Ko Tapu is a limestone rock about 2

Ko Tapu is a limestone rock about 20 metres (66 ft) tall with the diameter increasing from about 4 metres (13 ft) near the water level to about 8 metres (26 ft) at the top. It lies about 40 metres (130 ft) to the west from the northern part of Khao Phing Kan.
A local legend explains the formation of Ko Tapu as follows. Once upon a time, there lived a fisherman who used to bring home many fish every time he went to the sea. However, one day he could not catch any fish despite many attempts and only picked up a nail with his net. He kept throwing the nail back into the sea and catching it again. Furious, he took his sword and cut the nail in half with all his strength. Upon impact, one half of the nail jumped up and speared into the sea, forming Ko Tapu.
A scientific version of the Ko Tapu formation says that in the Permian period, the area was a barrier reef. Then, upon tectonic movements, it ruptured, and its parts were dispersed over the area and flooded by the rising ocean. Wind, waves, water currents, and tides gradually eroded the islands thus formed, sometimes producing peculiar shapes, such as Ko Tapu. Tide-related erosion is visible at the bottom of the rock.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกาะตะปูเป็นเขาหินปูนเป็นหินประมาณ 20 เมตร (66 ฟุต) สูง มีเส้นผ่าศูนย์กลางเพิ่มขึ้นจากประมาณ 4 เมตร (13 ฟุต) ใกล้ระดับน้ำไปประมาณ 8 เมตร (26 ฟุต) ด้านบน ทำงานอยู่เกี่ยวกับ 40 เมตร (130 ฟุต) ทางตะวันตกจากภาคเหนือของ Kan. พิงเขา ตำนานท้องถิ่นอธิบายการก่อตัวของเกาะตะปูเป็นดังนี้ กาลครั้งหนึ่ง อาศัยชาวประมงที่ใช้ในการนำปลาหลายบ้านทุกครั้งที่เขาไปทะเล อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งเขาสามารถจับปลาใด ๆ แม้ มีความพยายามมาก และเฉพาะ รับตะปูกับ net ของเขา เขาเก็บโยนเล็บกลับลงทะเล และจับอีก โกรธ เขาเอาดาบ และตัดเล็บครึ่งกับความแข็งแรงของเขาทั้งหมด เมื่อผลกระทบ ครึ่งหนึ่งของเล็บไปค่า และ speared ลงทะเล ขึ้นรูปเกาะตะปู ก่อเกาะตะปูรุ่นวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ในระยะเวลา Permian พื้นที่ถูกรีดเป็น เมื่อมีการเคลื่อนย้าย มันพุ่งกระฉูด แล้วส่วนกระจายทั่วพื้นที่ และน้ำท่วมริมทะเลเพิ่มขึ้น ลม คลื่น กระแสน้ำ กระแสน้ำ และค่อย ๆ กัดเซาะหมู่เกาะจึง เกิดขึ้น บางครั้งผลิตรูปร่างแปลกประหลาด เช่นเกาะตะปู ที่เกี่ยวข้องกับน้ำกัดเซาะจะปรากฏที่ด้านล่างของร็อค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกาะตะปูเป็นหินหินปูนประมาณ 20 เมตร (66 ฟุต) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพิ่มขึ้นจากประมาณ 4 เมตร (13 ฟุต) ใกล้ระดับน้ำประมาณ 8 เมตร (26 ฟุต) ที่ด้านบน มันอยู่ประมาณ 40 เมตร (130 ฟุต) ไปทางทิศตะวันตกจากทางตอนเหนือของเกาะตะปู.
ตำนานท้องถิ่นอธิบายการก่อตัวของเกาะตะปูดังต่อไปนี้ กาลครั้งหนึ่งมีชาวประมงที่อาศัยอยู่ที่ใช้เพื่อนำปลาจำนวนมากที่บ้านเวลาเขาไปทะเลทุก แต่วันหนึ่งเขาไม่สามารถจับปลาใด ๆ แม้จะมีความพยายามมากและมีเพียงหยิบขึ้นกับเล็บสุทธิของ เขายังคงขว้างปาเล็บกลับเข้ามาในทะเลและจับมันอีกครั้ง โกรธเขาเอาดาบของเขาและตัดเล็บในช่วงครึ่งปีที่มีความแข็งแรงของเขาทั้งหมด เมื่อผลกระทบเพียงครึ่งหนึ่งของเล็บกระโดดขึ้นและแทงลงไปในทะเลสร้างเกาะตะปู.
รุ่นทางวิทยาศาสตร์ของการก่อตัวเกาะตะปูกล่าวว่าในช่วงเวลา Permian บริเวณที่เป็นแนวปะการัง จากนั้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกมันแตกและชิ้นส่วนของมันถูกกระจายไปทั่วบริเวณและน้ำท่วมที่ริมทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ลมคลื่นกระแสน้ำและกระแสน้ำกัดเซาะค่อยๆเกาะที่เกิดขึ้นทำให้บางครั้งการผลิตรูปทรงที่แปลกประหลาดเช่นเกาะตะปู การกัดเซาะของน้ำขึ้นน้ำลงที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นที่ด้านล่างของหิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกาะตะปู เป็นเขาหินปูนหินประมาณ 20 เมตร ( 66 ฟุต ) สูง มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพิ่มขึ้นจากประมาณ 4 เมตร ( 13 ฟุต ) ใกล้ระดับน้ำประมาณ 8 เมตร ( 16 ฟุต ) ที่ด้านบน มันอยู่ประมาณ 40 เมตร ( 130 ฟุต ) ไปทางทิศตะวันตกจากตอนเหนือของเกาะตะปู .
ตำนานท้องถิ่น อธิบายถึงการก่อตัวของเกาะตะปู ดังนี้ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วเป็นที่อยู่ของชาวประมง ที่เคยพาปลาที่บ้านมาก ทุกครั้งที่เขาไปทะเล อย่างไรก็ตาม วันหนึ่ง เขาไม่จับปลาใด ๆแม้จะมีความพยายามมากมาย และเอามาแค่เล็บด้วยตาข่ายของเขา เขาเอาแต่โยนตะปูกลับลงทะเลและจับมันอีก โกรธมาก เขาเอาดาบของเขาและตัดเล็บในครึ่งด้วยแรงทั้งหมดของเขา เมื่อผลกระทบครึ่งหนึ่งของเล็บ speared กระโดดขึ้นและลงทะเลรูปเกาะตะปู .
รุ่นทางวิทยาศาสตร์ของเกาะตะปูเกิดบอกว่าในยุคเพอร์เมียน พื้นที่ คือ แบริเออร์ รีฟ จากนั้น เมื่อการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกมันฉีกขาดและชิ้นส่วนของมันถูกกระจายไปทั่วพื้นที่ และน้ำท่วม โดยเพิ่มขึ้นในมหาสมุทร ลม คลื่น กระแสน้ำน้ำและกระแสน้ำค่อยๆกัดเซาะเกาะเกิดปานบางครั้งการผลิตรูปทรงแปลกๆ เช่นเกาะตะปู . น้ำที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็น ที่ด้านล่างหิน