วันนี้ฉันได้เรียนวรรณกรรมเรื่อง Pulse of the Land ในเรื่องนั้นมีชวนอเมริกันคนหนึ่งไปที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีแต่เกาะทำให้หาน้ำจืดที่ใช้รับประทานได้ยาก เมื่อเขาและมัคคุเทศน์ได้ไปถึงบ้านหลังหนึ่ง เขาได้ขอน้ำเพื่อนกินทั้งหมด3ถ้วย แต่ถ้วยที่สามเขากินไม่หมดจึงเอามาราดหัวและล้างหน้า ดังประโยคที่ว่า.................................................... เขาไม่รู้ว่าการหาน้ำจืดมาได้แต่ละถ้วยมันยากแค่ไหน เพราะรอบๆมีแต่น้ำเค็ม น้ำจืดนั้นกว่าจะได้มาต้องใช้เวลารอที่นานมาก
ในความคิดของดิฉันคือ ชาวอเมริกัน พวกเขาอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายรวมไปถึงน้ำที่ใช้กินซึ่งมีมากมายจึงทำให้เขาไม่เห็นคุณค่าของน้ำ เขาสามารถใช้มากแค่ไหนก็ได้เพราะประเทศอเมริกาเป็นประเทศหนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจิรญทางด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา แต่สำหรับประเทศฟิลิปปินส์เป็นเกาะ ที่รอบๆมีเพียงน้ำเค็ม น้ำจืดที่ใช้กินนั้นมีน้อยมาก ใช้เวลาในการรอน้ำพอสมควรกว่าจะได้1กระบอก จึงทำให้คนฟิลิปปินส์เห็นคุณค่าของน้ำ ไม่ใช้อย่างสิ้นเปลือง
สรุปได้ว่าสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ความคิดของคนเราเปลี่ยนไปได้ เราไม่ควรคิดว่าความคิดของเรานั้นถูกเสมอไป อย่างเช่นในบทกวีที่ชาวอเมริกันใช้น้ำอย่างสิ้นเปลืองเพราะคิดว่าประเทศฟิลิปปินส์นั้นจะมีน้ำให้ใช้มากมายเหมือนประเทศของตน ดั้งนั้น ในวันนี้ทำให้ฉันได้เรียนรู้ในหลายๆเรื่อง รวมไปถึงการใช้น้ำอย่างประหยัดถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีน้ำใช้มากมายก็ตาม เพียงแค่นึกถึงประเทศที่ไม่มีน้ำจืดใช้อย่างพอเพียงก็จะทำให้เราประหยัดน้ำได้