค่าเฉลี่ยน้อยกว่า 15 นิ้ว (38 เซนติเมตร) ตะวันตกเฉียงใต้เป็นทะเลทรายร้อน มีอุณหภูมิเกิน 100 ° F (37.8 ° C) หลายสัปดาห์ในฤดูร้อน เดินและอ่างดีจะยังมีผลกระทบ โดยมรสุมจากแคลิฟอร์เนียของอ่าวจากเดือนกรกฎาคม – กันยายน ซึ่งนำคะนองมักรุนแรง แต่ภาษาท้องถิ่นภูมิภาคมากของแคลิฟอร์เนียประกอบด้วยแบบเมดิเตอร์เรเนียนอากาศ ฝนตกมากเกินไปบางครั้งเกือบไม่มีฝนส่วนเหลือของปีและเดือนตุลาคม – เมษายน แปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือฝนตกตลอดทั้งปี แต่จะหนักมากในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ ภูเขาของตะวันตกได้รับฝนชุกชุมและ snowfall หนักมาก ดี ๆ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ snowiest ในโลก กับสถานบางอย่างหาค่าเฉลี่ยกว่า 600 นิ้ว (1,524 เซนติเมตรของหิมะ)ปี แต่ตัวล่าง elevations ใกล้ชายฝั่งได้รับน้อยมากหิมะลักษณะอากาศที่สำคัญ (แต่ภาษาท้องถิ่น) อีกเป็นหิมะทะเลสาบผลที่อยู่ใต้ และตะวัน ออกเก รตเลกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนฮิลลีบนคาบสมุทรมิชิแกน และ บนราบ สูงเนินเขา Tug ในนิวยอร์ก ผลเล dumped ดีกว่า 5 ฟุต (1.52 เมตร) ของหิมะในพื้นที่ของบัฟฟาโล นิวยอร์กตลอดฤดูหนาวปี 2006-2007 Wasatch Front และช่วง Wasatch ในยูทาห์ยังสามารถรับผลทะเลสาบสำคัญ accumulations จากทะเลสาบเกลือดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

UE ขนาดใหญ่และหลากหลายของลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่สหรัฐอเมริกามีตัวอย่างของเกือบทุกสภาพภูมิอากาศโลก อากาศหนาวในพื้นที่ส่วนใหญ่ในเขตร้อนภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา, เขตร้อนในฮาวายและภาคใต้ของฟลอริด้า, ขั้วโลกในอลาสกาแห้งแล้งใน Great Plains ตะวันตกของเส้นแวงที่ 100 เมดิเตอร์เรเนียนในชายฝั่งแคลิฟอร์เนียและแห้งแล้งในอ่างใหญ่ สภาพภูมิอากาศทางการเกษตรค่อนข้างดีมันมีส่วนทำให้ (บางส่วน) การเพิ่มขึ้นของประเทศเป็นพลังงานโลกที่มีปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงไม่บ่อยนักในภาคเกษตรที่สำคัญขาดทั่วไปของน้ำท่วมและอากาศเย็นส่วนใหญ่ที่ได้รับการเร่งรัดเพียงพอ. อิทธิพลหลักใน สภาพอากาศสหรัฐเป็นเจ็ตสตรีมขั้วโลกซึ่งนำในระบบแรงดันต่ำที่มีขนาดใหญ่จากมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ น้ำตกช่วง, เซียร์ราเนวาดาและเทือกเขาร็อกกีรับมากที่สุดของความชื้นจากระบบเหล่านี้ที่พวกเขาย้ายไปทางทิศตะวันออก อย่างมากลดลงตามเวลาที่พวกเขามาถึงราบสูงมากของความชื้นที่ได้รับการดูดซับโดยผล orographic ขณะที่มันถูกบังคับมากกว่าภูเขาหลาย. เมื่อมันเคลื่อนในช่วง Great Plains ที่ดินแบนอย่างต่อเนื่องช่วยให้สามารถจัดระเบียบและสามารถนำไปสู่ การปะทะกันที่สำคัญของมวลอากาศ นอกจากนี้ความชื้นจากอ่าวเม็กซิโกมักจะถูกดึงไปทางทิศเหนือ เมื่อรวมกับกระแสไอพ่นที่มีประสิทธิภาพนี้จะนำไปสู่ความรุนแรงพายุฝนฟ้าคะนองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน บางครั้งในช่วงปลายฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิพายุเหล่านี้สามารถใช้ร่วมกับระบบแรงดันต่ำอื่นที่พวกเขาย้ายขึ้นชายฝั่งตะวันออกและลงไปในมหาสมุทรแอตแลนติกที่พวกเขากระชับขึ้นอย่างรวดเร็ว. พายุเหล่านี้เรียกว่า Nor'easters และมักจะนำมาแพร่หลายหิมะตกหนักไป กลางมหาสมุทรแอตแลนติกและนิวอิงแลนด์ ทุ่งหญ้าแบนอย่างต่อเนื่องของทุ่งใหญ่ยังนำไปสู่บางส่วนของสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนมากที่สุดในโลก อุณหภูมิอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็วและลมอาจจะรุนแรงและการไหลของคลื่นความร้อนหรือมวลอากาศอาร์กติกมักจะก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องผ่านที่ราบ. ลุ่มน้ำที่ดีและโคลัมเบียราบ (คน Intermontane Plateaus) จะดินแดนแห้งแล้งหรือกึ่งแห้งแล้งที่อยู่ในสายฝน เงาของพรูและเซียร่าเนวาดา ค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำฝนน้อยกว่า 15 นิ้ว (38 ซม.) ภาคตะวันตกเฉียงใต้เป็นทะเลทรายร้อนที่มีอุณหภูมิเกิน 100 ° F (37.8 ° C) เป็นเวลาหลายสัปดาห์ในช่วงเวลาในช่วงฤดูร้อน ภาคตะวันตกเฉียงใต้และอ่างใหญ่นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากลมมรสุมจากอ่าวแคลิฟอร์เนียตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนที่นำพายุฝนฟ้าคะนองการแปล แต่อย่างรุนแรงมักจะไปยังภูมิภาค. มากของแคลิฟอร์เนียประกอบด้วยภูมิอากาศเมดิเตอร์เรเนียนที่มีปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไปบางครั้งตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเมษายน และเกือบจะไม่มีฝนตกส่วนที่เหลือของปีนี้ ในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือมีฝนตกตลอดทั้งปี แต่ที่หนักกว่ามากในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ ภูเขาของตะวันตกได้รับการเร่งรัดมากมายและหิมะตกหนักมาก พรูเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ snowiest ในโลกที่มีบางสถานที่เฉลี่ยกว่า 600 นิ้ว (1,524 เซนติเมตร) หิมะเป็นประจำทุกปี แต่ระดับต่ำใกล้ชิดกับชายฝั่งได้รับหิมะน้อยมาก. อีกอย่างมีนัยสำคัญ (แต่ภาษาท้องถิ่น) ผลกระทบอากาศทะเลสาบ หิมะ -effect ที่ตกทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Great Lakes โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนินเขาส่วนบนคาบสมุทรมิชิแกนและบนที่ราบสูงลากจูงฮิลล์ในนิวยอร์ก ผลทะเลสาบทิ้งดีกว่า 5 ฟุต (1.52 เมตร) ของหิมะในพื้นที่ของบัฟฟาโล, นิวยอร์กตลอดฤดูหนาว 2006-2007 ด้านหน้าและช่วงแช้แช้ในยูทาห์ยังสามารถได้รับการสะสมผลอย่างมีนัยสำคัญจากทะเลสาบซอลท์เลค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

UE ขนาดใหญ่และความหลากหลายของลักษณะทางภูมิศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกามีตัวอย่างของโลกเกือบทุกสภาพภูมิอากาศ อากาศหนาวในพื้นที่ส่วนใหญ่ subtropical ในสหรัฐอเมริกา , เขตร้อนในฮาวายและภาคใต้ของฟลอริด้า , ขั้วโลกในอลาสก้า semiarid ในทุ่งใหญ่ตะวันตกของเส้นแวง 100 , เมดิเตอร์เรเนียนในแคลิฟอร์เนียชายฝั่งและแห้งแล้งในอ่างใหญ่ภูมิอากาศของมงคล ส่วนเกษตรโดย ( บางส่วน ) การเพิ่มขึ้นของประเทศเป็นอำนาจของโลก กับภัยแล้งรุนแรงไม่บ่อยนักในสาขาการเกษตรภูมิภาค การขาดทั่วไปของภาวะน้ำท่วม และอากาศเย็นสบาย ส่วนใหญ่ที่ได้รับปริมาณน้ำฝนเพียงพอ

อิทธิพลหลักต่อสภาพอากาศสหรัฐอเมริกาเป็นลมกรดขั้วโลกซึ่งนำในระบบแรงดันต่ำขนาดใหญ่จากมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ น้ำตกช่วง Sierra Nevada ภูเขาร็อคกี้และรับมากที่สุดของความชื้นจากระบบเหล่านี้เช่นที่พวกเขาย้ายไปทางทิศตะวันออก ลดลงอย่างมาก โดยเวลาที่พวกเขามาถึงที่ราบสูงมากของความชื้นได้ sapped โดยผลโรกราฟฟิคมันบังคับมากกว่าหลายช่วงภูเขา

เมื่อมันเคลื่อนผ่านที่ราบ ที่ดินแบนอย่างต่อเนื่องช่วยให้การจัดระเบียบและทำให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศที่สำคัญ . นอกจากนี้ ความชื้นจากอ่าวไทยมักวาดไปทางทิศเหนือ เมื่อรวมกับกระแสพลังเจ็ท นี้สามารถทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนบางครั้งในช่วงปลายฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิพายุเหล่านี้สามารถรวมกับระบบแรงดันต่ำอื่นเช่นที่พวกเขาย้ายขึ้นชายฝั่งตะวันออกและในมหาสมุทรแอตแลนติกที่พวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว .

พายุเหล่านี้เป็นที่รู้จักกันเป็น nor'easters และมักจะนำฉาวหนัก หิมะตกในกลางมหาสมุทรแอตแลนติก และนิวอิงแลนด์ที่ราบทุ่งหญ้าอย่างต่อเนื่องของที่ราบยังนำไปสู่บางส่วนของชิงช้าภูมิอากาศมากที่สุดในโลก อุณหภูมิเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว และลมสามารถมากและการไหลของคลื่นความร้อนหรือมวลอากาศหนาวมักจะก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องผ่านที่ราบ .

ลุ่มน้ำโคลัมเบีย ( intermontane ที่ราบสูงและที่ราบแห้งแล้ง หรือ semiarid ) เป็นภูมิภาคที่อยู่ในเงาฝนของน้ำตก และ Sierra Nevada ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยน้อยกว่า 15 นิ้ว ( 38 ซม. ) ทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นทะเลทรายร้อนด้วยอุณหภูมิเกิน 100 องศา F ( 37.8 ° C ) เป็นเวลาหลายสัปดาห์ในเวลาในฤดูร้อนตะวันตกเฉียงใต้ และลุ่มน้ำยังได้รับผลกระทบจากมรสุมจากอ่าวไทย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - กันยายน ซึ่งนำถิ่นแต่มักจะรุนแรงพายุฝนฟ้าคะนองในภูมิภาค .

ของแคลิฟอร์เนียประกอบด้วยภูมิอากาศเมดิเตอร์เรเนียน กับบางครั้งฝนตกมากเกินไปจากตุลาคม–เมษายนและเกือบจะไม่มีฝน ส่วนที่เหลือของปี ในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือฝนตกตลอดทั้งปีแต่จะหนักในช่วงฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ ภูเขาทางทิศตะวันตกได้รับปริมาณน้ำฝนชุกชุม และหิมะตกที่หนักมาก น้ำตกเป็นหนึ่งในสถานที่ snowiest ในโลก กับบางสถานที่เฉลี่ยกว่า 600 นิ้ว ( 1 , 524 เซนติเมตร ) ของหิมะเป็นรายปี แต่ระดับล่างใกล้ชายฝั่งรับ

หิมะน้อยมากอย่างอื่น ( แต่ถิ่น ) ผลอากาศทำให้เกิดทะเลสาบหิมะที่ตกทางใต้และตะวันออกของทะเลสาบที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นภูเขาของคาบสมุทรบนของมิชิแกนและบนเนินเขาที่ราบสูงลากจูงในนิวยอร์ก ทะเลสาบผลทิ้งดีกว่า 5 ฟุต ( 1.52 m ) ของหิมะในพื้นที่ของบัฟฟาโล นิวยอร์กตลอดเดือนฤดูหนาวการ wasatch ด้านหน้าและ wasatch ช่วงในยูทาห์ยังสามารถได้รับผลจากการสะสมทะเลสาบทะเลสาบเกลือที่ดี