The limitations of the study includ

The limitations of the study include the following: First, the number of questionnaires returned may have reduced the validity. Sixty four out of eighty questionnaires were returned and out of these three of them were unfit for usage of this study as the respondents only answered the demographic part only rather than the part which addresses the objectives of the study. Secondly, the training effectiveness indicators used in this study are based on subjective responses to questions about basic production skills, basic quality tools, and labor turnover. A few scholars believe that subjective measures may be reliable as more objective indicators (Dess and Robinson, 1984). However, since objective indicators are believed to achieve greater accuracy, it is hoped that future studies, time and resources permitting, will employ both subjective and objective measures of training effectiveness, so that comparison can be made between the two. Thirdly, the study did not establish the relationship between the methods of delivering training and training effectiveness. Longitudinal data must be collected and studied over the long term, or comparison made with an appropriate control group if we are to determine whether there is a linkage between training and improved business performance. Fourthly, even if training systems leads to effective training, how can we justify that the benefits of better training justify its costs? Therefore, there is need for utility analysis may be helpful in answering such a question. Fifty due to limited size of the sample size, conclusions reached by this study may not be entirely applicable to very small manufacturing firms. Sixth characteristics such as length of the training and quality of the training environment were not considered in the research and finally, there is need for triangulation methods to be applied in data collection to get a holistic view on training and development practices in SMEs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อจำกัดของการศึกษารวมต่อไปนี้: ครั้งแรก จำนวนแบบสอบถามที่ส่งกลับอาจมีลดอายุได้ ส่งคืนแบบสอบถามที่หกสิบสี่ของเอ้ และเหล่านี้ สามของพวกเขาไม่เหมาะสำหรับการใช้งานของการศึกษานี้เป็นผู้ตอบเท่านั้นส่วนประชากรเท่านั้นแทนที่เป็นส่วนที่เน้นวัตถุประสงค์ของการศึกษา ประการที่สอง ตัวบ่งชี้ประสิทธิผลการฝึกอบรมที่ใช้ในการศึกษานี้เป็นตามการตอบอัตนัยถามเกี่ยวกับทักษะการผลิตพื้นฐาน เครื่องมือคุณภาพพื้นฐาน และการหมุนเวียนแรงงาน นักวิชาการบางคนเชื่อว่า มาตรการอัตนัยอาจเชื่อถือได้เป็นตัวชี้วัดวัตถุประสงค์เพิ่มเติม (Dess และโรบินสัน 1984) อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วัตถุประสงค์มีความเชื่อว่าตัวชี้วัดให้บรรลุความแม่นยำมากขึ้น ก็หวังว่า การศึกษาในอนาคต เวลา และทรัพยากรที่เอื้ออำนวย จะใช้มาตรการทั้งอัตนัย และวัตถุประสงค์ของประสิทธิภาพการฝึกอบรม เพื่อให้สามารถทำการเปรียบเทียบระหว่างสอง ประการที่สาม การศึกษาไม่ได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างวิธีการของการฝึกอบรมและประสิทธิผลของการฝึกอบรม ข้อมูลระยะยาวต้องรวบรวม และศึกษาระยะยาว หรือเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่เหมาะสมโดยถ้าหากเราจะตรวจสอบว่า มีการเชื่อมโยงระหว่างฝึกอบรม และปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจ Fourthly แม้ว่าระบบการฝึกอบรมไปสู่การฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพ วิธีสามารถเราจัดว่า ประโยชน์ของการฝึกอบรมที่ดีจัดเป็นต้นทุนหรือไม่ ดังนั้น จำเป็นสำหรับโปรแกรมอรรถประโยชน์การวิเคราะห์อาจจะมีประโยชน์ในการตอบคำถาม สิบเนื่องจากมีการจำกัดขนาดของขนาดตัวอย่าง สรุปโดยการศึกษานี้ใช้ได้ทั้งกับบริษัทผู้ผลิตขนาดเล็กมากไม่ได้ ลักษณะหกเช่นความยาวของการฝึกอบรมและสภาพแวดล้อมในการฝึกอบรมไม่ได้รับการพิจารณาในการวิจัย และในที่สุด จำเป็นสำหรับระบบสามวิธีที่จะใช้ในการเก็บข้อมูลจะได้รับมุมมองแบบองค์รวมในการฝึกอบรมและการพัฒนา SMEs

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อ จำกัด ของการศึกษามีดังนี้แรกจำนวนแบบสอบถามที่ส่งกลับอาจมีการลดความถูกต้อง หกสิบสี่สิบแบบสอบถามกลับมาและออกของทั้งสามของพวกเขาไม่เหมาะสำหรับการใช้งานของการศึกษาครั้งนี้เป็นผู้ตอบแบบสอบถามตอบเฉพาะส่วนที่กลุ่มผู้เข้าชมมากกว่าเพียงส่วนหนึ่งที่อยู่ที่วัตถุประสงค์ของการศึกษา ประการที่สองตัวชี้วัดประสิทธิภาพการฝึกอบรมที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการตอบสนองอัตนัยคำถามเกี่ยวกับทักษะพื้นฐานการผลิตเครื่องมือที่มีคุณภาพขั้นพื้นฐานและผลประกอบการแรงงาน นักวิชาการไม่กี่เชื่อว่ามาตรการอัตนัยอาจจะเป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือมากขึ้นวัตถุประสงค์ (กลัดและโรบินสัน, 1984) แต่เนื่องจากตัวชี้วัดวัตถุประสงค์มีความเชื่อมั่นที่จะบรรลุความแม่นยำมากขึ้นก็หวังว่าการศึกษาในอนาคตเวลาและทรัพยากรอนุญาตจะใช้มาตรการทั้งอัตนัยและวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมมีประสิทธิภาพดังนั้นการเปรียบเทียบที่สามารถทำระหว่างคนทั้งสอง ประการที่สามการศึกษาไม่ได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างวิธีการในการส่งมอบการฝึกอบรมและการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพ ข้อมูลระยะยาวจะต้องมีการเก็บรวบรวมและการศึกษาในระยะยาวหรือการเปรียบเทียบที่ทำกับกลุ่มควบคุมที่เหมาะสมถ้าหากเราจะตรวจสอบว่ามีการเชื่อมโยงระหว่างการฝึกอบรมและการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ ประการที่สี่แม้ว่าระบบการฝึกอบรมนำไปสู่​​การฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพวิธีการที่เราสามารถแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการฝึกอบรมที่ดีขึ้นปรับค่าใช้จ่ายของตนหรือไม่ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ยูทิลิตี้อาจจะเป็นประโยชน์ในการตอบคำถามดังกล่าว ห้าสิบเนื่องจากขนาดที่ จำกัด ของขนาดตัวอย่างข้อสรุปถึงโดยการศึกษาครั้งนี้อาจจะไม่ทั้งหมดที่ใช้บังคับกับ บริษัท ผลิตขนาดเล็กมาก ลักษณะหกเช่นความยาวของการฝึกอบรมและคุณภาพของสภาพแวดล้อมการฝึกอบรมไม่ได้พิจารณาในการวิจัยและในที่สุดก็มีความจำเป็นสำหรับวิธีการสมการที่จะนำมาใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่จะได้รับมุมมองแบบองค์รวมในการฝึกอบรมและการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ในการปฏิบัติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อจำกัดของการศึกษารวมถึงต่อไปนี้ : แรก จำนวนแบบสอบถามที่อาจจะลดความ หกสิบสี่แปดสิบได้รับแบบสอบถามคืนและออกจากทั้งสามของพวกเขาไม่เหมาะสมสำหรับการใช้ในการศึกษานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ประชากรที่ตอบแบบสอบถามมากกว่าส่วนที่อยู่วัตถุประสงค์ของการศึกษา ประการที่สอง การฝึกประสิทธิภาพตัวชี้วัดที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับการตอบสนองเชิงคำถามเกี่ยวกับทักษะในการผลิตเครื่องมือพื้นฐานพื้นฐานคุณภาพและการหมุนเวียนแรงงาน ไม่กี่นักวิชาการเชื่อว่ามาตรการอัตนัยจะเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้มากขึ้น ( เดส และ โรบินสัน , 1984 ) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตัวชี้วัดวัตถุประสงค์เชื่อว่าบรรลุความถูกต้องมากขึ้น ก็หวังว่าการศึกษาในอนาคต ทรัพยากรและเวลาที่อนุญาต จะใช้ทั้งอัตนัยและวัตถุประสงค์วัดประสิทธิผลของการฝึกอบรม เพื่อให้สามารถทำการเปรียบเทียบระหว่างสอง ประการที่สาม การศึกษาไม่ได้สร้างความสัมพันธ์ระหว่างวิธีการของการส่งมอบการฝึกอบรมและประสิทธิผลของการฝึกอบรม ข้อมูลระยะยาว ต้องมีการรวบรวม และศึกษาในระยะยาว หรือเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่เหมาะสมถ้าเราต้องการตรวจสอบว่ามีการเชื่อมโยงระหว่างการฝึกและปรับปรุงประสิทธิภาพทางธุรกิจ และแม้ว่าระบบการฝึกอบรมนักฝึกอบรมให้มีประสิทธิภาพ , วิธีการที่เราสามารถปรับที่ประโยชน์ของการฝึกอบรมที่ดีขึ้นปรับค่าใช้จ่ายของ เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ยูทิลิตี้อาจเป็นประโยชน์ในการตอบคำถามดังกล่าว 50 เนื่องจากขนาด จำกัด ของขนาดตัวอย่าง ข้อสรุปที่ได้จากการศึกษานี้อาจจะไม่ทั้งหมดสามารถใช้ได้กับ บริษัท ผลิตน้อยมาก คุณลักษณะหกเช่นความยาวของการฝึกอบรมและคุณภาพของการฝึกอบรมสิ่งแวดล้อมไม่ได้พิจารณาในการวิจัย และในที่สุด ก็ต้องวางแผนวิธีการที่จะใช้ในการรวบรวมข้อมูล เพื่อให้ได้มุมมองแบบองค์รวมในการพัฒนาและฝึกอบรมการปฏิบัติใน SMEs