IntroductionIn real life, it is not

Introduction
In real life, it is not uncommon for inventory items, such as milk, fruit, blood, pharmaceutical product, vegetables etc, to decay or deteriorate over time. Therefore, it is important to study the behavior of such decaying and deteriorating items, towards the formulation of appropriate inventory control policies that explicitly take such behavior into account.

Ghare and Schrader (1963) were the first authors to consider the effect of decay on inventory items. They used the term “inventory decay” to describe this phenomenon, including direct spoilage, physical depletion and deterioration. They developed a general EOQ type model under constant demand with exponential decay, which could be solved iteratively, but not directly. Covert and Philip (1973) and Tadikamalla (1978) extended Ghare and Schrader’s work to Weibull and gamma distribution based deterioration patterns, respectively. All of the above models assumed instantaneous replenishment and did not allow backorders or shortages. Misra (1975) developed EOQ type models with finite production rates, but did not allow backorders. His models include cases of varying and constant deterioration rates. Shah (1977) developed models for both exponential and Weibull deterioration cases, which allowed backorders albeit with instantaneous replenishment. Mak (1982) developed a production lot size inventory model with backorders for exponentially decaying items. Heng et al. (1991) integrated Misra’s and Shah’s approaches and developed a model for deteriorating items with finite production rate and backorders.

Deterioration inventory model research has received increasing attentions in recent years, extending existing models with a variety of deterioration patterns, demand functions and backordering policies. In most cases, deterioration is assumed to be a constant fraction of total on-hand inventory. The Weibull distribution has been used to model item decay (Chakrabarty et al., 1998), and some attention has been focused on deteriorating items with expiration dates (Hsu et al., 2006 and Lo et al., 2007). Recent work in this area has considered time-varying as well as stock level and price dependent demands. Wee, 1993 and Wee, 1995, Hariga et al. (1997), Bhunia and Maiti (1998), Chung and Tsai (2001), Wang (2002), Balkhi (2004), Teng and Chang (2005), Yang (2005), Shah et al. (2005), Chang et al. (2006), Hou, 2006 and Hou, 2006, Wu et al. (2006), Manna and Chaudhuri (2006), Pal et al. (2006) and Lo et al. (2007) provide good examples of inventory models with different assumptions concerning the patterns of demand, deterioration and backordering.

Most existing inventory models for deteriorating items are EOQ type models and consider the different sub-systems in the supply chain independently. Although the notion of cooperation between suppliers and buyers has received more and more attention in the literature, few integrated inventory approaches for deteriorating items have been developed to date. Rau et al. (2003) develop a multi-echelon inventory model for a deteriorating item and derive the optimal joint total cost from an integrated perspective, including the supplier, the producer and the buyer. Yang and Wee (2003) develop a mathematical model for multi-item production lot sizing for deteriorating items.

As mentioned above, the existing literature suggests a variety of inventory models pertaining to deteriorating items. Few of them, however, have been developed explicitly for the JIT environment. Yang and Wee (2003) developed an integrated multi-product lot-size inventory model for deteriorating items in JIT environment. Both the lot-splitting of material from the supplier to producer, and the lot-splitting of finished good from producer to multiple buyers are considered. However, the optimal solutions are not given. Furthermore, the differential equations used in their paper are not in point any more when the number of buyers is small, such as 1. This paper considers the single-supplier, single-buyer case, involving a deteriorating inventory item in a JIT environment.

Almost all authors to date use calculus based approaches for solving the inventory models developed for deteriorating items. Such approaches become more complicated in the single-supplier, single-buyer case when cost functions for the supplier and buyer are derived separately. In fact, when a lot is delivered from the supplier to the buyer, at specified “delivery points”, the inventory level of the supplier changes suddenly and forms an inflexion on the supplier’s inventory function. These inflexions make it difficult to use classical optimization techniques. With the common assumption that the item’s deterioration rate is small and its square or higher powers can be neglected, this paper intends to derive the cost functions for the suppler, buyer and the entire supply chain and derive appropriate policies based on an algebraic method.

In short, this paper intends to fill a notable gap in the existing literature concerning inventory models for deteriorating items in JIT environments. It may also be seen as an extension and generalization of the recent work by Kim and Ha (2003).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำในชีวิตจริง มันไม่ใช่สำหรับสินค้าคงคลัง นม ผลไม้ เลือด ผลิตภัณฑ์ยา ผักฯลฯ การเสื่อมสลาย หรือเสื่อมสภาพช่วงเวลา ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญในการศึกษาพฤติกรรมดังกล่าวสลายและเสื่อมสภาพสินค้า ต่อการกำหนดนโยบายการควบคุมสินค้าคงคลังที่เหมาะสมที่มีพฤติกรรมดังกล่าวเข้าบัญชีอย่างชัดเจนGhare และ Schrader (1963) แรกผู้เขียนต้องพิจารณาผลของการผุในสินค้าคงคลัง พวกเขาใช้คำว่า "สินค้าคงคลังผุ" เพื่ออธิบายปรากฏการณ์นี้ รวมทั้งการเน่าเสียโดยตรง การลดลงของจริง และเสื่อมสภาพ พวกเขาพัฒนาเป็นแบบจำลองชนิด EOQ ทั่วไปภายใต้อุปสงค์คงที่กับผุเนน ซึ่งสามารถแก้ไขซ้ำ ๆ แต่ไม่โดยตรง แปลง และฟิลิป (1973) และ Tadikamalla (1978) ขยายงาน Ghare และของ Schrader Weibull และแกมมากระจายตามเสื่อมสภาพรูปแบบ ตามลำดับ ทั้งหมดของแบบจำลองข้างต้นสันนิษฐานเพิ่มเติมกำลัง และไม่อนุญาตให้ค้างหรือขาดแคลน Misra (1975) พัฒนา EOQ แบบจำลองชนิดราคาจำกัดผลิต แต่ไม่อนุญาตให้สินค้าค้างส่ง แบบจำลองของเขารวมถึงกรณีอัตราการเสื่อมสภาพแตกต่างกัน และคง ชาห์ (1977) พัฒนารูปแบบทั้งแบบเลขชี้กำลังและฟังก์ชัน Weibull เสื่อมสภาพกรณี ซึ่งได้รับอนุญาตค้างแม้ว่า มีการเพิ่มเติมกำลัง หมาก (1982) พัฒนาการผลิตล็อตขนาดจำลองสินค้าคงคลัง มีสินค้าค้างส่งสำหรับสร้างแหล่งสินค้า เฮงและ al. (1991) รวมวิธีของ Misra และชาห์ และพัฒนาแบบจำลองสำหรับสินค้าที่ มีอัตราการผลิตที่มีจำกัดและค้างที่เสื่อมสภาพวิจัยแบบจำลองสินค้าคงคลังเสื่อมสภาพ attentions เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา ขยายรูปที่มีอยู่ ด้วยหลากหลายรูปแบบเสื่อมสภาพ ฟังก์ชันความต้องการ และนโยบาย backordering รับ ในกรณีส่วนใหญ่ เสื่อมสภาพจะสรุปให้เป็นเศษส่วนคงที่ของสินค้าคงคลังคงเหลือทั้งหมด มีการใช้การแจกแจงแบบเวย์บูลแบบสินค้าผุ (Chakrabarty et al., 1998), และความบางได้แล้วเน้นกำลังทรุดลงสินค้าวันหมดอายุ (ซูและ al., 2006 และหล่อ et al., 2007) งานล่าสุดในพื้นที่นี้ได้พิจารณาระดับเวลาแตกต่างกัน เช่นหุ้นและราคาขึ้นอยู่กับความต้องการ วี 1993 และวี 1995, Hariga et al. (1997), Bhunia และ Maiti (1998), Chung และ Tsai (2001), วัง (2002), Balkhi (2004), เต็ง และช้าง (2005), ยาง (2005), ชาห์ et al. (2005), ช้าง et al. (2006), Hou, 2006 และ Hou, 2006, Wu et al. (2006), อาหารทิพย์ และ Chaudhuri (2006), Pal et al. (2006) และ al. et โล (2007) ให้ตัวอย่างของแบบจำลองสินค้าคงคลังกับสมมติฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบของความต้องการ , backordering และเสื่อมสภาพส่วนใหญ่แบบจำลองสินค้าคงคลังที่มีอยู่สำหรับสินค้าที่เสื่อมสภาพเป็นแบบจำลองชนิด EOQ และพิจารณาระบบย่อยต่าง ๆ ในห่วงโซ่อุปทานได้อย่างอิสระ แม้ว่าแนวคิดของความร่วมมือระหว่างผู้จำหน่ายและผู้ซื้อได้รับความสนใจมาก ขึ้นในวรรณคดี ได้รับการพัฒนาหลายวิธีรวมสินค้าคงคลังสำหรับสินค้าที่เสื่อมสภาพวันที่ รอรับปริญญาและ al. (2003) พัฒนาแบบ echelon หลายสินค้าคงคลังสำหรับสินค้าที่ขาดเป็นช่วง ๆ และจะสูงสุดร่วมรวมต้นทุนจากมุมมองแบบบูรณาการ ซัพพลายเออร์ ผู้ผลิต และผู้ซื้อได้รับ ยางและวี (2003) พัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์สำหรับขนาดล็อตการผลิตหลายรายการสำหรับสินค้าที่เสื่อมสภาพดังกล่าวข้างต้น วรรณคดีที่มีอยู่ให้เห็นหลากหลายรูปแบบสินค้าคงคลังเกี่ยวกับสินค้าขาดเป็นช่วง ๆ ไม่กี่ของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ได้รับการพัฒนาอย่างชัดเจนสิ่งแวดล้อมจิต ยางและวี (2003) ได้รับการพัฒนาแบบบูรณาการผลิตภัณฑ์หลายขนาดล็อตสินค้าคงคลังสำหรับสินค้าในจิตที่เสื่อมสภาพ พิจารณาทั้งการล็อตแยกวัสดุจากผู้ผลิตเพื่อผู้ผลิต และล็อตแบ่งเสร็จดีจากผู้ผลิตไปยังผู้ซื้อหลาย อย่างไรก็ตาม โซลูชั่นดีที่สุดจะไม่ได้รับ นอกจากนี้ สมการเชิงอนุพันธ์ที่ใช้ในกระดาษของตนอยู่ไม่จุดอีกเมื่อจำนวนผู้ซื้อที่มีขนาดเล็ก เช่น 1 กระดาษนี้พิจารณา จำหน่ายเดียว เดียวผู้ซื้อกรณี เกี่ยวข้องกับสินค้าคงคลังขาดเป็นช่วง ๆ ในจิตผู้เขียนเกือบทุกวันที่ใช้แคลคูลัสโดยใช้วิธีการแก้ไขแบบจำลองสินค้าคงคลังที่พัฒนาขึ้นสำหรับสินค้าที่เสื่อมสภาพ แนวทางดังกล่าวเป็นความซับซ้อนมากขึ้นในกรณีซัพพลาย เออร์เดียว ผู้เดียวซื้อเมื่อฟังก์ชันต้นทุนผู้ผลิตและผู้ซื้อได้รับแยกต่างหาก ในความเป็นจริง เมื่อมากถูกส่งจากผู้ผลิตไปยังผู้ซื้อ ที่ระบุ "ส่งจุด" ระดับสินค้าคงคลังเปลี่ยนแปลงจำหน่ายทันที และฟอร์มการ inflexion ฟังก์ชันของผู้จำหน่ายสินค้าคงคลัง Inflexions เหล่านี้ทำให้ยากที่จะใช้เทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพคลาสสิก โดยทั่วไปสมมติฐานที่ว่า อัตราการเสื่อมสภาพของสินค้ามีขนาดเล็ก และอำนาจของตาราง หรือสูงกว่าสามารถเป็นที่ไม่มีกิจกรรม กระดาษนี้มีฟังก์ชันต้นทุนสำหรับการ suppler ผู้ซื้อ และห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดที่สืบทอดมา และได้รับนโยบายที่เหมาะสมตามวิธีพีชคณิตการในระยะสั้น กระดาษนี้ตั้งใจที่จะเติมช่องว่างที่โดดเด่นในวรรณคดีที่มีอยู่เกี่ยวกับแบบจำลองสินค้าคงคลังสำหรับสินค้าในสภาพแวดล้อมที่จิตที่เสื่อมสภาพ มันอาจจะเห็นเป็นส่วนขยายและ generalization งานล่าสุดโดยคิมฮา (2003)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
ในชีวิตจริงมันไม่ได้เป็นเรื่องแปลกสำหรับรายการสินค้าคงคลังเช่นนมผลไม้เลือดผลิตภัณฑ์ยาผัก ฯลฯ เพื่อสลายตัวหรือลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะศึกษาพฤติกรรมของเนื้อที่ดังกล่าวและรายการที่ทวีความรุนแรงที่มีต่อการกำหนดนโยบายการควบคุมสินค้าคงคลังที่เหมาะสมที่จะใช้อย่างชัดเจนพฤติกรรมดังกล่าวเข้าบัญชี. Ghare และ Schrader (1963) เป็นผู้เขียนเป็นครั้งแรกที่จะต้องพิจารณาผลกระทบที่เกิดจากการสลายตัวในสินค้าคงคลัง รายการ พวกเขาใช้คำว่า "การสลายตัวของสินค้าคงคลัง" เพื่ออธิบายปรากฏการณ์นี้รวมทั้งการเน่าเสียโดยตรงการสูญเสียทางกายภาพและการเสื่อมสภาพ พวกเขาพัฒนารูปแบบประเภท EOQ ทั่วไปภายใต้ความต้องการอย่างต่อเนื่องกับการสลายตัวแทนซึ่งสามารถแก้ไขได้ซ้ำ แต่ไม่ได้โดยตรง แอบแฝงและฟิลิป (1973) และ Tadikamalla (1978) ขยาย Ghare และการทำงาน Schrader เพื่อ Weibull แกมมาและการจัดจำหน่ายตามรูปแบบการเสื่อมสภาพตามลำดับ ทุกรุ่นข้างต้นสันนิษฐานว่าการเติมเต็มทันทีและไม่อนุญาตให้ backorders หรือขาดแคลน Misra (1975) การพัฒนารูปแบบประเภท EOQ กับอัตราการผลิตที่ จำกัด แต่ไม่อนุญาตให้ backorders รุ่นของเขารวมถึงกรณีที่แตกต่างกันและอัตราการเสื่อมสภาพอย่างต่อเนื่อง ชาห์ (1977) การพัฒนารูปแบบทั้งชี้แจงและ Weibull กรณีการเสื่อมสภาพซึ่งได้รับอนุญาต backorders แม้จะมีการเติมเต็มทันที หมาก (1982) การพัฒนารูปแบบสินค้าคงคลังจำนวนมากขนาดการผลิตที่มี backorders สำหรับชี้แจงเนื้อที่รายการ เฮง et al, (1991) รวม Misra และวิธีการของอิหร่านและการพัฒนารูปแบบการทวีความรุนแรงขึ้นรายการที่มีอัตราการผลิต จำกัด และ backorders. การวิจัยรูปแบบสินค้าคงคลังการเสื่อมสภาพได้รับการเพิ่มความสนใจในปีที่ผ่านมาการขยายโมเดลที่มีอยู่มีความหลากหลายของรูปแบบการเสื่อมสภาพของฟังก์ชั่นความต้องการและนโยบาย backordering ในกรณีส่วนใหญ่การเสื่อมสภาพจะถือว่าเป็นส่วนคงที่ของการรวมสินค้าคงคลังในมือ กระจาย Weibull ถูกนำมาใช้ในการจำลองการสลายตัวของรายการ (Chakrabarty et al., 1998) และความสนใจบางอย่างได้มุ่งเน้นที่ทวีความรุนแรงขึ้นรายการที่มีวันหมดอายุ (Hsu et al., 2006 และ Lo et al., 2007) ผลงานล่าสุดในพื้นที่นี้ได้มีการพิจารณาเวลาที่แตกต่างกันเช่นเดียวกับระดับสต็อกและราคาขึ้นอยู่กับความต้องการ วีวีปี 1993 และ 1995, Hariga et al, (1997), และ Bhunia Maiti (1998), จุงและ Tsai (2001), Wang (2002), Balkhi (2004), เต็งและช้าง (2005) ยาง (2005), อิหร่าน, et al (2005), ช้าง, et al (2006), เฮาปี 2006 และ Hou 2006 วู et al, (2006), และ Manna Chaudhuri (2006), Pal et al, (2006) และ Lo et al, (2007) เป็นตัวอย่างที่ดีของสินค้าคงคลังที่มีรูปแบบที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสมมติฐานรูปแบบของความต้องการของการเสื่อมสภาพและ backordering. ส่วนใหญ่รูปแบบสินค้าคงคลังที่มีอยู่ทวีความรุนแรงขึ้นมีรูปแบบรายการประเภท EOQ และพิจารณาระบบย่อยที่แตกต่างกันในห่วงโซ่อุปทานอย่างอิสระ แม้ว่าความคิดของความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตและผู้ซื้อได้รับความสนใจมากขึ้นในวรรณคดีไม่กี่วิธีการแบบบูรณาการสำหรับสินค้าคงคลังที่ทวีความรุนแรงขึ้นรายการที่ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัย Rau et al, (2003) พัฒนารูปแบบสินค้าคงคลังหลายระดับสำหรับรายการที่ทวีความรุนแรงขึ้นและได้รับมาค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ดีที่สุดร่วมกันจากมุมมองแบบบูรณาการรวมทั้งผู้จัดจำหน่ายผู้ผลิตและผู้ซื้อ ยางและวี (2003) การพัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์สำหรับการผลิตหลายรายการมากขนาดสำหรับรายการที่ทวีความรุนแรงขึ้น. ดังกล่าวข้างต้นวรรณกรรมที่มีอยู่แสดงให้เห็นความหลากหลายของรูปแบบสินค้าคงคลังที่เกี่ยวข้องกับรายการที่ทวีความรุนแรงขึ้น ไม่กี่คน แต่ได้รับการพัฒนาอย่างชัดเจนสำหรับสภาพแวดล้อม JIT ยางและวี (2003) การพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายขนาดจำนวนมากรูปแบบบูรณาการสำหรับสินค้าคงคลังที่ทวีความรุนแรงขึ้นในสภาพแวดล้อมรายการ JIT ทั้งจำนวนมากแยกของวัสดุจากซัพพลายเออร์ในการผลิตและจำนวนมากแยกของสินค้าสำเร็จรูปจากผู้ผลิตไปยังผู้ซื้อหลายได้รับการพิจารณา อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดจะไม่ได้รับ นอกจากนี้สมการเชิงอนุพันธ์ที่ใช้ในกระดาษของพวกเขาไม่ได้อยู่ในจุดใด ๆ มากขึ้นเมื่อจำนวนของผู้ซื้อที่มีขนาดเล็กเช่น 1. กระดาษนี้จะพิจารณาเดียวผู้ผลิตกรณีเดียวผู้ซื้อที่เกี่ยวข้องกับรายการสินค้าคงคลังที่ทวีความรุนแรงขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ JIT ผู้เขียนเกือบทุกคนที่จะใช้แคลคูลัสวันตามวิธีการในการแก้รูปแบบสินค้าคงคลังการพัฒนาสำหรับรายการที่ทวีความรุนแรง วิธีการดังกล่าวกลายเป็นความซับซ้อนมากขึ้นในผู้ผลิตเดียวกรณีเดียวผู้ซื้อเมื่อฟังก์ชั่นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้จัดจำหน่ายและผู้ซื้อจะได้มาแยก ในความเป็นจริงเมื่อมีจำนวนมากจะถูกส่งจากผู้ผลิตไปยังผู้ซื้อที่ระบุ "จุดส่งมอบ" ระดับสินค้าคงคลังของการเปลี่ยนแปลงผู้จัดจำหน่ายและรูปแบบก็ inflexion ต่อการทำงานของสินค้าคงคลังของซัพพลายเออร์ inflexions เหล่านี้ทำให้มันยากที่จะใช้เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพคลาสสิก ด้วยสมมติฐานที่พบว่าอัตราการเสื่อมสภาพของรายการที่มีขนาดเล็กและอำนาจตารางหรือสูงกว่าที่สามารถละเลยบทความนี้มุ่งมั่นที่จะได้รับฟังก์ชั่นค่าใช้จ่ายสำหรับ suppler ผู้ซื้อและห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดและได้รับมานโยบายที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับวิธีการเกี่ยวกับพีชคณิต. ใน สั้นบทความนี้มุ่งมั่นที่จะเติมเต็มช่องว่างที่โดดเด่นในวรรณคดีที่มีอยู่เกี่ยวกับรูปแบบสินค้าคงคลังสำหรับรายการที่ทวีความรุนแรงขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ JIT นอกจากนี้ยังอาจถูกมองว่าเป็นส่วนขยายและลักษณะทั่วไปของการทำงานที่ผ่านมาโดยคิมและฮา (2003)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
ในชีวิตจริง มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับรายการสินค้าคงคลัง เช่น นม ผลไม้ เลือด ยา ผลิตภัณฑ์ ผัก ฯลฯ เพื่อสลายหรือเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะศึกษาพฤติกรรมดังกล่าวและผุพังเสื่อมสภาพรายการ ต่อการกำหนดนโยบายที่เหมาะสมในการควบคุมสินค้าคงคลังอย่างชัดเจนใช้พฤติกรรมดังกล่าวเข้าบัญชี .

และ ghare ชเรเดอร์ ( 2506 ) เป็นผู้แรกที่พิจารณาผลของการสลายตัวในรายการสินค้า พวกเขาใช้คำว่าสินค้าคงคลัง " สลาย " เพื่ออธิบายปรากฏการณ์นี้ รวมทั้งของเสียโดยตรง การทางกายภาพและการเสื่อมสภาพ พวกเขาได้พัฒนาแบบจำลอง EOQ ทั่วไปประเภทภายใต้ความต้องการคงที่กับผุแทน ซึ่งอาจจะมีการแก้ไขซ้ำ แต่ไม่โดยตรงแอบแฝงและฟิลิป ( 1973 ) และ tadikamalla ( 1978 ) และขยาย ghare ชเรเดอร์ก็ทำงานแบบทดสอบการแจกแจงแกมมาการเสื่อมสภาพรูปแบบตามลำดับ ทั้งหมดของรูปแบบข้างต้นถือว่าดีสมราคาทันที และไม่อนุญาตให้ backorders หรือขาดแคลน มิสรา ( 1975 ) ได้พัฒนานำประเภทรุ่นที่มีอัตราการผลิตแน่นอน แต่ไม่อนุญาตให้ backorders .โมเดลของเขารวมถึงกรณีของการเปลี่ยนแปลงและอัตราการเสื่อมสภาพคงที่ กษัตริย์ ( 1977 ) การพัฒนาแบบจำลองทั้งสองแบบเอกซ์โพเนนเชียล และกรณีการเสื่อมสภาพ ซึ่งได้รับอนุญาต backorders แม้ว่าทันที ) . มัค ( 1982 ) การพัฒนาการผลิตมากขนาดสินค้าคงคลังแบบ backorders เพื่อชี้แจงสลายรายการ เฮง et al .( 1991 ) บูรณาการมิสราและ Shah แนวทางและพัฒนารูปแบบรายการทวี อัตราการผลิตเพื่อ backorders

การเสื่อมสภาพสินค้าคงคลังแบบจำลองการวิจัยได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การขยายโมเดลที่มีอยู่กับความหลากหลายของรูปแบบการเสื่อมสภาพ , ฟังก์ชันอุปสงค์และ backordering นโยบาย ในกรณีส่วนใหญ่