In the case discussed here, at firs

In the case discussed here, at first admission, the dialysate
was clear and abdominal pain disappeared following intraperitoneal
administration of ceftazidime, which was effective
against S. paucimobilis. However, peritonitis by the same
organism recurred on the 15th day during antibiotic treatment.
In this circumstance, adding aminoglycoside or changing
antibiotics to imipenem was helpful for treatment of
peritonitis caused by S. paucimobilis [3], so we decided to use
imipenem because the patient had a urine output of more
than 1,000 mL per day. According to International Society
for Peritoneal Dialysis guidelines, antibiotics dose should be
empirically increased by 25% in patients with residual renal
function [11]. However, residual renal function was not
considered in deciding the antibiotic dose. Thus, inadequate
dosage of antibiotics might be one of the possible causes of
treatment failures in this case.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในกรณีกล่าวถึงที่นี่ ที่เข้าชมครั้งแรก การ dialysate
ได้ชัดเจน และท้องปวดหายต่อ intraperitoneal
บริหารเซฟตาซิดิม ซึ่งมีประสิทธิภาพ
กับ S. paucimobilis อย่างไรก็ตาม peritonitis โดยเดียวกัน
มีชีวิต recurred ในวัน 15 ในระหว่างการรักษายาปฏิชีวนะ.
ในสถานการณ์นี้ เพิ่ม aminoglycoside หรือเปลี่ยน
ยาปฏิชีวนะการ imipenem มีประโยชน์สำหรับรักษา
peritonitis เกิดจาก S. paucimobilis [3], ดังนั้นเราตัดสินใจที่จะใช้
imipenem เนื่องจากผู้ป่วยมีผลปัสสาวะมากกว่า
กว่า 1000 mL ต่อวัน ตามสังคมนานาชาติ
ควรเป็นยาปฏิชีวนะยาแนวทางหน่วย Peritoneal
empirically เพิ่มขึ้น 25% ในผู้ป่วยที่มีส่วนที่เหลือจากไต
ฟังก์ชัน [11] อย่างไรก็ตาม ไม่มีฟังก์ชันเหลือไต
พิจารณาในการตัดสินใจที่ยายาปฏิชีวนะ ดังนั้น ไม่เพียงพอ
ปริมาณของยาปฏิชีวนะอาจเป็นหนึ่งสาเหตุของ
ความล้มเหลวของการรักษาในกรณีนี้ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในกรณีที่กล่าวถึงที่นี่ที่เข้ารับการรักษาครั้งแรกที่แยก
ได้ชัดและปวดท้องหายไปดังต่อไปนี้เข้าช่องท้อง
บริหารงานของซิดีมซึ่งเป็นที่มีประสิทธิภาพ
กับ paucimobilis เอส แต่เยื่อบุช่องท้องโดยเดียวกัน
มีชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่าในวันที่ 15 ในระหว่างการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
ในกรณีนี้การเพิ่ม aminoglycoside หรือเปลี่ยน
ยาปฏิชีวนะเพื่อ imipenem ได้รับประโยชน์ในการรักษาโรค
เยื่อบุช่องท้องเกิดจากเอส paucimobilis [3] ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะใช้
imipenem เพราะ ผู้ป่วยที่มีปัสสาวะออกมากขึ้น
กว่า 1,000 มิลลิลิตรต่อวัน ตามที่สมาคมระหว่างประเทศ
สำหรับแนวทางการล้างไตทางช่องท้องปริมาณยาปฏิชีวนะที่ควรจะ
เพิ่มขึ้นสังเกตุโดย 25% ในผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตที่เหลือ
ฟังก์ชั่น [11] อย่างไรก็ตามการทำงานของไตที่เหลือไม่ได้
รับการพิจารณาในการตัดสินใจเลือกยาปฏิชีวนะ ดังนั้นไม่เพียงพอ
ปริมาณของยาปฏิชีวนะอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เป็นไปได้ของ
ความล้มเหลวของการรักษาในกรณีนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในกรณีที่กล่าวถึงที่นี่ที่แรกรับ , dialysate
คือความเจ็บปวดที่ชัดเจนและหน้าท้องหายไปตามการบริหารงานของยามากกว่า

ซึ่งมีผลกับเอส paucimobilis . อย่างไรก็ตาม เยื่อบุช่องท้องอักเสบ โดยสิ่งมีชีวิตเดียวกัน
recurred วันที่ 15 ในยาปฏิชีวนะ .
ในสถานการณ์นี้ การเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลง
อะมิโนกลัยโคไซด์ยาปฏิชีวนะอิมิพีเนมเป็นประโยชน์สำหรับการรักษาภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบที่เกิดจาก paucimobilis
s . [ 3 ] , ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะใช้
อิมิพีเนม เพราะผู้ป่วยมีปัสสาวะออกมากขึ้น น้ำ
กว่า 1000 ต่อวัน ตามแนวทางของสมาคมระหว่างประเทศ
การชำระเลือดผ่านเยื่อบุช่องท้อง ยาปฏิชีวนะ ยาควรจะ
สังเกตุเพิ่มขึ้น 25% ในผู้ป่วยตกค้างไต
ฟังก์ชัน [ 11 ] อย่างไรก็ตามตกค้างฟังก์ชันไตไม่ได้
พิจารณาในการตัดสินใจยา ยาปฏิชีวนะ ดังนั้น ปริมาณไม่เพียงพอ
ยาปฏิชีวนะอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เป็นไปได้ของความล้มเหลว
รักษาในกรณีนี้