re Simple Tense ดังนั้นถ้าจะใช้ canในรูป Tense ดังกล่าวจะต้องเปลี่ยนมา การแปล - re Simple Tense ดังนั้นถ้าจะใช้ canในรูป Tense ดังกล่าวจะต้องเปลี่ยนมา ไทย วิธีการพูด

re Simple Tense ดังนั้นถ้าจะใช้ can

re Simple Tense ดั

งนั้นถ้าจะใช้ canในรูป Tense ดังกล่าวจะต้องเปลี่ยนมาใช้รูป ‘to be able to’

2. ใน Past Simple Tense นิยมใช้ ‘to be able to’ แทน I could

เพราะ I could อาจมีความหมายเป็น Present หรือ Future ก็ได้

3. แม้ can ไม่มีรูป Future ก็ตาม แต่สามารถใช้ ในความหมายที่เป็น

Future ได้ โดยมากมักมี Adverb of Time กำกับไว้ด้วย



วิธีการใช้ Can

1. ใช้แสดง “ความสามารถ” ( Ability )หรืออาจจะใช้ในรูปปฏิเสธ

- I can drive a car.

- She can type 60 words per minutes.

- I can’t drive a car.

- She can’t type 60 words per minutes.

2. ใช้แสดง “การขออนุญาต” และ “การอนุญาต” ( Permission )

- Can I enter the room?

- Yes, you can.

3. ใช้แสดง “การคาดคะเน” ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ ( Possibility )

- She can finish her work by tomorrow.

วิธีการใช้ Could

1. ใช้เป็น Past Tense ของ can

- When I was young , I could run fast.

- I couldn’t understand your yesterday explanation.

2. Could ใช้เป็นคำขอร้องที่สุภาพ ซึ่งมีความหมายเป็น Present Simple

- Could I borrow your pen?

- Could you tell me the time to go?

3. Could + have + past participle ใช้แสดงความสามารถที่ไม่ได้ถูก

นำออกมาใช้ คือ ไม่ได้กระทำ นั่นเอง

- They could have started working two hours ago.

- I could have finished it last year.



2. May , Might

วิธีการใช้ May

1. ใช้แสดงความปรารถนา หรือเป็นการอวยพร

- May god bless you.

- May your dream be true

2. ใช้เป็นคำขออนุญาตที่สุภาพ

- May I open the window?

- May I go out , sir?

3. ใช้เป็นคำอนุญาต

- You may have what you want.

- You may go out now.

4. ใช้แสดงข้อความที่อาจเป็นไปได้ เป็นการคาดคะเน

- Your wishes may come true.

- They may receive our news in a day or two.

วิธีการใช้ Might

1. ใช้เป็น past ของ may

- He asked me that he might find the truth.

- He said that he might come.

2. ใช้ในความหมายที่เป็น present tense เมื่อ

a. ต้องการแสดงความสุภาพ เช่น

- Might I open the window ?

b. ต้องการแสดงข้อความที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

(แต่โอกาสเกิดขึ้นน้อยกว่าการใช้ may)

- Your dream may be true.

Þ Your dream might be true.

3. may (might) + have + Verb 3

หมายถึง การคาดคะเน เหตุการณ์ที่ค่อนข้างจะไม่มั่นใจว่าได้ปรากฏ

ขึ้นในอดีตหรือไม่

- He didn’t telephone me. He may (might) have forgotten the

telephone number.

- She didn’t come to see me as she told. She may (might) have

missed the bus.



3. Should

Should แปลว่า “ควร” ใช้ได้กับประธานทุกตัว มีความหมายเป็น

Present Tense ใช้เป็นคำแนะนำว่า ควรทำหรือไม่ควรทำ

- You should ask your teacher if you don’t understand.

- You should be more careful about what I advise.

- You should not do like that. รูป Past Tense ของ shall

ใช้ในประโยค

a. Indirect Speech

- He said to me , “You will go home”.

Direct Speech

- He told me that I should go home.

Indirect Speech

b. If-Clause

- If I came here in time, I should meet you.

- If I were you ,I should not do that silly thing.



4. Ought to

การใช้ Ought to ซึ่งแปลว่า “ควรทำ” เพราะเป็นหน้าที่

และเป็นการแสดงว่า “ควรจะเป็น” เช่นนั้นจริงๆ เช่น

- You are a student , you ought to behave politely.

- Work hard and you ought to obey your teacher.

- We have been studying English for many years, we

ought to be ableto speak it fluently.



หมายเหตุ การใช้ Past Tense ของ Should และ Ought to

กับประธานทุกตัว ต้องใช้รูปแบบของคำกริยา ดังนี้

Should + have + Past Participle

Ought to + have + Past Participle

ซึ่งแสดงว่าเหตุการณ์นั้นๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เหตุการณ์เกิดขึ้นตรงกันข้ามกับ

ข้อความที่พูด เช่น

- You should have come to the party yesterday.( But you didn’t. )

- You should not have left home last night. ( But you did. )

- We ought to have obeyed him ; he is ourown teacher. ( But we didn’t )



Should not + have + Past Participle

Ought not to + have + Past Participle

มีความหมายว่า ไม่ควรจะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดในอดีต แต่ได้กระทำไปแล้ว เช่น

- The party was boring. I shouldn’t have gone there.

- They oughtn’t to have been absent from school yesterday.



5. Have to , Must

Has to , Have มีความหมายว่า “ ต้องทำ” ใช้เมื่อมีเหตุการณ์ภายนอก

บังคับ ให้เราต้องทำ เช่น

- I have to go now because the train will leave at six.

- We have to do our work neatly or we shall not get good marks.



Must

ใช้ Must ได้กับประธานทุกตัว มีความหมายว่า “ต้อง” โดยทั่วไปใช้เมื่อเป็นคำสั่ง

ให้กระทำ หรือใช้เมื่อมีเหตุการณ์ภายในตัวเรา บังคับให้เราต้องทำ

และแสดงการคาดคะเน โดยมีความมั่นใจ ว่าจะต้องเกิดการกระทำ

หรือเหตุการณ์นั้นๆ เมื่อจะใช้ must ใน Tense อื่น ต้องใช้ have to แทน

- We must leave soon.

- They will have to return home before sunset.

- I must go to see the doctor because I feel unwell.

- You must have some coffee because you look sleepy.

- If you don’t tell him , he must get lost.



must + have + Verb 3

มีความหมาย แสดงการคาดคะเน เหตุการณ์ที่ค่อนข้างจะมั่นใจว่าได้ปรากฏขึ้นในอดีต

- Suda’s light is out. She must have gone to sleep.

- Somsak got A in every subject. He must have studied very hard.

- I can’t find my bag. It must have been stolen when I was on the bus.
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
กลับดัอย่างตึงเครียดงนั้นถ้าจะใช้ canในรูป ดังกล่าวจะต้องเปลี่ยนมาใช้รูปตึง 'จะ' 2. ในอดีตนิยมใช้ตึงง่าย 'จะ ' แทนผม เพราะอาจอาจมีความหมายเป็นปัจจุบันหรือในอนาคตก็ได้ 3. แม้สามารถไม่มีรูปในอนาคตก็ตามแต่สามารถใช้ในความหมายที่เป็นคำกริยาวิเศษณ์โดยมากมักมีได้ในอนาคตเวลากำกับไว้ด้วย สามารถวิธีการใช้ 1. ใช้แสดงหรืออาจจะใช้ในรูปปฏิเสธ "ความสามารถ" (ความสามารถ) -สามารถขับรถยนต์ -เธอสามารถพิมพ์ 60 คำต่อนาที -ไม่ขับรถ -เธอไม่พิมพ์ 60 คำต่อนาที 2. ใช้แสดง "การขออนุญาต" และ "การอนุญาต" (สิทธิ์) -ป้อนห้องสามารถ -ใช่ คุณสามารถ 3. ใช้แสดงซึ่งอาจจะเป็นไปได้ "การคาดคะเน" (ความเป็นไปได้) -เธอสามารถเสร็จสิ้นการทำงานของเธอ โดยวันพรุ่งนี้ สามารถวิธีการใช้ 1. ใช้เป็นเลยตึงเครียดนั้น ๆ สามารถ -เมื่อสาว ฉันสามารถเรียกใช้ได้อย่างรวดเร็ว - I couldn’t understand your yesterday explanation. 2. Could ใช้เป็นคำขอร้องที่สุภาพ ซึ่งมีความหมายเป็น Present Simple - Could I borrow your pen? - Could you tell me the time to go? 3. Could + have + past participle ใช้แสดงความสามารถที่ไม่ได้ถูก นำออกมาใช้ คือ ไม่ได้กระทำ นั่นเอง - They could have started working two hours ago. - I could have finished it last year. 2. May , Might วิธีการใช้ May 1. ใช้แสดงความปรารถนา หรือเป็นการอวยพร - May god bless you. - May your dream be true 2. ใช้เป็นคำขออนุญาตที่สุภาพ - May I open the window? - May I go out , sir? 3. ใช้เป็นคำอนุญาต - You may have what you want. - You may go out now. 4. ใช้แสดงข้อความที่อาจเป็นไปได้ เป็นการคาดคะเน - Your wishes may come true. - They may receive our news in a day or two. วิธีการใช้ Might 1. ใช้เป็น past ของ may - He asked me that he might find the truth. - He said that he might come. 2. ใช้ในความหมายที่เป็น present tense เมื่อ a. ต้องการแสดงความสุภาพ เช่น - Might I open the window ? b. ต้องการแสดงข้อความที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต (แต่โอกาสเกิดขึ้นน้อยกว่าการใช้ may) - Your dream may be true. Þ Your dream might be true. 3. may (might) + have + Verb 3 หมายถึง การคาดคะเน เหตุการณ์ที่ค่อนข้างจะไม่มั่นใจว่าได้ปรากฏ ขึ้นในอดีตหรือไม่ - He didn’t telephone me. He may (might) have forgotten the telephone number. - She didn’t come to see me as she told. She may (might) have missed the bus. 3. Should Should แปลว่า “ควร” ใช้ได้กับประธานทุกตัว มีความหมายเป็นPresent Tense ใช้เป็นคำแนะนำว่า ควรทำหรือไม่ควรทำ - You should ask your teacher if you don’t understand. - You should be more careful about what I advise. - You should not do like that. รูป Past Tense ของ shall ใช้ในประโยค a. Indirect Speech - He said to me , “You will go home”. Direct Speech - He told me that I should go home. Indirect Speech b. If-Clause - If I came here in time, I should meet you. - If I were you ,I should not do that silly thing. 4. Ought to การใช้ Ought to ซึ่งแปลว่า “ควรทำ” เพราะเป็นหน้าที่ และเป็นการแสดงว่า “ควรจะเป็น” เช่นนั้นจริงๆ เช่น - You are a student , you ought to behave politely. - Work hard and you ought to obey your teacher. - We have been studying English for many years, we ought to be ableto speak it fluently. หมายเหตุ การใช้ Past Tense ของ Should และ Ought toกับประธานทุกตัว ต้องใช้รูปแบบของคำกริยา ดังนี้ Should + have + Past Participle Ought to + have + Past Participle ซึ่งแสดงว่าเหตุการณ์นั้นๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เหตุการณ์เกิดขึ้นตรงกันข้ามกับข้อความที่พูด เช่น - You should have come to the party yesterday.( But you didn’t. ) - You should not have left home last night. ( But you did. ) - We ought to have obeyed him ; he is ourown teacher. ( But we didn’t ) Should not + have + Past Participle Ought not to + have + Past Participle มีความหมายว่า ไม่ควรจะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดในอดีต แต่ได้กระทำไปแล้ว เช่น - The party was boring. I shouldn’t have gone there. - They oughtn’t to have been absent from school yesterday. 5. Have to , Must Has to , Have มีความหมายว่า “ ต้องทำ” ใช้เมื่อมีเหตุการณ์ภายนอกบังคับ ให้เราต้องทำ เช่น - I have to go now because the train will leave at six. - We have to do our work neatly or we shall not get good marks. Must ใช้ Must ได้กับประธานทุกตัว มีความหมายว่า “ต้อง” โดยทั่วไปใช้เมื่อเป็นคำสั่ง ให้กระทำ หรือใช้เมื่อมีเหตุการณ์ภายในตัวเรา บังคับให้เราต้องทำ และแสดงการคาดคะเน โดยมีความมั่นใจ ว่าจะต้องเกิดการกระทำหรือเหตุการณ์นั้นๆ เมื่อจะใช้ must ใน Tense อื่น ต้องใช้ have to แทน - We must leave soon. - They will have to return home before sunset. - I must go to see the doctor because I feel unwell. - You must have some coffee because you look sleepy. - If you don’t tell him , he must get lost. must + have + Verb 3 มีความหมาย แสดงการคาดคะเน เหตุการณ์ที่ค่อนข้างจะมั่นใจว่าได้ปรากฏขึ้นในอดีต - Suda’s light is out. She must have gone to sleep. - Somsak got A in every subject. He must have studied very hard. - I can’t find my bag. It must have been stolen when I was on the bus.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ใหม่ที่เรียบง่าย Tense ดังนั้นถ้าจะใช้ในรูปสามารถTense ดังกล่าวจะต้องเปลี่ยนมาใช้รูป 'เพื่อให้สามารถ' 2 ในอดีตที่เรียบง่าย Tense นิยมใช้ 'เพื่อให้สามารถ' แทนฉันสามารถเพราะฉันสามารถอาจมีความหมายเป็นปัจจุบันหรือในอนาคตก็ได้3 แม้จะได้ไม่มีรูปในอนาคตก็ตาม แต่สามารถใช้ในความหมายที่เป็นอนาคตได้โดยมากมักมีคำวิเศษณ์เวลาไว้ด้วยกำกับวิธีหัวเรื่อง: การใช้ Can 1 ใช้แสดง "ความสามารถ" (ความสามารถ) หรืออาจจะใช้ในรูปปฏิเสธ- ฉันสามารถขับรถ. - เธอสามารถพิมพ์ 60 คำต่อนาที. - ฉันไม่สามารถขับรถ. - เธอไม่สามารถพิมพ์ 60 คำต่อ นาที. 2 ใช้แสดง "การขออนุญาต" และ "การอนุญาต" (อนุญาต) - ฉันสามารถเข้ามาในห้อง? -. ใช่คุณสามารถ3 ใช้แสดง "การคาดคะเน" ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ (ความเป็นไปได้) -. เธอสามารถเสร็จสิ้นการทำงานของเธอในวันพรุ่งนี้โดยวิธีการใช้สามารถ1 ใช้เป็นอดีตกาลของสามารถ- เมื่อผมเป็นเด็กผมสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว. - ฉันไม่เข้าใจคำอธิบายของคุณเมื่อวานนี้. 2 สามารถใช้เป็นคำขอร้องที่สุภาพซึ่งมีความหมายเป็นปัจจุบันง่าย- ฉันจะขอยืมปากกาของคุณหรือไม่? - คุณช่วยบอกฉันเวลาที่จะไป3 อาจมีกริยา + + ที่ผ่านมา คือไม่ได้กระทำนั่นเอง- พวกเขาจะได้เริ่มต้นทำงานสองชั่วโมงที่ผ่านมา. -. ฉันจะได้ดำเนินการเสร็จสิ้นในปีที่ผ่านมา2 อาจอาจวิธีการใช้เดือนพฤษภาคม1 ใช้แสดงความปรารถนาหรือเป็นการอวยพร- ขอพระเจ้าอวยพรคุณ. - ฝันของคุณอาจจะเป็นจริง2 ใช้เป็นคำขออนุญาตที่สุภาพ- ฉันขอเปิดหน้าต่างหรือไม่? - ฉันขอออกไปครับ3 ใช้เป็นคำอนุญาต- คุณอาจจะมีสิ่งที่คุณต้องการ. -. คุณอาจจะออกไปข้างนอกในขณะนี้4 ใช้แสดงข้อความที่อาจเป็นไปได้เป็นการคาดคะเน- ความปรารถนาของคุณอาจเป็นจริงขึ้นมา. -. พวกเขาอาจได้รับข่าวของเราในวันหรือสองวันวิธีการใช้อำนาจ1 ใช้เป็นของที่ผ่านมาอาจ- เขาถามผมว่าเขาอาจจะค้นหาความจริง. - เขาบอกว่าเขาอาจจะมา. 2 ใช้ในความหมายที่เป็นปัจจุบันกาลเมื่อ ต้องการแสดงความสุภาพเช่น? - ผมอาจจะเปิดหน้าต่างข อาจ) - ความฝันของคุณอาจจะเป็นจริง. Þฝันของคุณอาจจะเป็นจริง. 3 อาจ (อาจ) มี + + กริยา 3 หมายถึงการคาดคะเน เขาไม่ได้โทรศัพท์ผม เขาอาจจะ (อาจจะ) ลืมหมายเลขโทรศัพท์. - เธอไม่ได้มาเห็นฉันเป็นของเธอบอกว่า เธออาจ (อาจ) ได้พลาดรถเมล์. 3 ควรควรจะแปลว่า "ควร" ใช้ได้กับประธานทุกตัวมีความหมายเป็นปัจจุบันกาลใช้เป็นคำแนะนำว่าควรทำหรือไม่ควรทำ- คุณควรถามครูของคุณถ้าคุณไม่เข้าใจ. - คุณควรจะระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ ผมแนะนำให้. - คุณไม่ควรทำเช่นนั้น รูปอดีตของ Tense จะใช้ในประโยค พูดอ้อม- เขาบอกกับผมว่า "คุณจะไปบ้าน". พูดตรง- เขาบอกผมว่าผมควรจะกลับบ้าน. พูดอ้อมข หากข้อ- ถ้าฉันมาที่นี่ในเวลาที่ฉันควรจะได้พบคุณ. - ถ้าฉันเป็นคุณฉันไม่ควรจะทำสิ่งที่โง่. 4 ควรจะการใช้ควรซึ่งแปลว่า "ควรทำ" เพราะเป็นหน้าที่และเป็นการแสดงว่าได้"ควรจะเป็น" เช่นนั้นจริงๆเช่น- คุณจะเป็นนักเรียนที่คุณควรจะประพฤติอย่างสุภาพ. - ทำงานหนักและคุณควรจะเชื่อฟังคุณ ครู. - เราได้รับการเรียนภาษาอังกฤษเป็นเวลาหลายปีที่เราควรจะableto พูดได้อย่างคล่องแคล่ว. หมายเหตุการใช้อดีตกาลของควรและควรกับประธานทุกตัวต้องใช้รูปแบบของคำกริยาดังนี้ควร+ มี + อดีตกริยาควรถึง + + มีกริยาที่ผ่านมาซึ่งแสดงว่าเหตุการณ์นั้นๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เช่น- คุณควรจะได้มางานเลี้ยงเมื่อวานนี้ (แต่คุณไม่ได้..) - คุณไม่ควรจะออกจากบ้านคืนที่ผ่านมา (แต่ที่คุณทำ.) - เราควรจะได้เชื่อฟังเขา เขาเป็นครู ourown (แต่เราไม่ได้) ไม่ควรมี + + กริยาที่ผ่านมาไม่ควรที่จะมี+ + กริยาที่ผ่านมามีความหมายว่า แต่ได้กระทำไปแล้วเช่น- กิจการที่ได้รับการที่น่าเบื่อ ฉันไม่ควรจะได้ไปที่นั่น. - oughtn't พวกเขาจะได้รับหายไปจากโรงเรียนเมื่อวานนี้. 5 จำเป็นต้องต้องมีการได้มีความหมายว่า "ต้องทำ" ใช้เมื่อมีเหตุการณ์ภายนอกบังคับให้เราต้องทำเช่น- ฉันต้องไปในขณะนี้เพราะรถไฟจะออกจากที่หก. - เราจะต้องทำผลงานของเราอย่างเรียบร้อยหรือ เราจะไม่ได้รับเครื่องหมายที่ดี. ต้องใช้ต้องได้กับประธานทุกตัวมีความหมายว่า "ต้อง" โดยมีความมั่นใจ เมื่อจะใช้ต้องใน Tense อื่นต้องใช้มีการแทน- เราต้องออกเร็ว ๆ นี้. - พวกเขาจะต้องกลับบ้านก่อนพระอาทิตย์ตก. - ฉันจะต้องไปพบแพทย์เพราะผมรู้สึกไม่สบาย. - คุณต้องมีเครื่องชงกาแฟเพราะคุณดู ง่วงนอน. - หากคุณไม่ได้บอกเขาว่าเขาจะต้องได้รับหายไป. ต้องมี + + กริยา 3 มีความหมายแสดงการคาดคะเน แสงสุดาเป็นออก เธอต้องไปนอน. - สมศักดิ์ได้ในทุกเรื่อง เขาจะต้องมีการศึกษาอย่างหนัก. - ฉันไม่สามารถหากระเป๋าของฉัน มันจะต้องได้รับการถูกขโมยเมื่อผมอยู่บนรถบัส























































































































































































































































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
อีกกาลดั

งนั้นถ้าจะใช้สามารถในรูปกาลดังกล่าวจะต้องเปลี่ยนมาใช้รูป ' สามารถ '

2 the ในอดีตกาลนิยมใช้ ' สามารถ ' แทนผม

เพราะผมอาจมีความหมายเป็นปัจจุบันค็อคในอนาคตก็ได้

3แม้สามารถไม่มีรูปในอนาคตก็ตามแต่สามารถใช้ในความหมายที่เป็น

อนาคตได้โดยมากมักมีคำกริยาวิเศษณ์บอกเวลากำกับไว้ด้วย



วิธีการใช้สามารถ

1 ใช้แสดง " ความสามารถ " ( ความสามารถ ) หรืออาจจะใช้ในรูปปฏิเสธ

- สามารถขับรถยนต์ได้

- เธอสามารถพิมพ์ได้ 60 คำต่อนาที

- ฉันขับรถไม่เป็น

เธอไม่สามารถพิมพ์ 60 คำต่อนาที

2 ใช้แสดง " การขออนุญาต " และ " การอนุญาต " ( อนุญาต )

- ผมเข้าไปในห้อง

-- ใช่คุณสามารถ

3 ใช้แสดง " การคาดคะเน " ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ ( ความเป็นไปได้ )

- เธอสามารถทำงานเสร็จภายในพรุ่งนี้

วิธีการใช้ได้

1ใช้เป็นอดีตของสามารถ

- เมื่อผมเป็นเด็ก ผมสามารถวิ่งได้เร็ว

- ผมไม่สามารถเข้าใจคำอธิบายเมื่อวานของคุณ

2 สามารถใช้เป็นคำขอร้องที่สุภาพซึ่งมีความหมายเป็นปัจจุบันง่าย

- ผมขอยืมปากกาหน่อยครับ

-- คุณสามารถบอกเวลาฉันไป ?

3ได้ใช้แสดงความสามารถที่ไม่ได้ถูก past participle

นำออกมาใช้ความไม่ได้กระทำนั่นเอง

- พวกเขาอาจจะเริ่มทำงานเมื่อสองชั่วโมงก่อน

ผมก็เสร็จตั้งแต่ปี



2 อาจจะ

วิธีการใช้อาจ

1 ใช้แสดงความปรารถนาหรือเป็นการอวยพร

- ขอให้พระเจ้าคุ้มครองคุณ

- ขอให้ความฝันของคุณเป็นจริง

2 ใช้เป็นคำขออนุญาตที่สุภาพ

- ขอเปิดหน้าต่างได้ไหม

ขอผมออกไปครับ

3 ใช้เป็นคำอนุญาต

-- คุณอาจมีสิ่งที่คุณต้องการ

คุณไปได้

4 . ใช้แสดงข้อความที่อาจเป็นไปได้เป็นการคาดคะเน

- ความปรารถนาของคุณจะเป็นจริง

-- พวกเขาอาจได้รับข่าวของเราในวันหรือสองวัน

วิธีการใช้อาจ

1 ใช้เป็นอดีตของอาจ

- เขาถามฉันว่า เขาอาจจะพบความจริง

- เขากล่าวว่าเขาอาจจะมา

2 ใช้ในความหมายที่เป็นปัจจุบันกาลเมื่อ

a ต้องการแสดงความสุภาพเช่น

- ผมจะเปิดหน้าต่าง ต้องการแสดงข้อความที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต



B( แต่โอกาสเกิดขึ้นน้อยกว่าการใช้อาจ )

ความฝันของคุณจะเป็นจริง

Þความฝันของคุณจะเป็นจริง

3 อาจจะ ( อาจ ) มีกริยา 3

หมายถึงการคาดคะเนเหตุการณ์ที่ค่อนข้างจะไม่มั่นใจว่าได้ปรากฏ

ขึ้นในอดีตหรือไม่

เขาไม่ได้โทรศัพท์ฉัน เขาอาจจะ ( อาจจะ ) ลืม

เบอร์โทรศัพท์

- เธอไม่ได้มาเห็นฉัน เธอก็บอก เธออาจจะ ( อาจจะ ) ได้

พลาดรถบัส



3 ควร

ควรแปลว่า " ควร " ใช้ได้กับประธานทุกตัวมีความหมายเป็น

ปัจจุบันใช้เป็นคำแนะนำว่าควรทำหรือไม่ควรทำ

- คุณควรถามครูของคุณ ถ้าคุณไม่เข้าใจ

- คุณควรจะระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ผมแนะนำ

- คุณไม่ควรทำแบบนั้น รูปอดีตของจะ

ใช้ในประโยค

.

- การพูดทางอ้อม เขาบอกผมว่า ผมจะกลับบ้าน "

ตรงคำพูด

- เขาบอกฉันว่า ฉันควรกลับบ้าน

อ้อมพูด

B . ถ้าข้อ

- ถ้าฉันมาที่นี่ ในเวลาที่ผมเจอคุณ

- ถ้าผมเป็นคุณ ผมไม่ควรทำสิ่งที่โง่ .



4 .ควรจะ

การใช้ควรจะซึ่งแปลว่า " ควรทำ " เพราะเป็นหน้าที่

และเป็นการแสดงว่า " ควรจะเป็น " เช่นนั้นจริงๆเช่น

- คุณเป็นนักเรียน คุณควรจะทำตัวให้สุภาพ

- ทำงานหนักและคุณควรจะเชื่อฟังครู

เราได้เรียนภาษาอังกฤษมาหลายปี เรา

คงไม่สามารถพูดได้คล่อง



หมายเหตุการใช้อดีตของควรและควรจะ

กับประธานทุกตัวต้องใช้รูปแบบของคำกริยาดังนี้

น่าจะ past participle

น่าจะ past participle

ซึ่งแสดงว่าเหตุการณ์นั้นๆไม่ได้เกิดขึ้นจริงเหตุการณ์เกิดขึ้นตรงกันข้ามกับ

ข้อความที่พูดเช่น

- คุณน่าจะมางานเมื่อวานนี้ ( แต่เธอไม่ )

-- คุณไม่ควรออกจากบ้านเมื่อคืน ( แต่เธอ )

เราควรจะเชื่อฟังเขา เขาคือ ครู ourown . ( แต่เราไม่ได้ )



ไม่ควร past participle

ไม่ควรจะ past participle

มีความหมายว่าไม่ควรจะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดในอดีตแต่ได้กระทำไปแล้วเช่น

- งานเลี้ยงที่น่าเบื่อ ผมไม่ควรจะไปที่นั่น

- พวกเขาก็ไม่ต้องขาดเรียนไปเมื่อวานนี้



5 ต้อง , ต้อง

จะได้มีความหมายว่า " ต้องทำ " ใช้เมื่อมีเหตุการณ์ภายนอก

การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: