Magnus effectFrom Wikipedia, the fr

Magnus effect
From Wikipedia, the free encyclopedia

The Magnus effect, depicted with a backspinning cylinder or ball in an airstream. The arrow represents the resulting lifting force. The curly flow lines represent a turbulent wake. The airflow has been deflected in the direction of spin.
The Magnus effect is the commonly observed effect in which a spinning ball (or cylinder) curves away from its principal flight path. It is important in many ball sports. It affects spinning missiles, and has some engineering uses, for instance in the design of rotor ships and Flettner aeroplanes.

In terms of ball games, top spin is defined as spin about a horizontal axis perpendicular to the direction of travel, where the top surface of the ball is moving forward with the spin. Under the Magnus effect, top spin produces a downward swerve of a moving ball, greater than would be produced by gravity alone, and back spin has the opposite effect.[1] Likewise side-spin causes swerve to either side as seen during some baseball pitches.[2]

The overall behaviour is similar to that around an airfoil (see lift force) with a circulation which is generated by the mechanical rotation, rather than by airfoil action.[3]

It is named for Gustav Magnus, the German physicist who investigated it. The force on a rotating cylinder is known as Kutta-Joukowski lift,[4] after Martin Wilhelm Kutta and Nikolai Zhukovsky (or Joukowski) who first analyzed the effect.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลักษณะพิเศษของแมกนัสจากวิกิพีเดีย สารานุกรมฟรีแมกนัสผล แสดงกับ backspinning กระบอกหรือลูกในเป็น airstream ลูกศรแสดงถึงการเกิดแรงยก เส้นหยักไหลแสดงปลุกปั่นป่วน ไหลของอากาศมีการ deflected ในทิศทางของการหมุนแมกนัสผลคือ ผลปกติที่พบในที่ การปั่นลูก (หรือรูปทรงกระบอก) โค้งออกจากเส้นทางการบินหลักของการ เป็นสิ่งสำคัญในกีฬาลูกมาก มันมีผลต่อการปั่นจรวด และมีบางส่วนใช้วิศวกรรม เช่นในการออกแบบใบพัดเรือและ Flettner aeroplanesในเกมบอล หมุนด้านบนถูกกำหนดเป็นหมุนเกี่ยวกับแกนแนวนอนตั้งฉากกับทิศทางของการเดินทาง ที่พื้นผิวด้านบนของลูกจะก้าวไปข้างหน้า ด้วยการหมุน ภายใต้ผลแมกนัส หมุนด้านบนทำให้เกิดการหักเลี้ยวลงของลูกเคลื่อน กว่าจะผลิต โดยแรงโน้มถ่วงเพียงอย่างเดียว และหมุนย้อนกลับมีผลตรงกันข้าม[1] เช่นเดียวกัน สาเหตุด้านหมุนหักเลี้ยวไปด้านใดด้านหนึ่งตามที่เห็นในบางสนามเบสบอล[2]พฤติกรรมโดยรวมจะคล้ายคลึงกับสถาน airfoil (ดูยกแรง) กับหมุนเวียนซึ่งสร้างขึ้น โดยการหมุนทางกล แทน โดย airfoil กระทำ[3]มันชื่อกุสตาฟแมกนัส physicist เยอรมันที่สอบสวนก็ เรียกแรงในกระบอกหมุนเป็น Kutta Joukowski ลิฟท์, [4] หลังจากมาร์ตินวิลเฮล์ม Kutta และนิโคไลแห่ง Zhukovsky (หรือ Joukowski) ที่แรก วิเคราะห์ผล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แมกนัสผลกระทบ
จากวิกิพีเดียสารานุกรมเสรีแมกนัสผลภาพด้วยกระบอกสูบ Backspinning ได้หรือลูกที่อยู่ในกระแส ลูกศรหมายถึงแรงยกที่เกิด สายไหลหยิกเป็นตัวแทนของการปลุกปั่นป่วน ไหลเวียนของอากาศได้รับการเบี่ยงเบนไปในทิศทางของการหมุน. แมกนัสผลเป็นผลที่มักพบในการที่ลูกปั่น (หรือถัง) โค้งออกไปจากเส้นทางการบินหลัก มันเป็นสิ่งสำคัญในการเล่นกีฬาลูกหลายคน มันมีผลต่อขีปนาวุธปั่นและวิศวกรรมบางใช้ตัวอย่างเช่นในการออกแบบใบพัดของเรือและเครื่องบิน Flettner. ในแง่ของเกมลูกหมุนด้านบนถูกกำหนดให้เป็นหมุนรอบแกนแนวนอนแนวตั้งฉากกับทิศทางของการเดินทางที่พื้นผิวด้านบน ของลูกที่มีการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าด้วยการหมุน ภายใต้ผลกระทบแมกนัสปินบนผลิตเลี้ยวลงของลูกย้ายมากกว่าจะได้รับการผลิตโดยแรงโน้มถ่วงเพียงอย่างเดียวและหมุนกลับมีผลตรงข้าม. [1] ในทำนองเดียวกันสาเหตุด้านหมุนหักเลี้ยวไปทั้งสองข้างเท่าที่เห็นในช่วงเบสบอลบาง โหมโรง. [2] พฤติกรรมโดยรวมจะคล้ายกับที่รอบ airfoil (ดูแรงยก) มีการไหลเวียนที่ถูกสร้างขึ้นโดยการหมุนกลมากกว่าโดยการกระทำ airfoil. [3] มันเป็นชื่อของกุสตาฟแมกนัสนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ที่ตรวจสอบมัน แรงในถังหมุนเป็นที่รู้จักกันยก Kutta-Joukowski [4] หลังจากที่มาร์ตินวิลเฮล์ Kutta และนิโคไล Zhukovsky (หรือ Joukowski) คนแรกที่วิเคราะห์ผลกระทบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แมกนัสผล
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ผล Magnus , ภาพที่มี backspinning กระบอกหรือลูกบอลในแอร์ รีม . ลูกศรแสดงผลอีกแรง เส้นการไหลหยิกเป็นตัวแทนปลุกป่วน ให้มีการเบี่ยงเบนไปในทิศทางของการหมุน
ผล Magnus เป็นปกติสังเกตผลที่ปั่นบอลโค้ง ( หรือกระบอก ) ห่างจากเส้นทางบินของอาจารย์ใหญ่ มันเป็นสิ่งสำคัญในกีฬาบอลมากมาย มันมีผลต่อการปั่น ขีปนาวุธ และมีบางสาขาที่ใช้ เช่นในการออกแบบเรือและเครื่องบินใบพัด flettner

ในแง่ของการเล่นเกมท็อปสปิน หมายถึง หมุนเป็นแนวนอนแกนตั้งฉากกับทิศทางของการเดินทางที่พื้นผิวด้านบนของลูกบอลจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการปั่น ภายใต้ผล Magnus , ท็อปสปินผลิตหักเลี้ยวลงบอลเคลื่อนมากกว่าจะถูกผลิตโดยแรงโน้มถ่วงอยู่คนเดียว และกลับมาปั่นได้ผลตรงกันข้าม[ 1 ] ในทำนองเดียวกันข้างหมุนหักเลี้ยวไปด้านใดด้านหนึ่งให้เห็นระหว่างสนามเบสบอล [ 2 ]

พฤติกรรมโดยรวมคล้ายกับรอบแบบ ( ดูแรงยก ) ที่มีการไหลเวียนซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยการหมุนเชิงกลมากกว่าด้วยแบบการกระทำ [ 3 ]

มันเป็นชื่อสำหรับ กุสตาฟ แม็กนัส ชาวเยอรมัน นักฟิสิกส์ที่สอบสวนแล้วแรงในการหมุนกระบอกเรียกว่าคุททา joukowski ยก [ 4 ] หลังจากที่มาร์ติน วิล และ นิโคไล zhukovsky คุททา ( หรือ joukowski ) คนแรกที่วิเคราะห์ผล