In mechanical solidarity societies,

In mechanical solidarity societies, beliefs and rules are so strongly shared that they come to be embodied as religion, or as quasi-religious attributes of society; they make up what Durkheim calls the conscience collective of the society. This term denotes the 'totality of beliefs and sentiments' which are held by all ordinary members of society. The task of rule enforcement in such: a society is to provide procedures not whereby differences can be reconciled, but whereby the occasional transgressor can be shown the offence s/he has caused to the other members of society, and whereby rule-keeping members can be assured that the rules violated are still important. Durkheim says that the form of law that develops in such societies will be repressive: anyone who departs from the conscience collective is, by definition, mad or bad and thus needs to be repressed. Furthermore, offences are against the conscience of the whole society; they therefore have a quality of sacrilegiousness that calls for repressive punishment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในกลความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในสังคมความเชื่อและกฎระเบียบที่จะใช้ร่วมกันอย่างมากที่พวกเขามาเป็นที่เป็นตัวเป็นตนเป็นศาสนาหรือเป็นลักษณะเสมือนศาสนาของสังคมที่พวกเขาทำขึ้นสิ่งที่ Durkheim เรียกจิตสำนึกส่วนรวมของสังคม คำนี้หมายถึง 'จำนวนทั้งสิ้นของความเชื่อและความรู้สึก' ซึ่งจะจัดขึ้นโดยสมาชิกสามัญทั้งหมดของสังคม งานของการบังคับใช้กฎดังกล่าว:สังคมคือการให้วิธีการที่แตกต่างกันโดยไม่สามารถคืนดี แต่ด้วยเหตุละเมิดเป็นครั้งคราวสามารถแสดงความผิด s / เขาได้ก่อให้เกิดสมาชิกคนอื่น ๆ ของสังคมและสมาชิกโดยกฎการรักษาสามารถมั่นใจได้ว่ากฎละเมิดยังคงมี สำคัญ Durkheim กล่าวว่ารูปแบบของกฎหมายที่พัฒนาในสังคมดังกล่าวจะปราบปราม:ทุกคนที่ออกจากจิตสำนึกส่วนรวมเป็นโดยนิยามบ้าหรือไม่ดีจึงต้องมีการปราบปราม นอกจากนี้การกระทำที่มีต่อจิตสำนึกของสังคมทั้งที่พวกเขาจึงมีคุณภาพของ sacrilegiousness ที่เรียกร้องให้ลงโทษปราบปราม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในสังคมกลเอกภาพ ความเชื่อและกฎเพื่อขอร่วมพวกเขามาถูกรวบรวม เป็นศาสนา หรือ เป็นลักษณะกึ่งศาสนาของสังคม พวกเขาได้ขึ้นว่า Durkheim จิตสำนึกรวมของสังคม คำนี้หมายถึงที่ 'ผลของความเชื่อและรู้สึก' ซึ่งจัดขึ้น โดยสมาชิกสามัญทั้งหมดของสังคม งานของการบังคับใช้กฎในเช่น: สังคมจะมีขั้นตอน โดยความแตกต่างสามารถกระทบยอดไม่ แต่ โดย transgressor เป็นครั้งคราวสามารถแสดงความผิดหล่อเกิดกับสมาชิกอื่นของสังคม และ โดยกฎเก็บสมาชิกสามารถจะมั่นใจได้ที่ ละเมิดกฎสำคัญยังคง Durkheim กล่าวว่า รูปแบบของกฎหมายที่พัฒนาในสังคมดังกล่าวจะกดขี่: คนที่ออกจากจิตสำนึกรวม มี คำนิยาม บ้า หรือไม่ดี และจึง ต้องถูก repressed นอกจากนี้ คืออยู่กับจิตสำนึกของสังคมทั้งหมด นอกจากนี้พวกเขาจึงมีคุณภาพของ sacrilegiousness ที่ต้องโทษอดกลั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในสังคมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและกฎระเบียบเกี่ยวกับกลไกและความเชื่อเป็นอย่างมากใช้ร่วมกันซึ่งมันจะได้เป็นพระเอกหรือศาสนาเป็นแอตทริบิวต์เสมือน - ทางศาสนาของสังคมทำให้ได้อะไร, Durkheim สายความรู้สึกผิดชอบชั่วดีร่วมกันของสังคม คำนี้หมายถึง" ภาพรวม ทั้งหมดของความเชื่อและความเชื่อมั่นซึ่งจะมีการประชุมโดยสมาชิกสามัญทั้งหมดของสังคม งานของการบังคับใช้กฎข้อที่อยู่ในนั้นสังคมที่มีการจัดให้บริการตามขั้นตอนไม่ได้ซึ่งความแตกต่างสามารถปรับให้ตรงกันซึ่งผู้ละเมิดแต่เป็นบางครั้งบางคราวนั้นสามารถแสดง S ความผิดที่เขาได้ทำให้เกิดกับสมาชิกอื่นๆของสังคมและซึ่งสมาชิกกฎข้อที่รักษาไว้ซึ่งลักษณะแบบสามารถมั่นใจได้ว่ากฎระเบียบที่ละเมิดยังคงมีความสำคัญ , Durkheim กล่าวว่ารูปแบบของกฎหมายที่พัฒนาขึ้นในสังคมเช่นว่านั้นจะกดขี่ใครก็ตามที่จะออกเดินทางจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดีร่วมกันโดยมีความละเอียดบ้าหรือไม่ดีและจะต้องอัดอั้นตันใจ ยิ่งไปกว่านั้นมีความผิดต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของสังคมทั้งหมดที่พวกเขาดังนั้นจึงต้องมี คุณภาพ ของ sacrilegiousness ที่สายเพื่อลงโทษผู้กดขี่