Ureases (EC 3.5.1.5), functionally,

Ureases (EC 3.5.1.5), functionally, belong to the superfamily of amidohydrolases and phosphotriesterases.[1] It is an enzyme that catalyzes the hydrolysis of urea into carbon dioxide and ammonia. The reaction occurs as follows:

(NH2)2CO + H2O → CO2 + 2NH3
More specifically, urease catalyzes the hydrolysis of urea to produce ammonia and carbamate; the carbamate produced is subsequently degraded by spontaneous hydrolysis to produce another ammonia and carbonic acid.[2] Urease activity tends to increase the pH of its environment as it produces ammonia, a basic molecule. Ureases are found in numerous bacteria, fungi, algae, plants and some invertebrates, as well as in soils, as a soil enzyme. They are nickel-containing metalloenzymes of high molecular weight.[3]

In 1926, James B. Sumner, an assistant professor at Cornell University, showed that urease is a protein by examining its crystallized form.[4] Sumner's work was the first demonstration that a pure protein can function as an enzyme, and led eventually to the recognition that most enzymes are in fact proteins, and the award of the Nobel prize in chemistry to Sumner in 1946.[5] The structure of urease was first solved by P. A. Karplus in 1995. Urease was the first ever enzyme crystallized.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Ureases (EC 3.5.1.5), หน้าที่ อยู่ใน superfamily amidohydrolases และ phosphotriesterases [1]เป็นเอนไซม์ที่ catalyzes ย่อยสลายของยูเรียคาร์บอนไดออกไซด์และแอมโมเนีย ปฏิกิริยาเกิดขึ้นเป็นดังนี้:(NH2) 2CO + H2O → CO2 + 2NH3โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอนไซม์ catalyzes ย่อยสลายของยูเรียแอมโมเนียและ carbamate ต่อมามีการสลายตัว carbamate ที่ผลิต โดยธรรมชาติย่อยสลายผลิตแอมโมเนียและกรดคาร์บออีก [2] เอนไซม์กิจกรรมมีแนวโน้มจะ เพิ่ม pH ของสภาพแวดล้อมผลิตแอมโมเนีย โมเลกุลพื้นฐาน Ureases ที่พบ ในแบคทีเรียจำนวนมาก เชื้อรา สาหร่าย พืช และไม่มีกระดูกสันหลังบาง รวม ทั้ง ใน ดิน เป็นเอนไซม์ดิน มีนิกเกิลที่ประกอบด้วย metalloenzymes ของโมเลกุลสูง [3]ในปี 1926, James B. ซัมเนอร์ เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัย Cornell แสดงให้เห็นว่าเอนไซม์เป็นโปรตีน โดยการตรวจสอบรูปแบบ crystallized [4] ซัมเนอร์ของงานเป็นครั้งแรกว่า โปรตีนบริสุทธิ์สามารถทำหน้าที่เป็นเอนไซม์ และในที่สุดนำไปสู่การรับรู้ว่า เอนไซม์ส่วนใหญ่จะจริงโปรตีน และรางวัลโนเบลสาขาเคมีที่ซัมเนอร์ในปี 1946 [5] โครงสร้างของเอนไซม์ถูกแก้ไข โดย P. A. Karplus ครั้งแรกในปี 1995 ครั้งแรกที่เคยตกผลึกเอนไซม์เอนไซม์ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Ureases (EC 3.5.1.5) หน้าที่เป็น superfamily ของ amidohydrolases และ phosphotriesterases ได้. [1] มันเป็นเอนไซม์ที่ย่อยสลายยูเรียเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และแอมโมเนีย ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้

(NH2) 2CO + H2O + CO2 → 2NH3
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง urease เร่งปฏิกิริยาการย่อยสลายของยูเรียในการผลิตแอมโมเนียและคาร์บาเมนั้น คาร์บาเมผลิตมีการสลายตัวภายหลังจากการย่อยสลายที่เกิดขึ้นเองในการผลิตแอมโมเนียอื่นและกรดคาร์บอ. [2] กิจกรรม urease แนวโน้มที่จะเพิ่มค่า pH ของสภาพแวดล้อมในขณะที่มันผลิตแอมโมเนียโมเลกุลพื้นฐาน Ureases จะพบในแบคทีเรียหลายเชื้อราสาหร่ายพืชและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังบางเช่นเดียวกับในดินเช่นเอนไซม์ดิน พวกเขาจะมีนิกเกิลเมทัลโลของน้ำหนักโมเลกุลสูง. [3]

ในปี 1926 เจมส์บี Sumner, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่ Cornell University พบว่า urease เป็นโปรตีนโดยการตรวจสอบรูปแบบเกล็ดของมัน. [4] การทำงานของ Sumner เป็นสาธิตแรกที่เป็นโปรตีนบริสุทธิ์สามารถทำหน้าที่เป็นเอนไซม์และนำไปสู่การรับรู้ว่าเอนไซม์ส่วนใหญ่อยู่ในโปรตีนความเป็นจริงและได้รับรางวัลของรางวัลโนเบลสาขาเคมี Sumner ในปี 1946 [5] โครงสร้างของ urease ถูกแก้ไขครั้งแรกโดย PA Karplus ยูรีเอสในปี 1995 เป็นครั้งแรกที่เคยเอนไซม์แช่อิ่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ureases ( EC 3.5.1.5 ) โดยต้องเป็นของซูเปอร์แฟมิลีของ amidohydrolases และ phosphotriesterases . [ 1 ] มันเป็นเอนไซม์ที่กระตุ้นการย่อยสลายของยูเรียเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และแอมโมเนีย ปฏิกิริยาเกิดขึ้นดังนี้( nh2 ) 2CO + CO2 + H2O → keyboard - key - name 2nh3และมากขึ้นโดยเฉพาะ ที่มีการย่อยสลายของยูเรียเพื่อผลิตแอมโมเนีย และคาร์บาเมต ; เมตที่ผลิตโดยการย่อยสลายโดยธรรมชาติเพื่อผลิตแอมโมเนียอีก และรัฐอาร์คันซอ [ 2 ] กิจกรรมที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเป็นกรดด่างของสภาพแวดล้อม เช่น ผลิตแอมโมเนียโมเลกุลเบื้องต้น ureases พบในแบคทีเรียมากมาย รา สาหร่าย พืชและสัตว์ รวมทั้งในดินเป็นดินที่เอนไซม์ พวกเขาจะ metalloenzymes ของนิกเกิลที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง [ 2 ]ในปี 1926 , เจมส์ บี. ซัมเนอร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัย คอร์เนลล์ พบว่าเป็นโปรตีนโดยการตรวจสอบที่มีการตกผลึกแบบ คือ [ 4 ] ซัมเมอร์เป็นครั้งแรกที่งานสาธิตโปรตีนบริสุทธิ์สามารถทำหน้าที่เป็นเอนไซม์ ทำให้ในที่สุดก็ต้องยอมรับว่าเอนไซม์เป็นโปรตีนในความเป็นจริงมากที่สุด และรางวัลรางวัลโนเบลสาขาเคมี ซัมเนอร์ใน 1946 . [ 5 ] โครงสร้างที่มีอยู่ก่อนแล้ว . . คาร์พลัสใน 1995 เป็นครั้งแรกที่มีเอนไซม์เป็นก้อน .