In 1999 Stigler and Hiebert made a

In 1999 Stigler and Hiebert made a phenomenal international impact on educators, especially in the US with the publication of their book, The Teaching Gap. Their findings clue to understanding the substantial gap between the US and the Japanese mathematics achievement scores in the Third International Mathematics and Sciences Study (TUMSS). Hey claimed that despite the introduction of group work and the apparent belief among American teachers that they had adopted a social constructivist pedagogical (Hiebert and Stigler, 2000).In addition, they found few changes in teacher’ goals toward deeper mathematical understanding (Hiebert and Stigler, 2000) Educators and policy and useful to the perhaps LS might be the key to explaining this disparity and useful to the design of curriculum reform in schools (Council for Basic Education,2000; Fernandez and Yoshida, 2002). This was during a period when national education in the US was in crisis with many pressing issues needing to addressed. LS began to make inroads into teacher education programmes and serious attention was paid to testing it on an academic level.

Under these circumstances and in combination with the call for professional development that is more school-based and grounded in daily realities, scholars introduced lesson study as a Japan professional development method, denouncing conventional one-time activities professional development approach (Lewis and Tsuchida, 1998;Stigler and Hiebert,1999).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี 1999 Stigler และ Hiebert ทำผลกระทบต่อประเทศปรากฎการณ์ในนักการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาที่มีการเผยแพร่หนังสือของพวกเขา เดอะแกสอน ปมประเด็นความเข้าใจพบช่องว่างระหว่างสหรัฐฯ และคะแนนผลสัมฤทธิ์คณิตศาสตร์ญี่ปุ่นสามนานาชาติคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ศึกษา (TUMSS) ผม ว่า แม้ มีการแนะนำของกลุ่มงานและความเชื่อชัดเจนในหมู่ครูอเมริกันที่ได้รับมาเป็นสังคมแบบสร้างสรรค์นิยมสอน (Hiebert และ Stigler, 2000) นอกจากนี้ พวกเขาพบการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ในครู ' เป้าหมายสู่ความเข้าใจเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ (Hiebert และ Stigler, 2000) นักการศึกษาและนโยบาย และเป็นประโยชน์อาจเป็น LS อาจคีย์อธิบายความเหลื่อมล้ำนี้ และประโยชน์ในการปฏิรูปหลักสูตรในโรงเรียน (สภาการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2000 การออกแบบ เฟอร์นานเดซและโยชิดะ 2002) นี้เป็นช่วงระยะเวลาเมื่อการศึกษาแห่งชาติในสหรัฐอเมริกาเป็นวิกฤตกับปัญหากดจำนวนมากที่ต้องได้รับการแก้ไข LS เริ่มอย่างครูโปรแกรมการศึกษา และถูกใส่ร้ายแรงการทดสอบในระดับวิชาการ ภาย ใต้สถานการณ์เหล่านี้ และร่วมกับการโทรสำหรับการพัฒนาอาชีพที่มีมากขึ้น ตามโรงเรียน และดินในความเป็นจริงประจำวัน นักวิชาการแนะนำศึกษาบทเรียนเป็นวิธีการพัฒนาอาชีพของญี่ปุ่น กิจกรรมขาจรทั่วไปแนวทางการพัฒนาอาชีพ (Lewis และ Tsuchida, 1998; denouncing Stigler และ Hiebert, 1999)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1999 และ Stigler Hiebert ทำผลกระทบระหว่างประเทศปรากฎการณ์ในการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาที่มีการตีพิมพ์หนังสือของพวกเขาสอนช่องว่าง การค้นพบของพวกเขาเบาะแสเพื่อความเข้าใจช่องว่างที่สำคัญระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์นานาชาติศึกษาที่สาม (TUMSS) เฮ้อ้างว่าแม้จะมีการเปิดตัวของการทำงานเป็นกลุ่มและความเชื่อที่เห็นได้ชัดระหว่างครูอเมริกันว่าพวกเขาได้นำคอนสตรัคติสอนสังคม (Hiebert และ Stigler, 2000) นอกจากนี้การที่พวกเขาพบการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในครูเป้าหมายที่มีต่อความเข้าใจทางคณิตศาสตร์ลึก (Hiebert และ Stigler, 2000) การศึกษาและนโยบายและเป็นประโยชน์กับ LS บางทีอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการอธิบายความแตกต่างนี้และมีประโยชน์ในการออกแบบของการปฏิรูปการเรียนการสอนในโรงเรียน (สภาการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2000; นันและโยชิดะ, 2002) นี่คือช่วงเวลาการศึกษาแห่งชาติในสหรัฐอยู่ในภาวะวิกฤตที่มีปัญหาเร่งด่วนจำนวนมากจำเป็นต้องแก้ไข LS เริ่มที่จะทำให้การรุกล้ำเข้าไปในโปรแกรมการศึกษาของครูและความสนใจอย่างจริงจังได้จ่ายให้แก่การทดสอบในระดับวิชาการ.

ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้และร่วมกับการเรียกร้องให้การพัฒนาอาชีพที่มีมากขึ้นในโรงเรียนและเหตุผลในความเป็นจริงในชีวิตประจำวันนักวิชาการแนะนำการศึกษาบทเรียน เป็นวิธีการพัฒนาประเทศญี่ปุ่นมืออาชีพประนามธรรมดากิจกรรมเพียงครั้งเดียวแนวทางการพัฒนาวิชาชีพ (ลูอิสและ Tsuchida 1998; Stigler และ Hiebert, 1999)