Regarding the canteen waste, the gr

Regarding the canteen waste, the greatest fraction was organic
matter in both periods, with an average value of 61.03% in wet
weight in the first period and 72.33% in the second period (Table 3),
the reason being that food waste is mainly generated in the canteens.
These food waste contained unavoidable trimmings (fruit
and vegetable peelings, etc.), although some of them were food
scraps that were left by diners. Therefore, it would be important
to adapt food portions in order to minimize food waste generated
at canteens. The second fraction generated is dirty paper (13.99%
and 14.22% for the two periods, respectively) that comes from
tablecloths and napkins. These results are similar to those obtained
by Mason et al. (2004) and Armijo de Vega et al. (2008) in their
research for the same waste stream. Furthermore, the percentage
of glass is smaller than the percentage of plastics and metals, as
plastic packaging and beverage cans are used more often than glass
bottles in the canteens. Finally, hazardous as well as inert waste
represents the smallest fraction and the two types are collected
separately.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกี่ยวกับอาหารขยะ เศษส่วนมากที่สุดคืออินทรีย์สำคัญในช่วงเวลาทั้งสอง มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 61.03 ในเปียกน้ำหนักในช่วงแรกและ 72.33% ในรอบสอง (ตาราง 3),เหตุผลที่อาหารเสียเป็นส่วนใหญ่สร้างขึ้นในโรงอาหารอาหารเหลือทิ้งเหล่านี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ตัด (ผลไม้อยู่และพีลลิ่งผัก ฯลฯ), แม้ว่าบางส่วนของพวกเขามีอาหารเศษที่ถูกทิ้งตามร้าน ดังนั้น มันจะเป็นสิ่งสำคัญปรับอาหารบางส่วนเพื่อลดอาหารขยะที่สร้างขึ้นที่โรงอาหาร สร้างเศษส่วนสองเป็นกระดาษสกปรก (13.99%14.22% สำหรับสองรอบระยะเวลา ตามลำดับ) ที่มาจากผ้าปูโต๊ะและผ้าเช็ดปาก ผลลัพธ์เหล่านี้จะคล้ายกับที่ได้รับโดย Mason et al. (2004) และ Armijo de Vega et al. (2008) ในของพวกเขาวิจัยสำหรับขยะเหมือนกัน นอกจากนี้ เปอร์เซ็นต์แก้วที่มีขนาดเล็กกว่าเปอร์เซ็นต์ของพลาสติกและโลหะ เป็นใช้พลาสติกบรรจุภัณฑ์และเครื่องดื่มกระป๋องมากกว่าแก้วขวดในโรงอาหาร ในที่สุด ขยะอันตราย เป็นเฉื่อยแสดงเศษส่วนที่มีขนาดเล็กและชนิดสองมีการรวบรวมแยกต่างหาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกี่ยวกับการเสียโรงอาหาร, ส่วนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคืออินทรีย์
ไม่ว่าในช่วงเวลาที่ทั้งสองมีค่าเฉลี่ย 61.03% ในเปียก
น้ำหนักในช่วงแรกและ 72.33% ในช่วงที่สอง (ตารางที่ 3)
เหตุผลที่ว่าเศษอาหารจะถูกสร้างขึ้นส่วนใหญ่ ในโรงอาหาร.
เศษอาหารเหล่านี้มีการตัดหลีกเลี่ยงไม่ได้ (ผลไม้
ผักและเปลือก ฯลฯ ) แม้ว่าบางส่วนของพวกเขาเป็นอาหาร
เศษที่เหลือจากการรับประทานอาหาร ดังนั้นจึงจะมีความสำคัญ
ในการปรับตัวส่วนของอาหารเพื่อลดของเสียจากอาหารที่สร้างขึ้น
ที่โรงอาหาร ส่วนที่สองคือสร้างกระดาษสกปรก (13.99%
และ 14.22% ในสองช่วงเวลาตามลำดับ) ที่มาจาก
ผ้าปูโต๊ะและผ้าเช็ดปาก ผลลัพธ์เหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับผู้ที่ได้รับ
โดย Mason et al, (2004) และ Armijo de Vega et al, (2008) ของพวกเขาใน
การวิจัยสำหรับกระแสเสียเดียวกัน นอกจากนี้ร้อยละ
ของกระจกมีขนาดเล็กกว่าร้อยละของพลาสติกและโลหะที่เป็น
บรรจุภัณฑ์พลาสติกและเครื่องดื่มกระป๋องจะใช้บ่อยกว่าแก้ว
ขวดในโรงอาหาร สุดท้ายของเสียอันตรายเช่นเดียวกับเฉื่อย
หมายถึงส่วนที่เล็กที่สุดและทั้งสองประเภทจะถูกเก็บรวบรวม
แยกต่างหาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกี่ยวกับโรงอาหารเสียเศษมากที่สุด คือ อินทรีย์ไม่ว่าในทั้งสองช่วงเวลา กับค่าเฉลี่ยของ 61.03 ในเปียกน้ำหนักในช่วงแรก และ XX.XX% ในระยะที่สอง ( ตารางที่ 3 )เหตุผลที่ทิ้งอาหารส่วนใหญ่สร้างขึ้นในโรงอาหาร .เหล่านี้อาหารขยะที่มีอยู่ย่อม trimmings ( ผลไม้กับเปลือกผัก ฯลฯ ) , แม้ว่าบางคนของพวกเขาเป็นอาหารเศษที่เหลือจากร้าน จึงเป็นสิ่งสำคัญปรับอาหารบางส่วน เพื่อลดขยะ อาหารที่สร้างขึ้นที่โรงอาหาร . ส่วนที่สองที่เป็นกระดาษสกปรก ( 13.99 %14.22 เปอร์เซ็นต์และ 2 ช่วงเวลา ตามลำดับ ) ที่มาจากtablecloths และผ้าเช็ดปาก ผลลัพธ์เหล่านี้จะคล้ายกับผู้ที่ได้รับโดยเมสัน et al . ( 2004 ) และ armijo de Vega et al . ( 2008 ) ในพวกเขาการวิจัยสำหรับกระแสเสียเหมือนกัน นอกจากนี้ ร้อยละกระจกมีขนาดเล็กกว่าเปอร์เซ็นต์ของพลาสติก และโลหะ เช่นบรรจุภัณฑ์พลาสติกและกระป๋องเครื่องดื่มที่ใช้บ่อยกว่าแก้วขวดในโรงอาหาร . ในที่สุดอันตรายรวมทั้งเฉื่อยเสียหมายถึงส่วนที่เล็กที่สุดและสองประเภทรวบรวมแยกต่างหาก