Eventually she asked me if she coul

Eventually she asked me if she could see me and go with me. Her name is Da.
We started spending some time together even though she was "working".
I saw her every time I came back to Thailand. I just liked her but she wanted to spend more and more time with me.
Eventually I feel in love with her because of the nice things she did for me and that she was not shy to be with me. Yes..and she was still a bar girl...

When I went back to South Africa for work, she sent me a message every day telling me that she had never loved a man before but that her heart was telling her that she loves me and that she misses me.
She begged me to come back to Thailand to be with her. She told me she wanted to get married to me, be my wife and start a family.
I was very busy with modeling and TV work and could not go back but she begged me to come back.
I missed her too and eventually I resigned form the modeling company to go back to Thailand to be with her. My agent (boss) at the company cried because I wanted to leave and not come back. I was starting to become "famous" with the modeling and TV work and she told me that I can become a superstar if I stayed in South Africa. I said no..I wanted to be with Da.

I went back to Thailand in December 2004 and she wanted to get married as soon as possible.
I was not afraid and felt good about getting married so I said yes.
She phoned her mother to arrange the wedding and we went to her village and got marries on New Year's day 2005. It was just a Buddhist wedding but the whole village was there.
No papers and nothing "legal"...no embassies.
Little did I know what was going to happen...

We went back to Pattaya after 2 days at her home and after another 2 days in Pattaya...she left me.
She had a fight with me and then just disappeared. I was sick with worry. I phoned her and she did not answer her phone. She came to the apartment one night when I was not there and took all her clothes and toiletries.
She phoned me after about 10 days and told me she missed me and loves me but if I want her to come back I have to buy her mother a house. I told her to get lost and leave me alone.
So, there I was, alone and heartbroken again. Even my friends were laughing at me because of what this bar girl did to me.
I was stupid and naive...
I have never been so humiliated in all my life because of what she did to me.
I gave up my whole life in South Africa to be with her...and she lied to me and stole my money. She never cared about me. It was all a lie to steal money. I lost about 125000 Baht, my heart and my dignity.

Why did I never tell you about Da?
It is not something I like to talk about and I am shy to talk about it.
The time was also not right to tell you and it was a very sad time in my life again about love.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในที่สุดเธอถามฉันว่าเธอจะเห็นฉันและไปกับฉัน ชื่อของเธอคือ da.
เราเริ่มใช้เวลาอยู่ด้วยกันแม้ว่าเธอก็คือ "การทำงาน".
ฉันเห็นเธอทุกครั้งที่ผมกลับมาประเทศไทยทุก ผมชอบเธอ แต่เธอก็อยากจะใช้เวลามากขึ้นกับฉัน.
ในที่สุดผมรู้สึกในความรักกับเธอเพราะสิ่งที่ดีที่เธอทำให้ฉันและบอกว่าเธอไม่ได้เป็นคนขี้อายจะอยู่กับฉัน ใช่ ..และเธอก็ยังคงที่เป็นสาวบาร์ ...

เมื่อฉันเดินกลับไปที่แอฟริกาใต้สำหรับการทำงานของเธอส่งข้อความมาให้ฉันทุกวันบอกฉันว่าเธอไม่เคยรักผู้ชายคนหนึ่งก่อน แต่ที่หัวใจของเธอบอกว่าเธอรักฉัน และบอกว่าเธอคิดถึงฉัน.
เธอขอร้องให้ผมกลับมาเมืองไทยเพื่อจะได้อยู่กับเธอ เธอบอกฉันว่าเธออยากจะแต่งงานกับฉันเป็นภรรยาของฉันและเริ่มต้นครอบครัว.
I was very ยุ่งอยู่กับการสร้างแบบจำลองและการทำงานของทีวีและไม่สามารถกลับไป แต่เธอขอร้องให้ฉันกลับมา.
ฉันพลาดของเธอเกินไปและในที่สุดก็ลาออกในรูปแบบของ บริษัท การสร้างแบบจำลองที่จะกลับไปเมืองไทยเพื่อจะได้อยู่กับเธอ ตัวแทน (เจ้านาย) บริษัท ของฉันร้องไห้เพราะฉันต้องการที่จะออกไปและไม่กลับมาผมเริ่มที่จะกลายเป็น "ดัง" กับแบบจำลองการทำงานและโทรทัศน์และเธอบอกว่าฉันจะกลายเป็นซูเปอร์สตาถ้าฉันอยู่ในแอฟริกาใต้ ผมไม่ได้พูดอะไร .. ฉันต้องการที่จะอยู่กับ da.

ฉันก็กลับมาประเทศไทยในเดือนธันวาคมปี 2004 และเธออยากจะแต่งงานเร็วที่สุด.
ผมไม่กลัวและรู้สึกดีเกี่ยวกับการแต่งงานดังนั้นผมจึงกล่าวว่าใช่.
เธอโทรศัพท์ไปหาแม่ของเธอที่จะจัดงานแต่งงานและเราก็เดินไปที่หมู่บ้านของเธอและได้แต่งงานในวันปีใหม่ 2005 มันเป็นเพียงแค่งานแต่งงานพุทธ แต่คนทั้งหมู่บ้านอยู่ที่นั่น.
ไม่มีเอกสารและไม่มีอะไรที่ "กฎหมาย" ... สถานทูตไม่.
เล็ก ๆ น้อย ๆ ผมรู้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้น ...

เราก็กลับไปที่พัทยาหลังจาก 2 วัน ที่บ้านของเธอและหลังจากนั้นอีก 2 วันที่พัทยา ... เธอทิ้งฉัน.
ที่เธอได้มีการต่อสู้กับฉันแล้วหายตัวไป ผมป่วยด้วยกังวล ผมโทรไปหาเธอและเธอก็ไม่ได้รับโทรศัพท์ของเธอ เธอมาที่อพาร์ตเมนต์ในคืนหนึ่งเมื่อฉันไม่ได้มีและเอาเสื้อผ้าและอุปกรณ์อาบน้ำทั้งหมดของเธอ.
เธอโทรมาหาผมหลังจากนั้นประมาณ 10 วันและบอกผมว่าเธอคิดถึงฉันและรักฉัน แต่ถ้าฉันต้องการให้เธอกลับมาฉันจะต้องซื้อของเธอ บ้านแม่ ฉันบอกเธอที่จะได้รับหายไปและทิ้งฉันคนเดียว
ดังนั้นมีผมคนเดียวและอกหักอีกครั้ง แม้กระทั่งเพื่อนของฉันพากันหัวเราะเยาะฉันเพราะสิ่งที่หญิงสาวแถบนี้ไม่ให้ฉัน.
ผมโง่และไร้เดียงสา ...
ฉันไม่เคยละอายใจดังนั้นในทุกชีวิตของฉันเพราะสิ่งที่เธอทำกับฉัน.
ผมขึ้นของฉัน ชีวิตทั้งชีวิตในแอฟริกาใต้จะอยู่กับเธอ ... และเธอโกหกฉันและขโมยเงินของฉัน เธอไม่เคยได้รับการดูแลเกี่ยวกับฉัน มันเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดจะขโมยเงินฉันหายไปประมาณ 125,000 บาทหัวใจและศักดิ์ศรีของฉัน.

ผมว่าทำไมไม่เคยบอกคุณเกี่ยวกับ da
มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการพูดคุยเกี่ยวกับและฉันอายที่จะพูดคุยเกี่ยวกับมัน.
เวลานี้ยังไม่ได้สิทธิในการ บอกคุณและมันเป็นช่วงเวลาที่เศร้ามากในชีวิตของฉันอีกครั้งเกี่ยวกับความรัก.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในที่สุดเธอถามผมถ้า เธอไม่เห็นฉัน และไปกับฉัน ชื่อของเธอคือ Da.
เราเริ่มใช้จ่ายบางเวลาด้วยกันแม้ว่าเธอถูก "ทำ"
เห็นเธอทุกครั้งที่ผมกลับมาไทย ผมแค่ชอบเธอ แต่เธอต้องการใช้จ่ายมากขึ้น และมากขึ้นเวลา me.
ในที่สุดผมรู้สึกรักกับเธอ เพราะสิ่งที่ดีเธอทำให้ฉัน และเธอไม่อายที่จะอยู่กับฉัน ใช่...และเธอยังบาร์สาว...

เมื่อไปแอฟริกาใต้สำหรับการทำงาน เธอส่งฉันข้อความทุกวันบอกฉันว่า เธอไม่ได้รักคนก่อน แต่ว่า ใจของเธอบอกเธอว่า เธอรักฉัน และให้ เธอคิดถึง me.
เธอขอร้องฉันให้กลับมาประเทศไทยให้กับเธอ เธอบอกฉันเธอต้องแต่งผม ภรรยา และครอบครัวเริ่ม
ฉันไม่ว่างมาก ด้วยโมเดลและงานโทรทัศน์ และอาจไม่กลับ แต่เธอขอร้องฉันกลับได้
ฉันพลาดเธอเกินไป และในที่สุดฉันลาออกจากตำแหน่งการฟอร์มบริษัทสร้างโมเดลที่จะกลับไปประเทศไทยจะอยู่กับเธอ (เจ้านาย) ของฉันแทนที่บริษัทร้อง เพราะผมต้องการปล่อย และไม่กลับมา ฉันเริ่มต้นขึ้น "ชื่อ" กับการสร้างโมเดล และงานโทรทัศน์และเธอบอกฉันว่า ฉันสามารถเป็นเป็นดาราถ้าน้ำในแอฟริกาใต้ ผมว่า ไม่มี...อยากจะอยู่กับ Da.

ไปประเทศไทยในเดือนธันวาคมปี 2004 และเธออยากจะแต่งงานเร็ว ๆ นี้เป็นไป
ฉันไม่กลัว และรู้สึกดีเกี่ยวกับการแต่งงานผมว่าใช่
นาง phoned แม่ของเธอในการจัดงานแต่งงาน และเราไปหมู่บ้านของเธอ และมี marries ในวันปีใหม่ 2005 มันเป็นเพียงพุทธแต่งงานแต่หมู่บ้านทั้งหมดได้มี
กระดาษไม่มีและไม่มีอะไร "กฎหมาย"...สถานทูตไม่
น้อยผมทราบอะไรกำลังจะเกิดขึ้น...

เราไปพัทยาหลังจาก 2 วันที่บ้านของเธอ และหลังจากอีก 2 วันในพัทยา...เธอทิ้งฉัน
เธอได้ต่อสู้กับ และเพิ่งหาย ผมป่วย ด้วยความกังวล ฉัน phoned เธอ และเธอไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ของเธอ เธอมาอพาร์ทเมนท์คืนหนึ่งเมื่อผมไม่มี และทั้งหมดของเสื้อผ้าและอุปกรณ์อาบน้ำ
เธอ phoned ฉันหลังจาก 10 วัน และบอกฉันเธอไม่มีฉัน และรักฉัน แต่ถ้าฉันต้องการเธอกลับมา ได้ซื้อบ้านแม่ของเธอ ฉันบอกเธอได้หายไป และให้
ดังนั้น มีผม เพียงอย่างเดียว และ heartbroken อีกครั้ง แม้แต่เพื่อนของฉันถูกหัวเราะที่ฉัน เพราะสิ่งนี้ผู้หญิงบาร์ไม่ให้ me.
ผมโง่และขำน่า...
เคย humiliated ดังนั้นในชีวิตของฉัน เพราะสิ่งที่เธอได้ไป me.
ฉันได้ชีวิตทั้งหมดในแอฟริกาใต้ให้กับ her. .. และเธอโกหกฉันขโมยเงินของฉัน เธอไม่เคยดูแลเกี่ยวกับฉัน มันเป็นการโกหกทั้งหมดจะขโมยเงิน หายประมาณ 125000 บาท หัวใจ และศักดิ์ศรีของฉัน

ทำไมผมไม่เคยบอกคุณเกี่ยวกับดา?
มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากพูด และฉันอายที่จะพูดคุยเกี่ยวกับการใช้งาน
เวลาถูกยังไม่บอกคุณ และก็เวลาในชีวิตอีกครั้งเกี่ยวกับความรักเศร้ามาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในที่สุดเธอบอกผมว่าถ้าเธอไม่สามารถเห็นและเข้าไปด้วย ชื่อของเธอคือ da .
เราจะเริ่มบางช่วงเวลาร่วมกันแม้เธอก็คือ"การทำงาน"..
ฉันเห็นเธอทุกครั้งที่ผมกลับมายังประเทศไทย ผมก็ชอบของเธอแต่เธออยากจะใช้ช่วงเวลาที่มากกว่าและมากขึ้นด้วยผม.
ในที่สุดผมรู้สึกได้ถึงการเข้าพักในความรักกับเธอเพราะสิ่งที่เธอได้ทำให้ผมและคนที่เธอได้ไม่อายจนไม่ได้ด้วยผม ใช่..และเธอยังสาวบาร์

เมื่อผมกลับไปแอฟริกาใต้สำหรับการทำงานเธอส่งข้อความทุกวันบอกผมว่าเธอไม่เคยรักใครมาก่อนแต่ที่หัวใจของเธอก็บอกว่าเธอรักฉันและฉันก็ว่าเธอไม่ได้
เธอขอร้องให้กลับมายังประเทศไทยเพื่อได้อยู่กับเธอ เธอบอกว่าผมว่าเธอต้องการที่จะได้แต่งงานกับฉันเป็น ภรรยา ของผมและเริ่มดำเนินการในแบบครอบครัวที่.
ผมก็ยุ่งมากอยู่กับงานทีวีและการสร้างแบบจำลองและไม่สามารถกลับไปแต่เธอขอร้องให้ผมกลับมา.
ฉันคิดถึงเธอมากเกินไปและในที่สุดผมขอลาออกจากตำแหน่งโดยรูปแบบการสร้างแบบจำลองของบริษัทที่จะกลับไปยังประเทศไทยจะได้อยู่กับเธอ Agent ของฉัน(หัวหน้า)ที่บริษัทฯร้องเพราะผมต้องการออกไปให้และไม่ได้กลับมาผมก็เริ่มกลายเป็น"มีชื่อเสียง"พร้อมด้วยทำงานทีวีและการสร้างแบบจำลองและเธอบอกผมว่าผมจะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งถ้าผมอยู่ในแอฟริกาใต้ ผมว่าไม่ใช่..ผมอยากจะอยู่กับ Da .

ผมก็กลับไปประเทศไทยในเดือนธันวาคม 2004 และเธออยากจะแต่งงานในทันทีเป็นไปได้
ผมก็กลัวเหมือนกันไม่ได้และความรู้สึกดีที่เกี่ยวกับการแต่งงานกับฉันจึงบอกว่าใช่แล้ว.
เธอก็โทรหาคุณแม่ของเธอในการจัดเตรียมการจัดงานแต่งงานและเราก็ไปเพื่อไปยังหมู่บ้านของเธอและมีประเพณีในวันปีใหม่ของปี 2005 เป็นทางพระพุทธศาสนาแต่การจัดงานแต่งงานที่ทั้งหมู่บ้านก็มี.
ไม่มีเอกสารและไม่มีอะไร "legal" ...ไม่มีสถานทูต.
ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...

เราก็กลับไปเพื่อไปยังพัทยาหลังจากนั้น 2 วันนับแต่วันที่กลับบ้านและหลังจากนั้นอีก 2 วันในพัทยา...เธอไปทางซ้ายผม.
เธอมีการต่อสู้กับเราแล้วหายตัวไป ผมก็ไม่สบายกับความกังวล ผมก็โทรหาเธอและเธอก็ไม่รับโทรศัพท์ของเธอ นางมาถึงอพาร์ทเมนท์ที่คืนหนึ่งเมื่อผมไม่ได้อยู่ที่นั่นและอุปกรณ์ในห้องสุขาและเสื้อผ้าของเธอทั้งหมด.
เธอก็โทรหาผมหลังจากผ่านไปประมาณ 10 วันและบอกผมว่าเธอไม่ได้รับฉันและรักเราแต่ถ้าผมอยากให้เธอได้กลับมาฉันต้องไปซื้อบ้านที่แม่ของเธอ ผมบอกเธอว่าจะหายไปและออกจากผมคนเดียว
ดังนั้นจึงมีฉันอยู่คนเดียวและระทมใจอีกครั้ง แม้เพื่อนของผมก็หัวเราะผมเพราะว่าผู้หญิงบาร์แห่งนี้ก็ให้
ผมเป็นคนโง่และไร้เดียงสา
ไม่เคยเลยที่จะมีการลบหลู่ดูหมิ่นในชีวิตของผมด้วยเพราะสิ่งที่เธอทำกับผม.
ผมให้ชีวิตของฉันในแอฟริกาใต้ให้ได้อยู่กับเธอและเธอโกหกให้ผมและขโมยเงินของฉัน เธอไม่เคยสนใจเกี่ยวกับผม มันเป็นเรื่องโกหกการขโมยเงินฉันลืมเกี่ยวกับ 125000 บาท,หัวใจของฉันและศักดิ์ศรี.

ทำไมผมไม่เคยแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับ da หรือไม่?
ไม่ใช่สิ่งที่ผมชอบพูดถึงเรื่องและผมไม่ชอบพูดถึงมัน.
ที่เวลาและยังไม่ได้อยู่ในการบอกให้คุณและมันเป็นเรื่องเศร้าเป็นอย่างมากในชีวิตผมอีกครั้งเกี่ยวกับความรัก.