Public–private partnerships (PPP) a

Public–private partnerships (PPP) are considered as alternatives to full privatisation2 in which government and private companies assume co-responsibility and co-ownership for the delivery of city services. Through these partnerships, the advantages of the private sector—dynamism, access to finance, knowledge of technologies, managerial efficiency, and entrepreneurial spirit—are combined with the social responsibility, environmental awareness, local knowledge and job generation concerns of the public sector. Under mutually favourable circumstances it is advantageous to have both the public and the private sectors playing active roles, thus capitalising on the strengths of each sector.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หุ้นส่วนรัฐเอกชน (PPP) จะถือว่าเป็นตัวเลือก privatisation2 เต็มในรัฐบาลและบริษัทเอกชนที่คิด co-responsibility และ co-ownership สำหรับการจัดส่งบริการซิตี้ โดยหุ้นเหล่านี้ ข้อดีของภาคเอกชน — ถึง finance สามัคคี ความรู้เทคโนโลยี efficiency บริหารจัดการ และจิตวิญญาณผู้ประกอบการ — กับสังคม ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม ความรู้ท้องถิ่น และงานสร้างปัญหาของภาครัฐ ภายใต้สถานการณ์ที่ดีซึ่งกันและกัน ได้ประโยชน์ให้ประชาชนและภาคเอกชนที่เล่นบทบาททำงานอยู่ ดังนั้น capitalising บนจุดแข็งของแต่ละภาค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความร่วมมือภาครัฐและเอกชน (PPP) ถือเป็นทางเลือกในการ privati​​sation2 เต็มรูปแบบในการที่รัฐบาลและ บริษัท เอกชนถือว่าร่ว​​มรับผิดชอบและร่วมเป็นเจ้าของสำหรับการส่งมอบบริการเมือง ผ่านความร่วมมือเหล่านี้ข้อได้เปรียบของภาคชีวิตชีวาส่วนตัวการเข้าถึงบำรุง fi, ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการขาดไฟ EF บริหารและผู้ประกอบการที่จิตวิญญาณจะรวมกันกับความรับผิดชอบต่อสังคม, ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม, ความรู้ในท้องถิ่นและความกังวลรุ่นการทำงานของภาครัฐ ภายใต้สถานการณ์ที่ดีร่วมกันมันเป็นประโยชน์ที่จะมีทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเล่นบทบาทจึงพะวงอยู่กับจุดแข็งของแต่ละภาค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เอกชนประชาชนห้างหุ้นส่วนจำกัด ( PPP ) จะถือว่าเป็นทางเลือกให้เต็ม privatisation2 ซึ่งรัฐบาลและบริษัทเอกชน ถือว่าความรับผิดชอบและความเป็นเจ้าของ Co Co จัดส่งบริการเมือง ผ่านพันธมิตรเหล่านี้ ข้อดีของภาคเอกชน : การเข้าถึงจึงแม่คู่ ความรู้ของเทคโนโลยีการจัดการประสิทธิภาพ EF จึง ,และผู้ประกอบการจะรวมกับความรับผิดชอบต่อสังคม การรับรู้สิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญา และความกังวลรุ่นงานของภาครัฐ ภายใต้สถานการณ์ร่วมกันที่ดีเป็นประโยชน์มีทั้งภาครัฐและเอกชน การเล่นบทบาทปราดเปรียวจึง capitalising บนจุดแข็งของแต่ละภาค