คริสตินได้สูญเสียพ่อและแม่จนต้องมาอยู่ที่โรงอุปรากรการ์นิเย่ มีโอกาสได้รับการสอนร้องเพลงจากครูที่ลึกลับที่เห็นพรสวรรค์ของเธอ ซึ่งเธอเรียกเขาว่า "เทวดาแห่งบทเพลง" เพราะความลึกลับและน้ำเสียงที่ไพเราะยิ่งกว่าเสียงของมนุษย์คนใดในโลกที่เธอเคยได้ยินได้ฟัง จากการเคี่ยวเข็ญอย่างจริงจัง ในที่สุดเธอก็เก่งพอที่จะขึ้นร้องเพลงแทนคาล๊อตต้าที่ป่วยได้ ซึ่งเหตุการณ์นั้นประจวบกับที่เคาท์ฟิลลิปป์ได้เข้ามาเป็นผู้อุปถัมป์โรงละครทำให้ราอูลซึ่งเป็นน้องชายของท่านเคาท์และเพื่อนวัยเด็กของเธอเกิดจำเธอได้และเข้ามาเชื่อมความสัมพันธ์กับเธอ เหตุการณ์นี้ทำให้อีริคอิจฉาและกลัวว่าจะถูกทิ้งจึงมาแนะนำตัวกับเธอในคืน ๆ หนึ่งและพาเธอไปที่บ้านของเขา และสารภาพรัก ระหว่างที่ร้องเพลงประสานเสียงกันนั้นเอง คริสตินอดทนต่อความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้และถอดหน้ากากเขาออก ทำให้เธอได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเทวดาของเธอไม่ใช่เทพจากสวรรค์อย่างที่วาดฝันไว้ แต่เป็นชายอัปลักษณ์ที่น่าสังเวชซึ่งถูกสังคมทารุณจนกลายเป็นคนเสียสติ คริสตินหวาดกลัวและขอร้องให้เขาปล่อยเธอไปซึ่งเขาก็ยอมตามโดยมีข้อแม้ว่าจะไม่บอกใครเรื่องของเขาและจะติดต่อกับเขาตามปกติ
ต่อมาราอูลได้แอบได้ยินคริสตินกับอีริคคุยกันในห้องแต่งตัว ด้วยความหึง (เพราะเสียงของอีริคไพเราะอ่อนหวานมาก) จึงพยายามสืบหาว่าคริสตินแอบพบกับใครเป็นการลับ ๆ กันแน่ จนกระทั่งในงานราตรีหน้ากาก เมื่อคริสตินพาราอูลออกจากงานเลี้ยงเพราะอีริคได้ปรากฏตัวในคราบ "มัจจุราชแดง" (the red death) เขาจึงคาดคั้นเอากับเธอและรู้ความจริงว่าภายใต้ชุดมัจจุราชแดงนั้นคือคนบ้า-อัปลักษณ์ (ไม่ใช่หนุ่มน้อยรูปงามอย่างที่กลัว) ที่มีความเป็นอัจฉริยะในตัว ทำให้เขาสบายใจและบอกเธอว่าจะปกป้องเธอ ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจจะรักกัน และทำให้อีริคที่แอบฟังอยู่เสียใจมาก การพยายามค้นหาความจริงทำให้ราอูลได้รู้เรื่องราวของอิริคจากชายลึกลับชาวเปอร์เซีย ส่วนอีริคนั้น เมื่อทนต่อความเสียใจและอุปสรรคที่บีบเข้ามาทุกทางไม่ได้ อีริคก็ลักพาคริสตินไปขังไว้ในบ้านเขาและขอร้องไปจนถึงบังคับให้เธอเลือกเขา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มีคนตายมายมายจากการกระทำของอีริคซึ่งระหว่างนั้นเคาท์ฟิลลิปป์ก็เป็นหนึ่งในคนที่ตายด้วย (แต่ตายเพราะอุบัติเหตุ) ทำให้ราอูลตัดสินใจตามหาเขาเพื่อช่วยคริสตินและล้างแค้น
แต่แล้วในที่สุด อีริคก็ได้ไปพบชายชาวเปอร์เซียที่บ้านซึ่งขณะนั้นโกรธมากเพราะคิดว่าคริสตินกับราอูลคงถูกอีริคที่ขาดสติฆ่าทิ้งไปแล้ว และบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้ชายชาวเปอร์เซียเข้าใจในความรักที่อีริคมีต่อคริสติน ซึ่งส่งผลให้อีริคตัดสินใจปล่อยเธอไปในที่สุด และระหว่างที่เล่าเรื่อง อีริคทนความซาบซึ้งไม่ได้และร้องไห้ออกมา เพราะเธอที่เขารักได้ก้มลงจูบหน้าผากของเขาอย่างไม่รังเกียจ ซึ่งทั้งหมดทำให้ชายที่พิการทั้งร่างกายและจิตใจได้รับความสุขอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรกในชีวิต หลังจากนั้นอีริคก็ล้มป่วยเพราะตรอมใจก่อนจะเสียชีวิตอย่างน่าสงสารในอีก 3 สัปดาห์ถัดมา