This study assessed the occurrence

This study assessed the occurrence of an enhancing inhibitory effect of the combined application of
Origanum vulgare L. essential oil and lactic acid against Staphylococcus aureus by the determination of
Fractional Inhibitory Concentration (FIC) index and cell viability in meat broth and meat model. Minimum
Inhibitory Concentration (MIC) and Minimum Bactericidal Concentration (MBC) of the oil was 0.6 and
1.25 µL.mL-1, respectively. Lactic acid showed MIC and MBC of 2.5 and 5µL.mL-1, respectively. FIC
indices of the combined application of the oil and lactic acid were 0.5 showing a synergic interaction. The
essential oil and lactic acid showed similar (p>0.05) anti-S. aureus effect in meat broth over 96 h of
exposure. Treatment with essential oil or lactic acid presented a smaller anti-staphylococcal effect in meat in
comparison to meat broth. No significant difference (p>0.05) was found for the microbial counts in meat
treated with each antimicrobial alone or in mixture. These results could arise as an interesting approach for
the improvement of food preservation using more natural procedures, considering the current demand of
consumer and sensory quality of foods.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาประเมินการเกิดขึ้นของลิปกลอสไขสร้างลักษณะพิเศษของการประยุกต์รวมOriganum vulgare L. น้ำมันและกรดแลกติกกับหมอเทศข้างลาย Staphylococcus โดยกำหนดการเศษส่วนลิปกลอสไขความเข้มข้น (FIC) ดัชนีและเซลล์ชีวิตในซุปเนื้อและเนื้อรุ่น ต่ำสุดลิปกลอสไขความเข้มข้น (ไมค์) และต่ำสุด Bactericidal เข้มข้น (ช่อง MBC) ของน้ำมันเป็น 0.6 และµL.mL 1.25-1 ตามลำดับ กรดพบไมค์และช่อง MBC 5µL.mL-1 และ 2.5 ตามลำดับ FICดัชนีของแอพลิเคชันรวมน้ำมันและกรดแลกติกได้แสดงการโต้ตอบ synergic 0.5 ที่น้ำมันหอมระเหยและกรดพบคล้ายกัน (p > 0.05) เอสป้องกัน หมอเทศข้างลายผลในซุปเนื้อกว่า 96 h ของเปิดรับแสง บำบัด ด้วยน้ำมันหอมระเหยหรือกรดนำเสนอผลการต่อต้าน staphylococcal เล็กในเนื้อในเปรียบเทียบกับซุปเนื้อ ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (p > 0.05) พบในการตรวจนับจุลินทรีย์ในเนื้อสัตว์รักษา ด้วยละจุลินทรีย์เดี่ยว หรือผสมผสานกัน ผลลัพธ์เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นเป็นวิธีการที่น่าสนใจสำหรับการพัฒนาของการถนอมอาหารโดยใช้กระบวนการธรรมชาติมากขึ้น พิจารณาความต้องการปัจจุบันของผู้บริโภคและคุณภาพทางประสาทสัมผัสของอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้มีการประเมินการเกิดขึ้นของการเสริมสร้างผลยับยั้งของโปรแกรมรวมของ
Origanum vulgare ลิตรน้ำมันหอมระเหยและกรดแลคติกกับเชื้อ Staphylococcus aureus โดยการกำหนด
ความเข้มข้นยับยั้ง Fractional (FIC) และดัชนีความมีชีวิตเซลล์ในน้ำซุปเนื้อและรูปแบบเนื้อ ขั้นต่ำ
เข้มข้นยับยั้ง (MIC) และความเข้มข้นขั้นต่ำฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (MBC) ของน้ำมันเป็น 0.6 และ
1.25 μL.mL-1 ตามลำดับ กรดแลคติกที่แสดงให้เห็นค่า MIC และ MBC 2.5 และ5μL.mL-1 ตามลำดับ FIC
ดัชนีของโปรแกรมรวมของน้ำมันและกรดแลคติกเป็น 0.5 แสดงปฏิสัมพันธ์ Synergic
น้ำมันหอมระเหยและแสดงให้เห็นว่ากรดแลคติกที่คล้ายกัน (p> 0.05) ป้องกัน-S ผล aureus ในน้ำซุปเนื้อมากกว่า 96 ชั่วโมงของ
การเปิดรับ การรักษาด้วยน้ำมันหอมระเหยหรือกรดแลคติกที่นำเสนอฤทธิ์ต้านเชื้อที่มีขนาดเล็กในเนื้อสัตว์ใน
การเปรียบเทียบกับน้ำซุปเนื้อ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (p> 0.05) ก็พบว่าสำหรับการนับจำนวนจุลินทรีย์ในเนื้อสัตว์
รับการรักษาด้วยยาต้านจุลชีพแต่ละคนเดียวหรือในส่วนผสม ผลลัพธ์เหล่านี้อาจเกิดขึ้นเป็นวิธีการที่น่าสนใจสำหรับ
การปรับปรุงการเก็บรักษาอาหารโดยใช้วิธีการธรรมชาติมากขึ้นเมื่อพิจารณาจากความต้องการในปัจจุบันของ
ผู้บริโภคและคุณภาพทางประสาทสัมผัสของอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพยับยั้งผลของการรวมกันของ
Origanum vulgare L . ที่จำเป็นน้ำมันและกรดแลกติกต่อเชื้อ Staphylococcus aureus โดยการหาเศษส่วน ( ฟิค )
ว่าค่าความเข้มข้นของดัชนีและเซลล์ในน้ำซุปเนื้อและรูปแบบเนื้อ ขั้นต่ำ
การเจริญสมาธิ ( MIC ) และแบคทีเรีย ( MBC ) ความเข้มข้นต่ำสุดของน้ำมันเป็นร้อยละ 1.25 และ
µ l.ml-1 ตามลำดับ กรดแลคติกพบ ' และ MBC ของ 2.5 และ 5 µ l.ml-1 ตามลำดับ ฟิค
ดัชนีของการรวมกันของน้ำมันและกรดแลคติก 0.5 แสดงปฏิสัมพันธ์ซึ่งทำงานร่วมกัน .
น้ำมันหอมระเหยและกรดพบคล้ายคลึงกัน ( P > 0.05 ) anti-s.( ผลในซุปเนื้อกว่า 96
H ของแสง การรักษาด้วยน้ำมันหอมระเหย หรือ กรดแลคติกที่นำเสนอขนาดเล็กต่อต้าน staphylococcal ผลในเนื้อ
เปรียบเทียบกับน้ำซุปเนื้อ อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ( P > 0.05 ) พบนับเชื้อจุลินทรีย์ในเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านจุลชีพแต่ละ
อย่างเดียวหรือผสม ผลลัพธ์เหล่านี้อาจเกิดขึ้นเป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับ
การปรับปรุงการเก็บรักษาอาหารโดยใช้วิธีการธรรมชาติมากขึ้น เมื่อพิจารณาจากความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน
และทางประสาทสัมผัสของอาหาร