สิ่งล่อลวงที่มองไม่เห็น
ความเชื่อที่ต้องการนำเสนอมันคือความเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ความเชื่อที่มองไม่เห็นมันก็จำเป็นต้องนำเอาความรู้สึกขอเราไปเกี่ยวด้วย แต่มิย่าถามว่า ถ้ามิย่าเชื่อยูเอฟโอมิย่าต้องกลัวยูเอฟโอหรอ เราก็ตอบไม่ได้แต่ว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึก ถ้าเรารู้สึกมากเราก็เชื่อมากแต่ถ้ารู้สึกน้อยเราก็อาจจะเชื่อน้อยก็เป็นไปได้ ความเชื่อมันสามารถนำไปสู่ถึงความกลัว ทำไมมันถึงไปสู่ถึงความกลัว?
ความรู้สึก ความเชื่อ ความกลัว
มันอาจไม่ใช่แค่ความกลัวมันอาจจะมีความรู้สึกอื่นเข้ามาปะปนกับตัวงานด้วย วิดีโอต้องการให้เห็นถึงความเชื่อแต่มันก็ไปเกี่ยวโยงศาสนาจำพวกพิธีกรรมอยู่ด้วย เห็นได้ว่า religion is based primarily and mainly upon fear (ศาสนาเป็นรากฐานและส่วนใหญ่อยู่กับความกลัว) ความกลัวเป็นพื้นฐาน กลัวผี กลัวทุกข์ กลัวความไม่แน่นอน เพื่อให้เกิดความสงบสุขทางจิตใจคนเราจึงหันไปพึ่งไสยศาสตร์หรือพิธีกรรมแทน ดังนั้นวิดีโอยังไม่ถึงแก่นของความกลัวมันก็เลยไม่เกิดเป็นความเชื่อ
ทำไมถึงทำวิดีโอ – เพราะคิดว่ามันจะนำเสนอสิ่งที่เราต้องการจะบอก และนำเสนอเรื่องราวการทำพิธีกรรมที่เราเฟคมันขึ้นมาเอง เพื่อให้คนดูเชื่อ เวลาตอนกลางคืนเพื่อให้เกิดความน่ากลัว ซาวน์วิดีโอเป็นเสียงร้องเพลงปีใหม่ของเผ่ามูเซอและเสียงหมาหอนตอนที่กำลังถ่ายวิดีโอ ตอนที่ถ่ายอยู่มันเป็นป่ามืดและมันน่ากลัวมาก การเล่าเรื่องเป็นไปตามลำดับแต่ผลลัพธ์ที่ออกมามันไม่ดีเท่าที่ควร อย่างที่Niccolasบอก เราต้องหมกหมุ่นกับมัน ไม่ใช่สร้างเรื่องราวแล้วเอามาหลอก ความคาดหวังว่าคนดูจะเชื่อแต่กลับเป็นไม่เชื่อแทน งานมันเลยออกมาดูเบามาก การสื่อสารที่ออกมาน้อย มันอาจจะเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าของฉันเท่านั้น ที่มีทั้งความเห็นด้วยและเห็นด้วยเกี่ยวกับความเชื่อทางพิธีกรรม ไสยศาสตร์ และศาสนา