In 1838 Charles Wheatstone’s resear

In 1838 Charles Wheatstone’s research demonstrated that the brain processes the different twodimensional images from each eye into a single object of three dimensions. Viewing two side by sidestereoscopic images or photos through a stereoscope gave the user a sense of depth and immersion.The later development of the popular View-Master stereoscope (patented 1939), was used for “virtualtourism”. The design principles of the Stereoscope is used today for the popular Google Cardboard andlow budget VR head mounted displays for mobile phones.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี ค.ศ. 1838 การวิจัยของ Charles Wheatstone แสดงให้เห็นว่าสมองประมวลผลภาพสองมิติที่แตกต่างกันจากตาแต่ละข้างให้เป็นวัตถุสามมิติชิ้นเดียว การดูภาพสามมิติหรือภาพถ่ายสองภาพเคียงข้างกันผ่านกล้องสามมิติทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงความลึกและความดื่มด่ำ การพัฒนาในภายหลังของกล้องสามมิติ View-Master ที่ได้รับความนิยม (จดสิทธิบัตรปี 1939) ถูกนำมาใช้สำหรับ " การท่องเที่ยวเสมือนจริง" หลักการออกแบบของ Stereoscope ถูกนำมาใช้ในปัจจุบันสำหรับ Google Cardboard ยอดนิยมและจอแสดงผล VR แบบติดศีรษะราคาประหยัดสำหรับโทรศัพท์มือถือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี ค.ศ. 1838 การวิจัยของชาร์ลส์ วิทสโตน แสดงให้เห็นว่าสมองประมวลผลภาพสองมิติที่แตกต่างกันของตาแต่ละข้างให้เป็นวัตถุสามมิติ และตรวจสอบเพื่อดูทั้งสอง
ช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกลึกซึ้งและดื่มด่ำผ่านภาพสามมิติหรือภาพถ่ายของกระจกสเตอริโอ
วิวัฒนาการต่อมาที่นิยม View Master Stereoscope (จดสิทธิบัตรในปี 1939) ถูกนำมาใช้ใน "เสมือนจริง
การท่องเที่ยว" หลักการออกแบบของ Stereoscope ถูกนำมาใช้ในวันนี้สำหรับ Google Cardboard ที่เป็นที่นิยมและ
ต้นทุนต่ำ VR Headwear แสดงโทรศัพท์มือถือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปีค.ศ. 1838การวิจัยของชาร์ลส์วิสโตนแสดงให้เห็นว่าสมองประมวลผลภาพสองมิติที่แตกต่างกันจากดวงตาแต่ละดวงเป็นวัตถุสามมิติเดียว ดู 2 ข้าง
ภาพสเตอริโอหรือภาพถ่ายที่ถ่ายผ่านกล้องสเตอริโอทําให้ผู้ใช้รู้สึกลึกซึ้งและมึนเมา
การพัฒนากระจกตาที่ได้รับความนิยม(จดสิทธิบัตรในปี1939 )ใช้สําหรับ"เสมือน"
การท่องเที่ยว". หลักการออกแบบของกระจกสเตอริโอใช้ในปัจจุบันสําหรับGoogleกระดาษแข็งที่ได้รับความนิยมและ
จอมอนิเตอร์VRงบประมาณต่ําสําหรับโทรศัพท์มือถือ