ประวัติแฟชั่นเสื้อผ้า แฟชั่น เป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษว่า fashion ราชบั การแปล - ประวัติแฟชั่นเสื้อผ้า แฟชั่น เป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษว่า fashion ราชบั ไทย วิธีการพูด

ประวัติแฟชั่นเสื้อผ้า แฟชั่น เป็นคำ

ประวัติแฟชั่นเสื้อผ้า
แฟชั่น เป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษว่า fashion ราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายของคำนี้ว่า “สมัยนิยมหรือวิธีการที่นิยมกันทั่วไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง” เป็นการยอมรับจนเกิดเป็นค่านิยม มีกระบวนการเกิดภาษาใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากคำว่า “วิวัฒนาการ” ที่ทฤษฎีของ ชาร์ลส์ ดาร์วินระบุไว้ว่าวิวัฒนาการ คือ การเปลี่ยนแปลงที่ต้องใช้เวลายาวนานและสามารถถ่ายทอดสิ่งนั้นไปสู่ลูกหลานได้ โดยมากแล้วคำว่าแฟชั่น มักมีความหมายเกี่ยวกับการแต่งตัว
ประวัติ
เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่มุนษย์ต้องการในการดำรงชีวิตเพื่อปกปิดร่างกายและให้ความอบอุ่น ความเจริญของมนุษย์ทำให้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เสื้อผ้ายังบ่งบอกถึงลักษณะของผู้สวมใส่ได้ด้วย เช่น ฐานะ, เชื้อชาติ, ฯลฯ การพัฒนาของแฟชั่นในแต่ละยุคสมัยแตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น การเมือง, เศรษฐกิจ, ภูมิอากาศ, ฯลฯ ในศตวรรษที่ 20 แฟชั่นโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะปี ค.ศ. 1920 – 1930 หรือเรียกว่ายุค แฟลปเปอร์ (Flapper) ผู้หญิงสวมกระโปรงสั้นเป็นครั้งแรก และหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้หญิงต้องออกจากบ้านเพื่อทำงานหาเลี้ยงชีพ ดังนั้นเสื้อผ้าที่สวมใส่ย่อมเปลี่ยนไปเพื่อเอื้อประโยชน์ในผู้สวมใส่มากขึ้น กางเกงจึงเป็นที่นิยม ตั้งแต่ยุคแฟลปเปอร์เป็นต้นมา แฟชั่นของโลกได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นสากล เพราะการติดต่อสื่อสารของโลกตะวันตกและตะวันออกเป็นได้เปิดกว้างมากขึ้น มีการไปมาหาสู่กัน แฟชั่นของโลกตะวันตกจึงเข้ามามีบทบาทกับโลกตะวันออก เช่น คนไทยรณรงค์ให้สวมหมวก หรือ ผู้หญิงไทยเลิกสวมโจงกะเบน เพื่อความเป็นสากล ลักษณะหรือแบบแผนของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของแต่ละยุคสมัย เรียกว่า สไตล์ (Style) แต่ละคนมีสไตล์การแต่งตัวไม่เหมือนกัน เช่น บางคนชอบแต่งตัวสไตล์ พั้งค์ (Punk) หรือเด็กสาวๆชอบสไตล์เซ็กซี่ ที่ฝรั่งเรียกว่า ราซี่ (Racy or Provocative) ส่วนคำว่า เทรนด์ (Trend) คือ แฟชั่นล่าสุด ที่กำลังเป็นที่นิยม สไตล์การแต่งตัวสามารถจำแนกได้เป็นประเภทนับไม่ถ้วน ต่อไปนี้เป็นสไตล์เด่นๆ หลักๆ ที่เป็นที่นิยมในอดีตจนปัจจุบัน บางสไตล์ถือว่าล้าสมัยไปแล้วในปัจจุบัน บางสไตล์ถือว่าเป็นคลาสสิค เพราะแต่งเมื่อไร ก็ไม่ถูกมองว่าเชยหรือตกรุ่น อย่างไรก็ตามยังมีบางสไตล์ที่เคยล้าสมัยไปแล้วอาจเวียนกลับมาเทรนด์อีกครั้ง
Western / Cowboy or Cowgirl คาวบอย / ตะวันตก
Punk พั้งค์
Preppie เพรปปี้
Futuristic อวกาศ / อนาคต
Hippie ฮิปปี้
Mod ม็อด
Flapper แฟลปเปอร์
Disco ดิสโก้
New Wave นิวเวฟ
Goth / Gothic โกธิค
Equestrian / Fox Hunting / Jockey จ็อคกี้ / พวกนิยมขี่ม้า
Biker นักซิ่ง / เด็กแว๊น (ของฝรั่ง)
Boho-Chic / Boho-Hippie โบโฮ
โลลิตา สาวน้อยใสๆ สไตล์ญี่ปุ่น
Eveningwear / Black Tie ชุดราตรี
Hipster / Indie อินดี้
Hip Hop ฮิปฮอป
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติแฟชั่นเสื้อผ้า แฟชั่นเป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษว่าแฟชั่นราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายของคำนี้ว่า "สมัยนิยมหรือวิธีการที่นิยมกันทั่วไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง" เป็นการยอมรับจนเกิดเป็นค่านิยมมีกระบวนการเกิดภาษาใหม่ซึ่งเป็นช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นซึ่งแตกต่างจากคำว่า "วิวัฒนาการ" ที่ทฤษฎีของชาร์ลส์ดาร์วินระบุไว้ว่าวิวัฒนาการคือการเปลี่ยนแปลงที่ต้องใช้เวลายาวนานและสามารถถ่ายทอดสิ่งนั้นไปสู่ลูกหลานได้โดยมากแล้วคำว่าแฟชั่นมักมีความหมายเกี่ยวกับการแต่งตัวประวัติ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่มุนษย์ต้องการในการดำรงชีวิตเพื่อปกปิดร่างกายและให้ความอบอุ่นความเจริญของมนุษย์ทำให้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยเสื้อผ้ายังบ่งบอกถึงลักษณะของผู้สวมใส่ได้ด้วยเช่นฐานะ เชื้อชาติ ฯลฯ การพัฒนาของแฟชั่นในแต่ละยุคสมัยแตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างเช่นการเมือง เศรษฐกิจ ภูมิอากาศ ฯลฯ ในศตวรรษที่ 20 แฟชั่นโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะปีค.ศ. 1920 – 1930 หรือเรียกว่ายุคแฟลปเปอร์ (วัยรุ่น) ผู้หญิงสวมกระโปรงสั้นเป็นครั้งแรกและหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำผู้หญิงต้องออกจากบ้านเพื่อทำงานหาเลี้ยงชีพดังนั้นเสื้อผ้าที่สวมใส่ย่อมเปลี่ยนไปเพื่อเอื้อประโยชน์ในผู้สวมใส่มากขึ้นกางเกงจึงเป็นที่นิยมตั้งแต่ยุคแฟลปเปอร์เป็นต้นมาแฟชั่นของโลกได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นสากลเพราะการติดต่อสื่อสารของโลกตะวันตกและตะวันออกเป็นได้เปิดกว้างมากขึ้นมีการไปมาหาสู่กันแฟชั่นของโลกตะวันตกจึงเข้ามามีบทบาทกับโลกตะวันออกเช่นคนไทยรณรงค์ให้สวมหมวกหรือผู้หญิงไทยเลิกสวมโจงกะเบนเพื่อความเป็นสากลลักษณะหรือแบบแผนของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของแต่ละยุคสมัยเรียกว่าสไตล์ (สไตล์) แต่ละคนมีสไตล์การแต่งตัวไม่เหมือนกันเช่นบางคนชอบแต่งตัวสไตล์พั้งค์ (พังก์) หรือเด็กสาวๆชอบสไตล์เซ็กซี่ที่ฝรั่งเรียกว่าราซี่ส่วนคำว่า (ระบำ หรือเร้าใจ) เทรนด์ (Trend) คือแฟชั่นล่าสุดที่กำลังเป็นที่นิยมสไตล์การแต่งตัวสามารถจำแนกได้เป็นประเภทนับไม่ถ้วนต่อไปนี้เป็นสไตล์เด่น ๆ หลัก ๆ ที่เป็นที่นิยมในอดีตจนปัจจุบันบางสไตล์ถือว่าล้าสมัยไปแล้วในปัจจุบันบางสไตล์ถือว่าเป็นคลาสสิคเพราะแต่งเมื่อไรก็ไม่ถูกมองว่าเชยหรือตกรุ่นอย่างไรก็ตามยังมีบางสไตล์ที่เคยล้าสมัยไปแล้วอาจเวียนกลับมาเทรนด์อีกครั้งตะวันตก / คาวบอยคาวบอยหรือเกิร์ล / ตะวันตกพังค์พั้งค์คุณเพรปปี้ล้ำยุคอวกาศ / อนาคตฮิปปี้ฮิปปี้Mod ม็อดวัยรุ่นแฟลปเปอร์ดิสโก้ดิสโก้คลื่นลูกใหม่นิวเวฟชาวเยอรมัน / โกธิคโกธิคขี่ม้า / Fox ล่าสัตว์จ๊อกกี้จ็อคกี้ / พวกนิยมขี่ม้านักขี่จักรยานนักซิ่ง / เด็กแว๊น (ของฝรั่ง)แกรนดิออร์เก๋ / โบโฮฮิปปี้แกรนดิออร์โลลิตาสาวน้อยใส ๆ สไตล์ญี่ปุ่นEveningwear / ดำผูกชุดราตรีฮิปสเตอร์ / อินดี้อินดี้Hip Hop ฮิปฮอป
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติแฟชั่นเสื้อผ้า
แฟชั่นเป็นคำที่มาจากเนชั่ภาษาอังกฤษว่าได้แฟชั่นราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายของคำนี้ ว่า "สมัยนิยมหรือวิธีการที่นิยมกัน ทั่วไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง " เป็นการยอมรับจนเกิดเป็นค่านิยมมี กระบวนการเกิดภาษาใหม่ซึ่ง เป็นช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นซึ่งแตกต่าง จากคำว่า "วิวัฒนาการ" ที่ทฤษฎีของชาร์ลส์ดาร์ วินระบุไว้ว่าวิวัฒนาการคือการเปลี่ยนแปลงที่ต้องใช้เวลายาวนานและสามารถถ่ายทอดสิ่งนั้นไปสู่ลูกหลานได้โดยมากแล้วคำว่า แฟชั่นมักมีความสามารถหมายเกี่ยวกับหัวเรื่อง: การแต่งตัว
ประวัติ
เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่มุนษย์ต้องการในการ ดำรงชีวิตเพื่อปกปิดร่างกายและให้ความอบอุ่นความเจริญของมนุษย์ทำให้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เสื้อผ้ายังบ่งบอกถึงลักษณะของผู้ สวมใส่ได้ด้วยเช่นฐานะ , เชื้อชาติ, ฯลฯ การพัฒนาของแฟชั่นในแต่ละยุค สมัยแตกต่างกันมากขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างเช่นการเมือง , เศรษฐกิจ, ภูมิอากาศ, ฯลฯ ในศตวรรษที่ 20 แฟชั่นโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะปี ค.ศ. 1920 - 1930 หรือเรียกว่ายุคแฟลปเปอร์ (วัยรุ่น) ผู้หญิงสวมกระโปรงสั้นเป็นครั้งแรกและ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำผู้หญิงต้องออกจาก บ้านเพื่อทำงานหาเลี้ยงชีพดังนั้นเสื้อผ้าที่สวมใส่ย่อมเปลี่ยนไปเพื่อ เอื้อประโยชน์ในผู้สวมใส่มากขึ้น กางเกงจึงเป็นที่นิยมตั้งแต่ยุคแฟลปเปอร์เป็นต้นมาแฟชั่นของโลกได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นสากลเพราะการติดต่อสื่อสารของโลกตะวันตกและตะวันออกเป็นได้เปิดกว้างมากขึ้นมีการไปมา หาสู่กันแฟชั่นของโลกตะวันตกจึง เข้ามามีบทบาทกับโลกตะวันออกเช่นคนไทยรณรงค์ให้สวมหมวกหรือผู้หญิงไทยเลิกสวมโจงกะเบนเพื่อความเป็นสากลลักษณะหรือแบบแผนของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของแต่ละยุคสมัยเรียกว่าสไตล์ (แบบ) แต่ละคนมีสไตล์การแต่งตัวไม่เหมือน กันเช่นบางคนชอบแต่งตัวสไตล์พั้งค์ (Punk) หรือเด็กสาว ๆ ชอบสไตล์เซ็กซี่ที่ ฝรั่งเรียกว่าราซี่ (Racy หรือยั่วยุ) ส่วนคำว่าเทรนด์ (Trend) คือแฟชั่นล่าสุดที่กำลังเป็นที่นิยม สไตล์การแต่งตัวสามารถจำแนกได้เป็นประเภทนับไม่ถ้วนต่อไปนี้เป็นสไตล์เด่น ๆ หลัก ๆ ที่เป็นที่นิยมในอดีตจนปัจจุบันบางสไตล์ถือว่าล้าสมัยไปแล้วในปัจจุบันบางสไตล์ถือว่าเป็นคลาสสิคเพราะ แต่งเมื่อไรก็ไม่ถูกมองว่าเชย หรือตกรุ่นอย่างไรก็ตามยังมีบางสไตล์ที่เคยล้าสมัยไปแล้วอาจเวียนกลับมาเทรนด์อีกครั้ง
/ ตะวันตกคาวบอยหรือ Cowgirl คาวบอย / ตะวันตก
พังค์พั้งค์
Preppie เพรปปี้
อนาคตอวกาศ / อนาคต
ฮิปปี้ฮิปปี้
Mod ม็อด
ลูกนกแฟลปเปอร์
ดิสโก้ดิสโก้
คลื่นลูกใหม่นิวเวฟ
Goth / โกธิคโกธิค
ขี่ม้าฟ็อกซ์ / ล่าสัตว์ / Jockey จ็อคกี้ / พวกนิยมขี่ม้า
Biker นักซิ่ง / เด็กแว๊น (ของฝรั่ง)
Boho -Chic / Boho ฮิปปี้โฮโบ
โลลิคุณตาสาวน้อยตั้งขึ้นใส ๆ สไตล์ญี่ปุ่น
Eveningwear / ไทสีดำชุดราตรี
Hipster / อินดี้อินดี้
ฮิปฮอปฮิปฮอป
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: