her Bridging the generation gap req

her Bridging the generation gap requires acknowledging that everyone is different. Everyone's unique experiences, eir backgrounds, culture, etc. are likely to influence their attitudes toward work. These differences may have positive or negative consequences for a company. Generational differences are likely to be a source of frustration for leaders if they see those differences as potential problem nd areas (Lancaster and Stillman, 2002). Hospitality leaders en need to understand that everyone has something good to offer and they may bring something better to the table if they are given a chance. That is why if the leaders learn to appreciate those differences by focusing on positive attributes and take time to consider the strengths each co-worker brings to the workplace, they are likely to e manage those differences effectively and create a positive work environment. This positive dialogue bonds the e participants in movement forward, celebrating their past e successes and unifying their vision of the future while rebuilding their daily activities to be more closely aligned h with their mutually discovered possibilities (Mann, 2006) A useful leadership tool capable of stimulating positive r dialogue and bridging generational groupings might be Appreciative Inquiry. Appreciative Inquiry offers a new way of dealing with organizational development by nurturing positive employee-centered dialogue over defi cit-based thinking and problem-solving processes. It benefits an organization by bridging diversity and facil- itating the alignment of organizational goals (vision) and the human needs (social actors) within the system. This inquiry and dialogue process can promote the unification

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เธอสร้างช่องว่างระหว่างกาลต้องยอมรับว่า ทุกคนจะแตกต่างกัน ประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันของทุกคน พื้นหลัง eir วัฒนธรรม ฯลฯ มักจะมีอิทธิพลต่อเจตคติงานของพวกเขา ความแตกต่างเหล่านี้อาจมีผลกระทบบวก หรือลบกับบริษัท ความแตกต่างของคำมักจะ มาไม่พอสำหรับผู้นำจะเห็นความแตกต่างเป็นปัญหาเป็น nd พื้นที่ (แลงคาสเตอร์และ Stillman, 2002) พร้อมต้อนรับผู้นำต้องเข้าใจว่า ทุกคนมีสิ่งที่ดีให้ และพวกเขาอาจนำสิ่งที่ดีกับตารางถ้าพวกเขาจะได้รับโอกาส นั่นคือ ทำไมถ้าผู้นำเรียนรู้ความแตกต่าง โดยเน้นคุณลักษณะบวก และใช้เวลาในการพิจารณาจุดแข็งนำผู้ร่วมงานแต่ละสถานทำงาน พวกเขามักจะอีจัดการความแตกต่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างระบบการทำงานเป็นบวก บทสนทนานี้บวกขายหุ้นกู้ร่วมอีเคลื่อนไหวไปข้างหน้า ฉลองความสำเร็จของอีอดีต และสามัคคีวิสัยทัศน์แห่งอนาคตในขณะฟื้นฟูกิจกรรมประจำวันมากขึ้นจะจัด h กับของพวกเขาไปพบกัน (มานน์ 2006) เครื่องมือเป็นผู้นำที่เป็นประโยชน์สามารถกระตุ้น r บวกเจรจา และการจัดกลุ่มคำอาจสอบถาม Appreciative สอบถาม appreciative เสนอทางใหม่ของการจัดการกับการพัฒนาองค์กร โดย nurturing โต้แปลกพนักงานบวกกว่าคิดตามเมือง defi และกระบวนการแก้ปัญหา มันประโยชน์องค์กร โดยเชื่อมโยงความหลากหลายและ facil-itating จัดตำแหน่งของเป้าหมายขององค์กร (วิสัยทัศน์) และบุคคลต้องการ (สังคมนักแสดง) ภายในระบบ สอบถามและการสนทนานี้สามารถส่งเสริมการรวมกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เธอแก้ช่องว่างรุ่นต้องยอมรับว่าทุกคนมีความแตกต่างกัน ทุกคนเป็นประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำ, พื้นหลัง Eir วัฒนธรรม ฯลฯ มีแนวโน้มที่จะมีอิทธิพลต่อทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อการทำงาน ความแตกต่างเหล่านี้อาจมีผลกระทบในเชิงบวกหรือเชิงลบให้กับ บริษัท ความแตกต่าง generational มีแนวโน้มที่จะเป็นแหล่งที่มาของแห้วสำหรับผู้นำหากพวกเขาเห็นความแตกต่างเหล่านั้นเป็นพื้นที่ครั้งปัญหาที่อาจเกิด (แลงคาสเตอร์และ Stillman, 2002) ผู้นำการต้อนรับและจำเป็นที่จะต้องเข้าใจว่าทุกคนมีสิ่งที่ดีที่จะนำเสนอและพวกเขาอาจนำมาซึ่งสิ่งที่ดีกว่าให้กับตารางหากพวกเขาจะได้รับโอกาส นั่นคือเหตุผลที่ถ้าผู้นำเรียนรู้ที่จะชื่นชมความแตกต่างเหล่านั้นโดยมุ่งเน้นไปที่คุณลักษณะที่ดีและใช้เวลาในการพิจารณาจุดแข็งของแต่ละคนร่วมงานนำมาสู่สถานที่ทำงานที่พวกเขามีแนวโน้มที่จะอีจัดการความแตกต่างเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานในเชิงบวก นี้การเจรจาบวกพันธบัตรอีเข้าร่วมในการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าการเฉลิมฉลองความสำเร็จที่ผ่านมาของพวกเขาอีและรวมวิสัยทัศน์ของพวกเขาในอนาคตในขณะที่การสร้างกิจกรรมประจำวันของพวกเขาที่จะได้ใกล้ชิดกับความเป็นไปชั่วโมงค้นพบร่วมกันของพวกเขา (แมนน์ 2006) เครื่องมือที่มีประโยชน์เป็นผู้นำที่มีความสามารถของ กระตุ้นให้เกิดการเจรจา R บวกและการเชื่อมโยงกลุ่ม generational อาจจะ Appreciative Inquiry Appreciative Inquiry นำเสนอวิธีใหม่ในการจัดการกับการพัฒนาองค์กรโดยการเจรจาบำรุงพนักงานเป็นศูนย์กลางในเชิงบวกมากกว่า Defi คิด CIT-based และการแก้ปัญหากระบวนการ มันเป็นประโยชน์ต่อองค์กรโดยการเชื่อมโยงความหลากหลายและ facil- itating การจัดตำแหน่งของเป้าหมายขององค์กร (วิสัยทัศน์) และความต้องการของมนุษย์ (นักแสดงทางสังคม) ภายในระบบ นี้สอบถามรายละเอียดและขั้นตอนการเจรจาสามารถส่งเสริมการรวมกลุ่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เธอลดช่องว่างระหว่างวัย ต้องยอมรับว่าทุกคนจะแตกต่างกัน ทุกคนเฉพาะประสบการณ์ ภูมิหลัง วัฒนธรรม รายงายผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ฯลฯ มีแนวโน้มที่จะมีอิทธิพลต่อทัศนคติในการทํางาน ความแตกต่างเหล่านี้อาจมีผลบวกหรือลบต่อบริษัทความแตกต่าง generational มีแนวโน้มที่จะเป็นแหล่งของแห้วสำหรับผู้นำหากพวกเขาเห็นความแตกต่างนั้น เป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและพื้นที่ ( แลงคาสเตอร์และ Stillman , 2002 ) ต้อนรับผู้นำ และต้องเข้าใจว่า ทุกคนมีสิ่งที่ดีที่จะเสนอ และพวกเขาอาจนำสิ่งที่ดีกว่าให้กับตารางถ้าพวกเขาได้รับโอกาสนั่นคือเหตุผลที่ถ้าผู้นำเรียนรู้ที่จะชื่นชมความแตกต่างเหล่านั้น โดยเน้นคุณลักษณะที่ดี และใช้เวลาในการพิจารณาจุดแข็งแต่ละเพื่อนร่วมงาน ทำให้สถานที่ทำงาน พวกเขามีแนวโน้มที่จะ E จัดการความแตกต่างเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นบวก บทสนทนานี้บวกพันธบัตร E เข้าร่วมในการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าฉลองความสำเร็จและการรวมกันของอดีตและวิสัยทัศน์ของพวกเขาในอนาคตในขณะที่การสร้างกิจกรรมประจำวันของพวกเขาจะชิดมากขึ้นอย่างใกล้ชิดกับพวกเขาร่วมกันค้นพบความเป็นไปได้ h ( Mann , 2006 ) เป็นเครื่องมือที่มีความสามารถในการเป็นผู้นำการเจรจา R บวกและการเชื่อมโยงกลุ่ม generational อาจจะสอบถาม ชื่นชมสอบถาม ชื่นชม เสนอวิธีใหม่ในการจัดการกับการพัฒนาองค์กร โดยบ่มเพาะพนักงานบวกเป็นศูนย์กลางบทสนทนามากกว่าเดฟี CIT ตามกระบวนการคิดและการแก้ปัญหา มันมีประโยชน์กับองค์กรโดยการเชื่อมโยงความหลากหลายและใช้ง่าย - itating ตำแหน่งของเป้าหมายขององค์การ ( Vision ) และความต้องการของมนุษย์ ( นักแสดงทางสังคม ) ภายในระบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และการสนทนานี้จะส่งเสริมการรวมตัวกัน