FKM’s chemical structure has evolve

FKM’s chemical structure has evolved significantly since the 1940s, with fluorine content increasing from 26.7% to 66%-68%. While bisphenol and peroxide have superseded amine as the curing process of choice. FKM’s high fluorine content ensures excellent chemical resistance to a broad range of aggressive chemicals, including acids, fuels, crude oil and ammonia, to name but a few. It also delivers a wide temperature range of -45℃ to 204℃, which is superior to most other elastomers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โครงสร้างทางเคมีของ FKM ได้รับการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ทศวรรษ 1940 โดยมีปริมาณฟลูออรีนเพิ่มขึ้นจาก 26.7% เป็น 66%-68% ในขณะที่บิสฟีนอลและเปอร์ออกไซด์แทนที่เอมีนเป็นกระบวนการบ่มที่ต้องการ ปริมาณฟลูออรีนที่สูงของ FKM ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความทนทานต่อสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรงหลายชนิด รวมถึงกรด เชื้อเพลิง น้ำมันดิบ และแอมโมเนีย และอื่นๆ อีกมากมาย และยังให้ช่วงอุณหภูมิที่กว้างตั้งแต่ -45°C ถึง 204°C ซึ่งเหนือกว่าอีลาสโตเมอร์อื่นๆ ส่วนใหญ่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โครงสร้างทางเคมีของ FKM มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 1940 ปริมาณฟลูออรีนเพิ่มขึ้นจาก 26.7% เป็น 66% -68% บิสฟีนอลและเปอร์ออกไซด์ได้เข้ามาแทนที่เอมีนเป็นตัวเลือกแรกสําหรับกระบวนการบ่ม ปริมาณฟลูออไรด์สูงของ FKM ช่วยให้สามารถทนต่อสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนได้หลากหลายชนิด ได้แก่ กรด น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันดิบ และแอมโมเนีย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีช่วงอุณหภูมิกว้างตั้งแต่ -45 ℃ถึง 204 ℃ซึ่งดีกว่าอีลาสโตเมอร์อื่น ๆ ส่วนใหญ่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โครงสร้างทางเคมีของFKMมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสําคัญตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่1940โดยมีปริมาณฟลูออรีนเพิ่มขึ้นจาก26.7 %เป็น66 %ถึง68 % บิสฟีนอลและเปอร์ออกไซด์ได้เปลี่ยนอะมิโนเป็นตัวเลือกสําหรับกระบวนการบ่ม ปริมาณฟลูออรีนสูงของFKMช่วยให้มั่นใจได้ถึงความต้านทานต่อสารเคมีที่หลากหลายได้แก่กรดเชื้อเพลิงน้ํามันดิบและแอมโมเนีย นอกจากนี้ยังมีช่วงอุณหภูมิกว้างตั้งแต่- 45°Cถึง204°Cซึ่งดีกว่าอีลาสโตเมอร์อื่นๆส่วนใหญ่