Retention is a continuous, widespre

Retention is a continuous, widespread concern of colleges and universities worldwide. A high rate of attrition can hurt an institution’s bottom line. The growth, sustenance, and ultimate survival of these institutions are determined by having a higher number of new enrollees and persisting students over the number of dropouts and stopouts. Exactly how to maintain that sustainable ratio continues to baffle academics and administrators alike. While there have been many suggested approaches, Tinto’s theory is perhaps most commonly referred to. Having its origins from Durkheim’s theory of suicide, Tinto’s Social Integration Theory proposed that a student’s persistence in a certain educational institution is determined by two main factors: academic integration and social integration. For faculty administrators, this suggests that their retention efforts place much of their focus on the two factors mentioned above

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเก็บรักษาเป็นอย่างต่อเนื่องความกังวลอย่างกว้างขวางจากวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั่วโลก อัตราที่สูงจากการขัดสีสามารถทำร้ายบรรทัดล่างของสถ​​าบัน การเจริญเติบโต, การดำรงชีวิตและความอยู่รอดที่ดีที่สุดของสถ​​าบันเหล่านี้จะถูกกำหนดโดยมีจำนวนที่สูงขึ้นของ enrollees ใหม่และ persisting นักเรียนหลาย dropouts และ stopoutsว่าวิธีการที่จะรักษาอัตราส่วนที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้ยุ่งเหยิงนักวิชาการและผู้ดูแลระบบเหมือนกัน ในขณะที่มีการแนะนำวิธีการหลายทฤษฎี Tinto คือบางทีเรียกกันมากที่สุด มีต้นกำเนิดจากทฤษฎี Durkheim ของการฆ่าตัวตายทฤษฎีบูรณาการ Tinto สังคมเสนอว่าการคงอยู่ของนักเรียนในสถาบันการศึกษาบางอย่างจะถูกกำหนดโดยสองปัจจัยหลัก: บูรณาการการศึกษาและบูรณาการทางสังคม สำหรับผู้บริหารคณะนี้แสดงให้เห็นว่ามีความพยายามเก็บรักษาของพวกเขาวางมากของการโฟกัสของพวกเขาในสองปัจจัยดังกล่าวข้างต้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คงเป็นปัญหาต่อเนื่อง การแพร่หลายของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั่วโลก อัตราความเร็วของ attrition สามารถทำร้ายสถาบันที่บรรทัดด้านล่าง เจริญเติบโต บวงสรวง และอยู่รอดที่ดีที่สุดของสถาบันเหล่านี้ถูกกำหนด โดยมีจำนวนสิทธิ์ใหม่สูง และ persisting นักเรียนจำนวนตกและ stopouts ว่าวิธีการรักษาอัตราส่วนที่ยั่งยืนยัง baffle นักวิชาการและผู้ดูแลที่เหมือนกัน ในขณะที่มีการแนะนำวิธีต่าง ๆ ทฤษฎีของ Tinto บางทีมักเรียกว่า มีกำเนิดจากทฤษฎีของ Durkheim ฆ่าตัวตาย ทฤษฎีบูรณาการทางสังคมของ Tinto เสนอว่า การคงอยู่ของนักศึกษาในสถาบันการศึกษาที่แน่นอนจะถูกกำหนด โดยปัจจัยหลักที่สอง: รวมทางวิชาการและทางสังคม สำหรับคณะผู้ดูแล นี้แนะนำว่า ความพยายามของพวกเขาคงทำมากของการโฟกัสในปัจจัยสองที่กล่าวถึงข้างต้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตัวยึดมีความวิตกอย่างต่อเนื่องของมหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั่วโลก อัตราที่สูงของการขัดสีสามารถทำร้ายสายด้านล่างของสถาบัน การอยู่รอดและเพื่อการยังชีพการขยายตัวของการกำกับสถาบันการเงินเหล่านี้ได้ถูกกำหนดโดยมีจำนวนสูงกว่าของผู้ลงทะเบียน)ลงใหม่และมิจฉาทิฐินักศึกษามากกว่าจำนวนของ stopouts และ dropoutsวิธีในการรักษาที่อัตราส่วนอย่างยั่งยืนจะยังคงแผงหน้าลำโพง,หน้ากากปิดแผงหน้านักวิชาการและผู้ดูแลระบบด้วยเช่นเดียวกัน ในขณะที่มีการวางแนวทางที่แนะนำหลายทฤษฎีของ tinto มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าจะอาจจะใช้กันอยู่ทั่วไป มีต้นกำเนิดจากทฤษฎีของ, Durkheim ของการฆ่าตัวตายการผนวกรวมเครือข่ายสังคมทฤษฎีของ tinto เสนอว่าวิริย ภาพ ของนักศึกษาในสถาบันการศึกษาบางอย่างที่จะถูกกำหนดโดยสองปัจจัยหลักการประกอบการศึกษาและการผนวกรวมเครือข่ายสังคม สำหรับผู้ดูแลระบบคณะนี้เสนอว่าความพยายามของพวกเขายึดที่ให้ความสำคัญของพวกเขาในสองปัจจัยที่กล่าวไว้ข้างต้น