Efficacy beliefs are a major basis

Efficacy beliefs are a major basis of human action because without the
belief that they can produce desired effects through actions, people have little
incentive to act (Bandura, 1997). According to Bandura (1997),
People guide their lives by their beliefs of personal efficacy…The
events over which personal influence is exercised vary widely,
however. Influence may entail regulating one’s own motivation,
thought processes, affective states, and actions, or it may involve
changing environmental conditions, depending on what one seeks
to manage (p. 3).
This, coupled with the subjectivity of people’s interpretations of the outcomes
produced by their actions, suggests that understanding the efficacy beliefs of
first- and second-year engineering students as a whole requires the inclusion of
large numbers of students in the study. Such a requirement often leads a study
toward the use of quantitative methods, with which information can be collected
from a large number of people relatively inexpensively.
Efficacy theorists, however, have advocated the use of discoveryoriented,
qualitative methods to best understand the sources and cognitive
processing of efficacy beliefs (Pajares, 1997; Schunk, 1991). Qualitative
researchers have frequently explained the significant advantage of qualitative
methods in understanding individual perspectives; “qualitative research
assumes that there are multiple realities – that the world is not an objective
thing out there but a function of personal interaction and perception. It is a
highly subjective phenomenon in need of interpreting rather than measuring.”
(Merriam, 1988, p. 17). Unlike survey research, which looks to examine large
populations of students to establish representativeness and generalizability, “in
this type of research the crucial factor is not the number of respondents but the
potential of each person to contribute to the development of insight and
understanding of the phenomenon” (Merriam, 1998, p. 83).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประสิทธิภาพความเชื่อเป็นพื้นฐานสำคัญของมนุษย์เพราะไม่มี
ผลผ่านการดำเนินการที่ต้องการความเชื่อว่าพวกเขาสามารถผลิต คนมีน้อย
จูงใจให้กระทำการ (Bandura, 1997) ตาม Bandura (1997),
คนคู่มือชีวิต โดยความเชื่อของพวกเขาของประสิทธิภาพส่วนบุคคล...ใน
เหตุการณ์ที่ใช้อิทธิพลส่วนบุคคลแตกต่างกัน,
อย่างไรก็ตาม อิทธิพลอาจอันหนึ่งของแรงจูงใจ การควบคุม
คิดว่า กระบวนการ อเมริกาผล และการดำเนินการ หรืออาจเกี่ยวข้องกับ
การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ขึ้นอยู่กับสิ่งที่หนึ่งพยายาม
จัดการ (p. 3) ได้
นี้ควบคู่กับ subjectivity ของประชาชนตีความผลลัพธ์
ผลิต โดยการกระทำของพวกเขา แนะนำที่เข้าใจความเชื่อในประสิทธิภาพของ
แรก และสองปีวิศวกรรมนักเรียนเป็นทั้งหมดต้องรวมของ
จำนวนมากของนักเรียนในการศึกษา เช่นความต้องการมักจะนำไปสู่การศึกษา
ไปใช้วิธีการเชิงปริมาณ ซึ่งสามารถเก็บข้อมูล
จากคนจำนวนมากค่อนข้างราคาไม่แพง.
ประสิทธิภาพ theorists อย่างไรก็ตาม มี advocated ใช้ discoveryoriented,
วิธีการเชิงคุณภาพเพื่อส่วนเข้าใจแหล่งมา และรับรู้
ประมวลผลของประสิทธิภาพความเชื่อ (Pajares, 1997 Schunk, 1991) เชิงคุณภาพ
นักวิจัยได้อธิบายข้อดีสำคัญของคุณภาพบ่อย
วิธีในแต่ละมุมมอง "การวิจัยเชิงคุณภาพ
สันนิษฐานว่า มีจริงหลาย – ว่า โลกไม่วัตถุประสงค์
สิ่งที่ออกมีแต่ฟังก์ชันของส่วนบุคคลโต้ตอบและรับรู้ เป็นการ
ปรากฏการณ์ตามอัตวิสัยสูงต้องการการตีความ มากกว่าที่วัด "
(Merriam, 1988, p. 17) ไม่เหมือนการวิจัยเชิงสำรวจ ซึ่งมีลักษณะการตรวจสอบใหญ่
ประชากรของนักเรียนเพื่อสร้าง representativeness และ generalizability, "ใน
วิจัยปัจจัยสำคัญชนิดนี้ไม่ใช่จำนวนของผู้ตอบแต่
ศักยภาพของแต่ละบุคคลจะนำไปสู่การพัฒนาความเข้าใจ และ
เข้าใจปรากฏการณ์ " (Merriam, 1998, p. 83)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประสิทธิภาพ ความเชื่อพื้นฐานหลักของการกระทำของมนุษย์ เพราะมีความเชื่อว่าพวกเขาสามารถผลิต
ผลกระทบที่ต้องการผ่านการกระทำ คนมีแรงจูงใจ
พระราชบัญญัติ ( Bandura , 1997 ) ตาม Bandura ( 1997 ) ,
คนคู่มือชีวิตโดยความเชื่อของตนเอง . . . . . . . ส่วนตัว
เหตุการณ์ซึ่งบุคคลใช้อิทธิพลแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตามอิทธิพลที่อาจก่อให้เกิดการควบคุมตนเองแรงจูงใจ
กระบวนการคิด การกระทำทางรัฐ และหรืออาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาวะสิ่งแวดล้อม
ขึ้นอยู่กับสิ่งหนึ่งพยายามที่จะจัดการ ( หน้า 3 )
.
นี้คู่กับอัตวิสัยของผู้ตีความผล
ผลิต โดยการกระทำของพวกเขาชี้ให้เห็นว่า ความเข้าใจ ในความเชื่อของ
แรก และนักศึกษาวิศวกรรมทั้งหมดต้องรวม
จำนวนมากของนักเรียนในการศึกษา เช่นความต้องการมักจะนำไปสู่การศึกษา
ต่อการใช้วิธีการเชิงปริมาณ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สามารถเก็บรวบรวมจากคนมากมาย

ค่อนข้างไม่แพง ประสิทธิภาพนัก อย่างไรก็ตาม ได้สนับสนุนการใช้ discoveryoriented
,วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพที่ดีที่สุดเข้าใจแหล่งที่มาและกระบวนการคิด
มีประสิทธิภาพความเชื่อ ( pajares , 1997 ; SCHUNK , 1991 ) นักวิจัยเชิงคุณภาพ
มีบ่อยอธิบายประโยชน์ที่สำคัญของวิธีการเชิงคุณภาพในความเข้าใจ มุมมองแต่ละคน

; " วิจัยสันนิษฐานว่ามีความเป็นจริงหลายทีว่าโลกไม่ได้เป็นวัตถุประสงค์
ที่ออกมี แต่ฟังก์ชันของการปฏิสัมพันธ์ และการรับรู้ มันเป็นปรากฏการณ์
ส่วนตัวสูง ต้องการการตีความมากกว่าการวัด "
( แมร์เรียม , 1988 , 17 หน้า ) ซึ่งแตกต่างจากการวิจัยเชิงสำรวจ ซึ่งมีลักษณะเพื่อศึกษาประชากรขนาดใหญ่ของนักศึกษาและเพื่อสร้าง representativeness
1
" ในการวิจัยปัจจัยสําคัญชนิดนี้ไม่ใช่จำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามแต่
ศักยภาพของแต่ละคน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาของความเข้าใจและความเข้าใจของปรากฏการณ์ "
( แมร์เรียม , 2541 , หน้า 83 )