Powder after shower habit may be le

Powder after shower habit may be lead to cancer, especially in the underpants or if powder has asbestos in it.

HEALTH

Powder all over body after shower leads to cancer?

5/04/2016
Arusa Pisuthipan

The habit of applying talcum powder all over the body after taking a shower is quite common in Thailand and many other places in the world.

Recent court cases in the US indicate that this practice could be dangerous.

A Thai cancer specialist (oncologist) recommends talcum-based products not be used on the body's intimate parts (crotch area).

US COURT CASES

Jacqueline Fox died from ovarian cancer last October at the age of 62.

The death of the American is notable in that it has raised a public health concern with regard to what possibly caused her passing -- baby powder.

Fox was reported to have been sprinkling Johnson & Johnson baby powder on her underwear every day since she was a teen.

She then learned from a commercial after her diagnosis that long-term use of the baby powder might be associated with ovarian cancer.

US$72 MILLION IN DAMAGES AWARDED

Fox was among more than 1,200 women from across the US who were suing the company for failing to warn consumers of the dangers associated with talc, the mineral used in its baby powder.

In the end, Johnson & Johnson was ordered to pay US$72 million (2.5 billion baht) to Fox's family, making this case the first in which monetary compensation was awarded. The next trial is scheduled for later this month.

SHOULD I STOP USING TALCUM POWDER?

Fox's story has, of course, stirred public paranoia, especially among fans of that powder brand.

Many wonder if they should stop using the talc-based powder.

PURE TALCUM POWDER VS. ASBESTOS MIXTURE

Gynaecological oncologist Dr Chantawat Sheanakul, however, urged consumers to not be overly panicky.

A number of brands in the global cosmetic industry have used pure talcum powder since the 1970s, which is found to have no connection with cancer.

"In its natural form, some talcum powder contains asbestos which is a substance known to cause cancers. But in the cosmetic industry, most brands do not use that any more. They only use pure talc," the doctor explained.

TALCUM POWDER IN CROTCH AREA POSSIBLY CARCINOGENIC

But importantly, the perineal use of talc-based body powder has been classified as possibly carcinogenic to humans.

This means using talcum powder in the area between the anus and the genitals (perineal area, crotch) can possibly be harmful.

A US study a while back found that cancer of the ovary was associated with use of body powder more than those who were cancer-free.

A number of ovarian cancer patients in the study were found to sprinkle body powder on their genitals (genital organs), on the underwear, sanitary napkins or even condoms. Those who used the powder on other body parts were, however, not affected.

There are benefits of body powder which include absorbing moisture, soothing skin irritation and reducing skin friction.

Dr Chantawat, however, suggests that powder be used in moderation and only in appropriate areas of the body.

WHAT ABOUT SPRINKLING POWDER ON BABIES' BOTTOMS?

"Personally I would suggest parents not to sprinkle powder on baby's bottoms, especially if it's a girl," he said.

"Neither do I think it's wise to use powder with private areas. Sprinkling it on the body, the armpit and the neck is fine.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผงหลังจากฝักบัวนิสัยอาจนำมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกางเกงใน หรือ ถ้าแป้งมีใยหินในสุขภาพผงทั่วร่างกายหลังจากน้ำไปสู่มะเร็ง5/04/2016 Arusa Pisuthipanนิสัยของการใช้แป้งเย็นทั่วร่างกายหลังจากการอาบน้ำเป็นเรื่องธรรมดาในประเทศไทยและสถานอื่น ๆ ในโลกกรณีศาลในสหรัฐอเมริกาบ่งชี้ว่า การปฏิบัตินี้อาจเป็นอันตรายผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งไทย (เวชกรรม) แนะนำผลิตภัณฑ์จากแป้งไม่ใช้ส่วนของร่างกายใกล้ชิด (ตั้งเป้า)กรณีที่ศาลสหรัฐสุนัขจิ้งจอก Jacqueline เสียชีวิตจากมะเร็งรังไข่เดือนตุลาคมอายุ 62การตายของอเมริกันที่เป็นโดดเด่นในการที่จะได้ยกปัญหาสุขภาพของประชาชนเกี่ยวกับสิ่งที่อาจจะเกิดจากเธอผ่าน - แป้งเด็ก สุนัขจิ้งจอกรายงานมีการโรย Johnson & Johnson แป้งเด็กบนกางเกงในของเธอทุกวันตั้งแต่เธอยังเป็นวัยรุ่นเธอแล้วเรียนรู้จากการโฆษณาหลังจากวินิจฉัยของเธอที่ใช้ระยะยาวของแป้งเด็กอาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งรังไข่72 ล้านเหรียญสหรัฐในความเสียหายที่ได้รับรางวัลสุนัขจิ้งจอกมี 1,200 กว่าผู้หญิงจากทั่วสหรัฐอเมริกาที่ถูกฟ้องร้องบริษัทการเตือนผู้บริโภคของอันตรายที่เกี่ยวข้องกับแป้ง แร่ที่ใช้ในแป้งของเด็ก ในสุด Johnson & Johnson สั่งจ่าย 72 ล้านดอลลาร์ (2.5 พันล้านบาท) ที่ครอบครัวของฟ็อกซ์ ทำกรณีนี้ครั้งแรกในค่าตอบแทนเงินที่ได้รับรางวัลนี้ การทดลองต่อไปคือการจัดกำหนดการสำหรับปลายเดือนฉันหยุดใช้แป้ง เรื่องสุนัขจิ้งจอกได้ แน่นอน กวนทโปสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่แฟน ๆ ของแบรนด์ที่ผงหลายคนสงสัยว่า ถ้า พวกเขาควรหยุดใช้แป้งใช้แป้งผงแป้งบริสุทธิ์ VS ส่วนผสมของใยหิน อย่างไรก็ตาม gynaecological เวชกรรมดรกฤษดาไพรวัฒนานุพันธ์ เรียกร้องให้ผู้บริโภคไม่ถูก panicky มากเกินไปจำนวนของแบรนด์ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางทั่วโลกได้ใช้แป้งบริสุทธิ์ตั้งแต่ปี 1970 ซึ่งพบว่าได้มีการเชื่อมกับมะเร็ง "ในรูปแบบธรรมชาติ แป้งบางประกอบด้วยใยหินซึ่งเป็นสารที่รู้จักกันจะทำให้เกิดมะเร็ง แต่ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง แบรนด์ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ที่อื่น ๆ พวกเขาเพียงใช้แป้งบริสุทธิ์ แพทย์อธิบายแป้งในพื้นที่เป้าอาจจะเกิดโรคมะเร็งแต่ที่สำคัญ การใช้ร่างกายใช้แป้งผง perineal ได้รับการจัดอาจจะเป็นการเกิดโรคมะเร็งกับมนุษย์ซึ่งหมายความว่าใช้แป้งที่บริเวณระหว่างทวารหนักและอวัยวะเพศ (perineal ตั้ง ง่าม) อาจสามารถเป็นอันตราย การศึกษาของสหรัฐอเมริกาในขณะที่กลับพบว่า มะเร็งของรังไข่เกี่ยวข้องกับการใช้แป้งทาตัวมากกว่าคนที่ปลอดโรคมะเร็ง จำนวนผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ในการศึกษาพบการโรยตัว บนของอวัยวะเพศ (อวัยวะเพศ) ชุดชั้นใน ผ้าอนามัย หรือถุงยางอนามัยได้ ผู้ที่ใช้ผงบนร่างกายส่วนอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ไม่มีผลกระทบ มีประโยชน์ร่างกายผงรวมถึงดูดซับความชื้น ผ่อนคลายผิวระคายเคือง และลดแรงเสียดทานของผิวดร.กฤษดา อย่างไรก็ตาม แสดงให้เห็นว่า ผงใช้ ในการดูแล และ ในพื้นที่ที่เหมาะสมของร่างกายสิ่งที่เกี่ยวกับโรยผงบนก้นเด็กทารก "ส่วนตัวผมจะแนะนำผู้ปกครองไม่ให้โรยแป้งบนพื้นเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นผู้หญิง เขากล่าวว่า"ใช่ผมคิดว่า มันฉลาดใช้ผงกับพื้นที่ส่วนตัว โรยบนตัว รักแร้และลำคอได้ดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผงหลังนิสัยที่อาบน้ำและอาจจะนำไปสู่โรคมะเร็งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกางเกงหรือถ้าผงมีแร่ใยหินในนั้น. สาธารณสุขผงทั่วร่างกายหลังอาบน้ำจะนำไปสู่โรคมะเร็ง? 2016/05/04 Arusa Pisuthipan นิสัยของการใช้แป้งฝุ่นทั่วร่างกาย หลังจากอาบน้ำเป็นเรื่องธรรมดามากในประเทศไทยและสถานที่อื่น ๆ ในโลก. กรณีที่ศาลล่าสุดในสหรัฐระบุว่าการปฏิบัติเช่นนี้อาจเป็นอันตราย. ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็งไทย (เนื้องอก) แนะนำผลิตภัณฑ์แป้งโรยตัวตามไม่ได้ถูกนำมาใช้ในร่างกายที่ใกล้ชิด . ส่วน (พื้นที่เป้า) ศาลสหรัฐกรณีJacqueline ฟ็อกซ์เสียชีวิตจากโรคมะเร็งรังไข่เมื่อเดือนตุลาคมที่อายุ 62 การตายของชาวอเมริกันเป็นเรื่องน่าทึ่งในการที่จะได้ยกความกังวลต่อสุขภาพของประชาชนในเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่อาจจะก่อให้เกิดการส่งผ่านของเธอกับ - ทารก ผง. ฟ็อกซ์มีรายงานว่าจะได้รับการโรยจอห์นสันแอนด์จอห์นสันแป้งเด็กในชุดชั้นในของเธอทุกวันตั้งแต่เธอยังเป็นวัยรุ่น. จากนั้นเธอก็เรียนรู้จากการค้าหลังการวินิจฉัยของเธอว่าการใช้งานในระยะยาวของแป้งเด็กที่อาจจะเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งรังไข่US $ 72 ล้านในความเสียหายได้รับรางวัลฟ็อกซ์เป็นหนึ่งในผู้หญิงมากกว่า 1,200 คนจากทั่วสหรัฐที่ถูกฟ้องร้อง บริษัท ล้มเหลวในการเตือนผู้บริโภคของอันตรายที่เกี่ยวข้องกับแป้งโรยเกลือแร่ที่ใช้ในแป้งเด็กของตน. ในท้ายที่สุดจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ได้รับคำสั่งให้จ่ายเงินให้เรา $ 72 ล้านบาท (2.5 พันล้านบาท) ให้กับครอบครัวของฟ็อกซ์ทำให้กรณีนี้เป็นครั้งแรกที่ค่าตอบแทนทางการเงินที่ได้รับรางวัล การพิจารณาคดีต่อไปที่กำหนดไว้สำหรับปลายเดือนนี้. ฉันควรหยุดใช้แป้งฝุ่น? เรื่องราวของฟ็อกซ์ได้แน่นอนกวนหวาดระแวงของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่แฟน ๆ ของแบรนด์ผงว่า. หลายคนสงสัยว่าพวกเขาควรหยุดใช้ผงแป้งโรยตัวตาม. PURE แป้งโรยผง VS. ใยหินผสมนรีเวชเนื้องอกดร Chantawat Sheanakul แต่กระตุ้นให้ผู้บริโภคที่จะไม่ต้องหวาดกลัวมากเกินไป. จำนวนของแบรนด์ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางทั่วโลกได้ใช้แป้งฝุ่นบริสุทธิ์ตั้งแต่ปี 1970 ซึ่งจะพบว่ามีการเชื่อมต่อกับโรคมะเร็งไม่มี. "ในธรรมชาติของมัน รูปแบบบางแป้งฝุ่นมีแร่ใยหินซึ่งเป็นสารที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็ง. แต่ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางแบรนด์ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ใด ๆ เพิ่มเติม. พวกเขาเพียงใช้แป้งบริสุทธิ์ "หมออธิบาย. แป้งฝุ่นในเป้า AREA สารก่อมะเร็งอาจแต่ ที่สำคัญการใช้ฝีเย็บของผงร่างกายแป้งตามได้รับการจำแนกเป็นอาจจะเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์. นี้หมายถึงการใช้แป้งฝุ่นในพื้นที่ระหว่างทวารหนักและอวัยวะเพศ (พื้นที่ฝีเย็บ, เป้า) สามารถอาจเป็นอันตราย. สหรัฐศึกษาในขณะที่ กลับพบว่าเป็นมะเร็งของรังไข่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานของผงในร่างกายมากขึ้นกว่าผู้ที่เป็นโรคมะเร็งฟรี. จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งรังไข่ในการศึกษามากถูกพบที่จะโรยผงร่างกายที่อวัยวะเพศของพวกเขา (อวัยวะเพศ) ในชุดชั้นใน ผ้าอนามัยหรือแม้กระทั่งถุงยางอนามัย บรรดาผู้ที่ใช้ผงในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายถูก แต่ได้รับผลกระทบ. มีประโยชน์ของผงร่างกายซึ่งรวมถึงความชื้นดูดซับผ่อนคลายการระคายเคืองผิวหนังและลดแรงเสียดทานผิว. ดร Chantawat แต่แสดงให้เห็นว่าผงนำมาใช้ในการดูแลและเฉพาะใน พื้นที่ที่เหมาะสมของร่างกาย. สิ่งที่เกี่ยวกับการโปรยผงก้นทารก? "โดยส่วนตัวผมจะแนะนำให้พ่อแม่ผู้ปกครองจะไม่โรยผงก้นของทารกโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง" เขากล่าว. "ทั้งฉันคิดว่ามันฉลาดที่จะใช้ผงด้วย พื้นที่ส่วนตัว. โรยบนร่างกายรักแร้และลำคอเป็นเรื่องปกติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผงหลังอาบน้ำ นิสัยอาจจะก่อให้เกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกางเกงใน หรือ ถ้าแป้งมีใยหินในสุขภาพผงทั่วร่างกายหลังอาบน้ำจะนำไปสู่มะเร็ง5 / 06 / 2016อรุสา พิสุทธิพรรณนิสัยของการใช้แป้งฝุ่นทั่วตัวหลังอาบน้ำค่อนข้างทั่วไปในประเทศไทยและสถานที่อื่น ๆในโลกล่าสุดกรณีศาลในสหรัฐฯ ระบุว่า การปฏิบัตินี้อาจเป็นอันตรายได้ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็งไทย ( เนื้องอก ) แนะนำผลิตภัณฑ์จากแป้ง ไม่ควรใช้ในส่วนที่ใกล้ชิดของร่างกาย ( บริเวณท้องน้อย )เรากรณีศาลแจคเกอลีน สุนัขจิ้งจอกตายจากมะเร็งรังไข่เมื่อเดือนตุลาคมที่อายุ 62ความตายของคนเด่นในนั้นมันมียกสาธารณสุขกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่อาจจะทำให้เธอผ่าน - แป้งเด็กสุนัขจิ้งจอกรายงานได้รับการโรยแป้งเด็กจอห์นสันแอนด์จอห์นสันในชุดชั้นในเธอทุกวันตั้งแต่เธอยังเป็นวัยรุ่นเธอจึงเรียนรู้จากโฆษณาหลังจากที่การวินิจฉัยที่ใช้ในระยะยาวของแป้งเด็กอาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งรังไข่US $ 72 ล้านบาทในความเสียหายที่ได้รับรางวัลสุนัขจิ้งจอกเป็นหนึ่งในผู้หญิงมากกว่า 1 , 200 จากทั่วสหรัฐ ที่ฟ้อง บริษัท ล้มเหลวในการเตือนผู้บริโภคถึงอันตรายที่เกี่ยวข้องกับแป้ง แร่ที่ใช้ในแป้งเด็กสุดท้าย จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ถูกสั่งให้จ่าย $ 72 ล้านบาท ( 2.5 พันล้านบาท ) ให้กับครอบครัวของสุนัขจิ้งจอก ทำให้คดีนี้ครั้งแรกที่ได้เงินตอบแทนเป็นรางวัล การทดลองต่อไปจะกำหนดไว้สำหรับปลายเดือนนี้ฉันควรหยุดใช้แป้งฝุ่น ?เรื่องราวของฟอกซ์ได้ แน่นอน คน ประชาชนหวาดระแวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่แฟน ๆของแป้งยี่ห้อหลายคนสงสัยว่าพวกเขาควรจะหยุดใช้แป้งผงจากแป้งฝุ่นผสมใยหินและบริสุทธิ์ไม่อยู่รักษาดร chantawat sheanakul อย่างไรก็ตาม เรียกร้องให้ผู้บริโภคไม่ต้องตื่นตกใจมากเกินไป .หมายเลขของแบรนด์ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางทั่วโลกได้ใช้แป้งบริสุทธิ์ตั้งแต่ทศวรรษ ซึ่งพบว่าไม่มีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็ง" ในรูปแบบธรรมชาติ บางแป้งฝุ่นมีแร่ใยหิน ซึ่งเป็นสารที่รู้จักกันเพื่อทำให้เกิดมะเร็ง แต่ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง แบรนด์ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ใด ๆเพิ่มเติม พวกเขาใช้เฉพาะแป้งบริสุทธิ์ " หมออธิบายแป้งฝุ่นในบริเวณง่ามอาจก่อให้เกิดมะเร็งแต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การใช้ผงแป้งจากฝีเย็บร่างกายได้รับการจัดอาจเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์หมายถึง การใช้แป้งฝุ่นในบริเวณระหว่างทวารหนักและอวัยวะเพศ ( บริเวณฝีเย็บง่าม ) อาจจะเป็นอันตรายอีกการศึกษาพบว่ามะเร็งของรังไข่ได้เกี่ยวข้องกับการใช้ของร่างกายผงมากกว่าผู้ที่เป็นโรคมะเร็งฟรีจำนวนของผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ในการศึกษา พบว่า ผงโรยบนร่างกายของเหยื่อแต่ละราย ( อวัยวะเพศ ) บนชุดชั้นใน ผ้าอนามัย หรือแม้แต่ถุงยางอนามัย ผู้ที่ใช้แป้งกับส่วนอื่น ๆของร่างกาย , อย่างไรก็ตาม , ไม่ได้รับผลกระทบมีประโยชน์ต่อร่างกายผงซึ่งรวมถึงการดูดซับความชื้นบรรเทาการระคายเคืองผิวหนังและลดแรงเสียดทานที่ผิวดร chantawat อย่างไรก็ตาม พบว่าผงใช้พอประมาณ และเฉพาะในพื้นที่ที่เหมาะสมของร่างกายแล้วโรยแป้งบนพื้นของทารก ?" โดยส่วนตัวแล้ว ผมจะแนะนำว่า พ่อแม่ไม่ต้องโรยผงทารกและโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นผู้หญิง " เขากล่าว" แล้วฉันก็ไม่คิดว่ามันฉลาดที่จะใช้แป้งกับพื้นที่ส่วนบุคคล โรยบนร่างกายรักแร้และคอได้