An increasing literature associates

An increasing literature associates high intake of meat, especially red meat and processed meat with an
increased risk of cancers, especially colorectal cancer. There is evidence that this risk may not be a function
of meat per se, but may reflect high-fat intake, and/or carcinogens generated through various cooking
and processing methods. The cancer risk may be modulated by certain genotypes. Cancers associated
with high meat consumption may be reduced by the addition of anticarcinogens in the diet, especially at
the same time as meat preparation or meat consumption, or modification of food preparation methods.
Meat contains potential anticarcinogens, including omega-3 polyunsaturated fatty acids, and conjugated
linoleic acid (CLA). Red meat, in particular, is an important source of micronutrients with anticancer
properties, including selenium, vitamin B6 and B12, and vitamin D. Adjusting the balance between meat
and other dietary components may be critical to protecting against potential cancer risks.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประกอบการเพิ่มขึ้นนั้นสัมพันธ์บริโภคสูงเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปด้วยการเสี่ยงของโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็งที่ลำไส้ มีหลักฐานว่า ความเสี่ยงนี้อาจไม่เป็นฟังก์ชันเนื้อต่อ se แต่อาจสะท้อนถึงการบริโภคไขมันสูง และ/หรือสารก่อมะเร็งที่สร้างผ่านการทำอาหารต่าง ๆและวิธีการประมวลผล เสี่ยงมะเร็งอาจสันทัด โดยบางการศึกษาจีโนไทป์ มะเร็งที่เกี่ยวข้องมีเนื้อสูง ปริมาณการใช้อาจลดลง โดยการเพิ่ม anticarcinogens ในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่กันกับการเตรียมเนื้อสัตว์ หรือปริมาณเนื้อ หรือการปรับเปลี่ยนวิธีการเตรียมอาหารเนื้อประกอบด้วยศักยภาพ anticarcinogens รวมทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวโอเมก้า-3 และกลวงกรด linoleic (CLA) เนื้อแดง โดยเฉพาะ เป็นแหล่งสำคัญขององค์ประกอบตามโรคกับ anticancerคุณสมบัติ รวมถึงเกลือ วิตามิน B6 และ B12 และวิตามินดีปรับสมดุลระหว่างเนื้อและส่วนประกอบอาหารอื่น ๆ อาจมีความสำคัญต่อการป้องกันการเสี่ยงโรคมะเร็ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วรรณกรรมร่วมที่เพิ่มขึ้นสูงของการบริโภคเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อแดงและเนื้อสัตว์แปรรูปที่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเกิดโรคมะเร็งโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีหลักฐานว่ามีความเสี่ยงนี้อาจจะไม่เป็นฟังก์ชั่นของเนื้อต่อ se แต่อาจสะท้อนให้เห็นปริมาณไขมันสูงและ / หรือสารก่อมะเร็งที่สร้างขึ้นผ่านการปรุงอาหารที่หลากหลายและวิธีการประมวลผล ความเสี่ยงโรคมะเร็งอาจถูกปรับโดยยีนบางอย่าง โรคมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเนื้อสัตว์ที่สูงอาจจะลดลงนอกจากนี้จาก anticarcinogens ในอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาเดียวกับการเตรียมเนื้อสัตว์หรือการบริโภคเนื้อสัตว์หรือการปรับเปลี่ยนวิธีการเตรียมอาหาร. เนื้อสัตว์มี anticarcinogens ที่อาจเกิดขึ้นรวมทั้งโอเมก้า 3 กรดไขมันไม่อิ่มตัว และผันกรดไลโนเลอิก(CLA) เนื้อแดงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งสำคัญของธาตุอาหารต้านมะเร็งที่มีคุณสมบัติรวมทั้งซีลีเนียมวิตามิน B6 และ B12 และวิตามินดีการปรับสมดุลระหว่างเนื้อและส่วนประกอบอาหารอื่นๆ อาจมีความสำคัญต่อการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดโรคมะเร็ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมาคมวรรณกรรมเพิ่มขึ้นสูง การบริโภคเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดง และเนื้อแปรรูปมี
เพิ่มความเสี่ยงของมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก . มีหลักฐานว่า ความเสี่ยงนี้อาจจะมีฟังก์ชัน
เนื้อต่อ se แต่อาจจะสะท้อนให้เห็นถึงปริมาณไขมันสูง และ / หรือ สารก่อมะเร็ง สร้างผ่าน
อาหารต่างๆและวิธีการแปรรูป . ความเสี่ยงมะเร็งอาจจะปรับโดยบางพันธุ์ .โรคมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเนื้อสัตว์สูง
อาจจะลดลงได้โดยการเพิ่มของ anticarcinogens ในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาเดียวกับการเตรียม
เนื้อสัตว์หรือเนื้อสัตว์ หรือการปรับเปลี่ยนวิธีการเตรียมอาหาร มี anticarcinogens
เนื้อที่มีศักยภาพ รวมถึงโอเมก้า 3 กรดไขมันและกรด linoleic conjugated
( CLA ) เนื้อแดง โดยเฉพาะที่สำคัญคือ แหล่งที่มาของรูปด้วยมะเร็ง
คุณสมบัติ รวมทั้งซีลีเนียม , วิตามิน B6 และ B12 , วิตามินและ D . ปรับสมดุลระหว่างเนื้อ
และส่วนประกอบอาหารอื่น ๆ อาจจะต้องป้องกันความเสี่ยงมะเร็งที่อาจเกิดขึ้น