2.2. Description of coffee agrofore

2.2. Description of coffee agroforestry systems and management
According to Moguel and Toledo (1999)’s typology, coffee farms
in LSBR are representative of traditional polyculture systems,
where farmers manipulate the natural forest system. In study
communities, farmers establish coffee farms by decreasing the
forest’s tree density and weeding the understory to create space for
the introduction of coffee saplings, and by thinning the canopy to
increase amount of light reaching the understory. Farmers do not
apply synthetic pesticides or fertilizers and labor is done manually.
During weeding, farmers usually remove all saplings and seedlings;
infrequently, farmers permit preferred tree species to
establish.
Farmers’ tree selection criteria were documented in detail via
interviews in Valencia et al. (2015). These interviews revealed that
farmers strongly favor the recruitment (e.g., by planting, transplanting
and sparing saplings during weeding) and survival of Inga
spp. (e.g., by not removing adult Inga spp. trees during shade
management) to the detriment of other species. Farmers favor Inga
spp. above all tree species because it a fast growing tree believed to
provide the best shade for coffee and benefit the soil fertility.
Coffee farms in study site are on average 2.6 ha (range: 1–6 ha)
and about 90% are certified organic. Farms are on average 11 years
old (range: 2–40 years old) and most are between 2 and 15 years
old. The majority of farmers are members of a coffee cooperative
that includes coffee farmers from the surrounding communities;
the cooperative is still at an early stage in terms of organization and
negotiation capabilities with potential buyers. Most farmers have
received training on organic coffee management practices in
workshops organized by a local nongovernmental organization
and the government agency responsible for managing the
Biosphere Reserve. Farmers also report sharing knowledge on
management practices among each other. Although farmers are
exposed to similar information on management practices, its
actual application across farms is highly variable.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.2. อธิบายระบบการทำวนเกษตรกาแฟและการจัดการไปตาม Moguel และ Toledo (1999) ของจำแนก ฟาร์มกาแฟใน LSBR เป็นตัวแทนของระบบแบบดั้งเดิมแนวที่เกษตรกรจัดการกับระบบป่าธรรมชาติ ในการศึกษาชุมชน เกษตรกรสร้างฟาร์มกาแฟ โดยการลดการความหนาแน่นของต้นไม้ของป่าและสัตว์เพื่อสร้างพื้นที่สำหรับกำจัดวัชพืชการแนะนำ ของกล้าไม้กาแฟ และผอมบางหลังคาไปเพิ่มจำนวนแสงที่เข้าถึงสัตว์ที่ เกษตรกรทำไม่ได้ใช้สังเคราะห์สารกำจัดศัตรูพืชหรือปุ๋ย และค่าแรงทำด้วยตนเองในระหว่างการกำจัดวัชพืช เกษตรกรมักจะเอาต้นไม้และต้นกล้านาน ๆ ครั้ง เกษตรกรอนุญาตให้พันธุ์ไม้ที่ต้องการสร้างเกณฑ์การเลือกต้นไม้ของเกษตรกรได้ทำเอกสารรายละเอียดผ่านสัมภาษณ์ใน Valencia et al. (2015) บทสัมภาษณ์เหล่านี้เปิดเผยที่เกษตรกรขอชอบการสรรหาบุคลากร (เช่น โดยปลูก ทำการย้ายและไม่ต้องยากกล้าไม้ในระหว่างการกำจัดวัชพืช) และการอยู่รอดของสุออกซิเจน (เช่น โดยไม่เอาผู้ใหญ่สุออกซิเจนต้นไม้ในร่มการจัดการการทำลายพันธุ์อื่น ๆ เกษตรกรชอบช่วยตัวเองออกซิเจนต้นไม้สายพันธุ์ข้างต้นทั้งหมด เพราะมันเป็นต้นไม้ที่เติบโตอย่างรวดเร็วเชื่อว่าให้ร่มเงาที่ดีที่สุดสำหรับกาแฟ และประโยชน์ความอุดมสมบูรณ์ของดินฟาร์มกาแฟในสถานศึกษามีค่าเฉลี่ย 2.6 ฮา (ช่วง: 1 – 6 ฮา)และประมาณ 90% ได้รับการรับรองอินทรีย์ ฟาร์มอยู่โดยเฉลี่ย 11 ปีเก่า (ช่วง: 2 – 40 ปี) และส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 2-15 ปีเก่า ส่วนใหญ่ของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์กาแฟมีทั้งกาแฟชาวชุมชนการสหกรณ์อยู่ในช่วงเริ่มต้นในแง่ขององค์กร และความสามารถในการเจรจากับผู้ซื้อที่มีศักยภาพ เกษตรกรส่วนใหญ่มีได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีบริหารจัดการกาแฟอินทรีย์ในฝึกอบรมที่จัด โดยองค์กรเอกชนท้องถิ่นหน่วยงานรัฐบาลที่รับผิดชอบการจัดการและการเขตอนุรักษ์ เกษตรกรยังรายงานการแบ่งปันความรู้ในวิธีบริหารจัดการระหว่างกันและกัน แม้ว่าเกษตรกรจะสัมผัสกับข้อมูลที่คล้ายกันในการปฏิบัติการจัดการ การโปรแกรมจริงข้ามฟาร์มเป็นตัวแปรสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.2 คำอธิบายของระบบวนเกษตรกาแฟและการจัดการ
ตามที่น่าอัศจรรย์ที่เค้าโตเลโด (1999) 's จำแนกประเภทฟาร์มกาแฟ
ใน LSBR เป็นตัวแทนของระบบแบบผสมผสานแบบดั้งเดิม
ที่เกษตรกรจัดการระบบป่าธรรมชาติ ในการศึกษา
ชุมชนเกษตรกรสร้างฟาร์มกาแฟโดยการลด
ความหนาแน่นของต้นไม้ป่าและกำจัดวัชพืช understory ในการสร้างพื้นที่สำหรับ
การแนะนำของต้นกล้ากาแฟและผอมบางหลังคาเพื่อ
เพิ่มปริมาณของแสงถึง understory เกษตรกรไม่
ใช้สารกำจัดศัตรูพืชสังเคราะห์หรือปุ๋ยและแรงงานจะดำเนินการด้วยตนเอง.
ในระหว่างการกำจัดวัชพืชเกษตรกรมักจะเอาต้นกล้าและต้นกล้า;
บ่อยเกษตรกรอนุญาตให้แนะนำสายพันธุ์ต้นไม้
. สร้าง
เกณฑ์การเลือกต้นไม้ที่เกษตรกรได้รับการบันทึกในรายละเอียดผ่าน
การสัมภาษณ์ในวาเลนเซีย, et al . (2015) สัมภาษณ์เหล่านี้เผยให้เห็นว่า
เกษตรกรอย่างยิ่งชอบการรับสมัคร (เช่นโดยการปลูกการปลูก
และประหยัดกล้าไม้ในระหว่างการกำจัดวัชพืช) และความอยู่รอดของอิงก้า
เอสพีพี (เช่นโดยไม่ลบเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ Inga spp. ในระหว่างต้นไม้ร่มเงา
การจัดการ) เพื่อความเสียหายของสายพันธุ์อื่น ๆ เกษตรกรโปรดปราน Inga
เอสพีพี ทั้งหมดข้างต้นต้นไม้ชนิดเพราะมันเป็นต้นไม้ที่เติบโตอย่างรวดเร็วเชื่อว่า
. ให้เฉดสีที่ดีที่สุดสำหรับกาแฟและผลประโยชน์อุดมสมบูรณ์ของดิน
ฟาร์มกาแฟในพื้นที่ศึกษามีค่าเฉลี่ย 2.6 ฮ่า (ช่วง: 1-6 ฮ่า)
และประมาณ 90% ได้รับการรับรองอินทรีย์ ฟาร์มมีค่าเฉลี่ย 11 ปี
เก่า (ช่วง: 2-40 ปี) และส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 2 และ 15 ปี
เก่า ส่วนใหญ่ของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์กาแฟ
ที่มีเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟจากชุมชนโดยรอบ;
สหกรณ์ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นในแง่ขององค์กรและการ
เจรจาต่อรองที่มีความสามารถในการซื้อที่มีศักยภาพ เกษตรกรส่วนใหญ่ได้
รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการบริหารจัดการกาแฟอินทรีย์ใน
การประชุมเชิงปฏิบัติการจัดโดยองค์กรพัฒนาเอกชนในท้องถิ่น
และหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการ
เขตสงวนชีวมณฑล เกษตรกรยังรายงานการแชร์ความรู้เกี่ยวกับ
แนวทางการบริหารจัดการระหว่างกันและกัน แม้ว่าเกษตรกรจะ
สัมผัสกับข้อมูลที่คล้ายกันในการบริหารจัดการของมัน
ใช้งานจริงทั่วฟาร์มเป็นตัวแปร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2.2 . รายละเอียดของกาแฟ และการจัดการระบบวนเกษตรตาม moguel โทเลโด ( 2542 ) และแบบฟาร์มกาแฟใน lsbr เป็นตัวแทนของระบบ polyculture ดั้งเดิมที่เกษตรกรจัดการระบบป่าไม้ธรรมชาติ ในการศึกษาชุมชนเกษตรกรไร่กาแฟ โดยการสร้างความหนาแน่นของต้นไม้และป่าหญ้า understory เพื่อสร้างพื้นที่สำหรับการแนะนำของต้นกล้ากาแฟ และทรงพุ่มบางเพิ่มจำนวนแสงถึง understory . เกษตรกรไม่ใช้สังเคราะห์สารกำจัดศัตรูพืชหรือปุ๋ยและแรงงานได้ด้วยตนเองระหว่างวัชพืช เกษตรกรมักเอาลูกไม้และกล้าไม้ ;ไม่บ่อย เกษตรกรที่ต้องการใบอนุญาตชนิดต้นไม้สร้างเกณฑ์การคัดเลือกเกษตรกรต้นไม้ถูกบันทึกไว้ในรายละเอียดผ่านทางการสัมภาษณ์ใน Valencia et al . ( 2015 ) การสัมภาษณ์นี้ พบว่าเกษตรกรขอช่วยงาน ( เช่น โดยการปลูก ปลูกกิจกรรมในช่วงที่หญ้าและการอยู่รอดของ Inga ) และspp . ( เช่นโดยการเอาต้นไม้ในร่มไม่ผู้ใหญ่ Inga spp .การจัดการกับความเสียหายของชนิดอื่น ๆ อิงก้าช่วยเกษตรกรspp . สายพันธุ์ข้างต้นไม้ เพราะต้นไม้ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เชื่อว่าให้ร่มเงาที่ดีที่สุดสำหรับกาแฟและประโยชน์ต่อความอุดมสมบูรณ์ของดินฟาร์มกาแฟในพื้นที่ศึกษามีเฉลี่ย 2.6 ฮา ( ช่วง 1 – 6 ฮา )และประมาณ 90% ได้รับการรับรองอินทรีย์ ฟาร์มเฉลี่ย 11 ปีเก่า ( 2 ) ช่วง 40 ปี ) และส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 2 และ 15 ปีเก่า ส่วนใหญ่ของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์ เป็นกาแฟรวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟจากชุมชนโดยรอบ ;สหกรณ์ฯ ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ใน แง่ ของ องค์กร และความสามารถในการเจรจาต่อรองกับผู้ซื้อที่มีศักยภาพ เกษตรกรส่วนใหญ่มีได้รับการฝึกปฏิบัติการการจัดการกาแฟอินทรีย์การประชุมเชิงปฏิบัติการที่จัดขึ้นโดยองค์กรพัฒนาเอกชนท้องถิ่นและหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบในการจัดการBiosphere สำรอง เกษตรกร รายงานยังแบ่งปันความรู้ในการจัดการการปฏิบัติของแต่ละอื่น ๆ แม้ว่าเกษตรกรเปิดเผยข้อมูลที่คล้ายกันในการบริหารของจริงโปรแกรมในฟาร์มเป็นตัวแปรอย่างมาก