In the CER model, the diagnosis of

In the CER model, the diagnosis of student learning problems mainly depends on the prerequisite relationships between the concepts to be learned. Consider two concepts to be learned, say Ci and Cj. If Ci is a prerequisite to efficiently performing the more complex and higher level concept Cj, then a concept-effect relationship Ci->Cj is said to exist. For example, to learn the concept “subtraction of positive integer,”one may first need to learn “addition of positive integer”, while learning “division of positive integer” may require first learning “subtraction of positive integer” and “multiplication of positive integer”. Fig. 1 presents an illustrative example of the concept-effect relationships, which are important in diagnosing student learning problems. For example, if a student fails to answer most of the test items concerning “division
of positive integer” due to a lack of understanding of the questions posed or because of carelessness, the problem is likely because the student has not thoroughly learned “division of positive integer” or its prerequisite concepts (such as “subtraction of positive integer” or “multiplication of positive integer”). Therefore, teachers could identify the learning problems of students by tracing the concept-effect relationships (Cheng et al., 2005; Hwang, 2003a; Hwang, Tseng, et al., 2008).
In the CER model, all of the possible learning paths will be taken into consideration to find the poorly-learned paths. In the illustrative example given in Fig. 1, there are two learning paths for the subject unit:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในรุ่น CER การวินิจฉัยของนักศึกษาที่เรียนปัญหาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดเบื้องต้นความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดที่จะเรียนรู้ พิจารณาแนวคิดที่สองเพื่อเป็นการเรียนรู้ ว่า Ci และ Cj ถ้า Ci เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นการทำซับซ้อนมากขึ้น และสูงขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ระดับแนวคิด Cj แล้วความสัมพันธ์แนวคิดผล Ci -> Cj จะกล่าวว่า มีอยู่ ตัวอย่าง เรียนรู้แนวคิด "ลบของจำนวนเต็มบวก" แรกหนึ่งอาจต้องเรียนรู้ "แห่งจำนวนเต็มบวก" ในขณะที่การเรียนรู้ "การหารของจำนวนเต็มบวก" อาจต้องแรกเรียนรู้ "การลบของจำนวนเต็มบวก" และ "การคูณของจำนวนเต็มบวก" Fig. 1 นำเสนอตัวอย่างที่แสดงความสัมพันธ์ผลแนวคิด ซึ่งมีความสำคัญในการวินิจฉัยปัญหาการเรียนของนักเรียน ตัวอย่างเช่น ถ้าคำตอบส่วนใหญ่ของรายการทดสอบที่เกี่ยวข้องกับ "กองนักเรียนของจำนวนเต็มบวก"ไม่เข้าใจถามอึ้ง หรือ เพราะความสะเพร่า ปัญหาเป็นไปได้เนื่องจากนักเรียนได้ไม่ต้องเรียนรู้"การหารของจำนวนเต็มบวก"หรือแนวคิดของข้อกำหนดเบื้องต้น (เช่น"ลบของจำนวนเต็มบวก" หรือ"คูณของจำนวนเต็มบวก") ดังนั้น ครูสามารถระบุปัญหาการเรียนของนักเรียน โดยติดตามผลแนวคิดความสัมพันธ์ (Cheng et al., 2005 Hwang, 2003a Hwang หยานี et al., 2008)ในรุ่น CER ได้เรียนรู้เส้นทางทั้งหมดจะนำมาพิจารณาเพื่อค้นหาเส้นทางการงานการเรียนรู้ ในตัวอย่างที่แสดงใน Fig. 1 มีสองเส้นทางเรียนรู้เรื่องหน่วย:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในรูปแบบ CER วินิจฉัยของปัญหาเรียนรู้ของนักเรียนส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่จำเป็นระหว่างแนวคิดที่จะเรียนรู้ พิจารณาสองแนวคิดที่จะเรียนรู้การพูด Ci และ Cj หาก Ci เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมีประสิทธิภาพการดำเนินการที่ซับซ้อนมากขึ้นและแนวคิดระดับที่สูงขึ้น Cj แล้วความสัมพันธ์ของแนวคิดผล CI-> Cj มีการกล่าวถึงอยู่ ตัวอย่างเช่นในการเรียนรู้แนวคิด "ลบของจำนวนเต็มบวก" คนแรกอาจจะต้องเรียนรู้ "การเพิ่มขึ้นของจำนวนเต็มบวก" ในขณะที่การเรียนรู้ "ส่วนหนึ่งของจำนวนเต็มบวก" อาจจำเป็นต้องมีการเรียนรู้ครั้งแรก "ลบของจำนวนเต็มบวก" และ "คูณบวก จำนวนเต็ม " มะเดื่อ 1 นำเสนอตัวอย่างเป็นตัวอย่างของความสัมพันธ์กับแนวคิดผลที่มีความสำคัญในการวินิจฉัยปัญหาเรียนรู้ของนักเรียน ตัวอย่างเช่นถ้านักเรียนไม่สามารถตอบมากที่สุดของรายการทดสอบเกี่ยวกับ "ส่วน
ของจำนวนเต็มบวก "เพราะขาดความเข้าใจในคำถามที่ถูกวางหรือเพราะความประมาทเป็นปัญหาอาจเป็นเพราะนักเรียนไม่ได้เรียนรู้อย่างทั่วถึง" ส่วนหนึ่งของ จำนวนเต็มบวก "หรือแนวความคิดที่จำเป็นของตน (เช่น" ลบของจำนวนเต็มบวก "หรือ" คูณของจำนวนเต็มบวก ") ดังนั้นครูสามารถระบุปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียนโดยการติดตามความสัมพันธ์ของแนวคิดผลกระทบ (Cheng et al, 2005;. ฮวง 2003A. ฮวงเซ่งส์, et al, 2008).
ในรูปแบบ CER ทั้งหมดของการเรียนรู้ที่เป็นไปได้ เส้นทางจะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาที่จะหาเส้นทางไม่ดีเรียนรู้ ในตัวอย่างเป็นตัวอย่างที่ให้ไว้ในรูป 1 มีสองเส้นทางการเรียนรู้สำหรับหน่วยเรื่อง:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในรถตู้รุ่น การวินิจฉัยปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียนส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์เบื้องต้นระหว่างแนวความคิดเพื่อจะเรียนรู้ พิจารณาสองแนวคิดที่ได้เรียนรู้ พูด Cl และซีเจ ถ้าไช่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะมีประสิทธิภาพการดำเนินการที่ซับซ้อนมากขึ้นและระดับที่สูงขึ้นของ CJ แนวคิด แล้วแนวคิดผลความสัมพันธ์ CI - > ซีเจว่า มีอยู่ ตัวอย่างเช่นเรียนรู้แนวคิด " การลบจำนวนเต็มบวก " หนึ่งอาจต้องเรียนรู้ " เติมเต็ม " บวกในขณะที่การเรียนรู้ " ส่วนของจำนวนเต็มบวก " อาจต้องมีการเรียนรู้ก่อนการลบจำนวนเต็มที่เป็นบวก " และ " การคูณจํานวนเต็มบวก " . รูปที่ 1 แสดงตัวอย่างของแนวคิดที่มีผลต่อความสัมพันธ์ซึ่งมีความสำคัญในการวินิจฉัยปัญหานักเรียนการเรียนรู้ ตัวอย่างเช่น ถ้านักเรียนไม่สามารถที่จะตอบมากที่สุดของรายการทดสอบที่เกี่ยวข้องกับ " กอง
ของจำนวนเต็มที่เป็นบวก " เนื่องจากการขาดความเข้าใจในคำถามที่ posed หรือเพราะสะเพร่าปัญหาคือ อาจเป็นเพราะนักเรียนได้ไม่ทั่วถึงได้ " ส่วนของจำนวนเต็มบวก " หรือแนวคิดพื้นฐานของมัน ( เช่น " การลบจำนวนเต็มที่เป็นบวก " หรือ " การคูณจํานวนเต็มบวก " ) ดังนั้น ครูจะศึกษาปัญหาการเรียนของนักเรียนโดยการแกะรอยแนวคิดผลความสัมพันธ์ ( เฉิง et al . , 2005 ; ฮวาง 2003a ; ฮวาง เช็ง , et al . , 2008 ) .
ในรถตู้รุ่นทั้งหมดของเส้นทางการเรียนรู้ที่เป็นไปได้จะถูกพิจารณาเพื่อค้นหางานเรียนรู้เส้นทาง ในตัวอย่างให้อยู่ในรูปที่ 1 มี 2 หน่วยการเรียนรู้เรื่อง เส้นทาง :