INTRODUCTION Amylase is an enzyme t

INTRODUCTION Amylase is an enzyme that breaks starch down into sugar. Amylase is present in human saliva, where it begins the chemical process of digestion. Foods that contain much starch but little sugar, such as rice and potato, taste slightly sweet as they are chewed because amylase turns some of their starch into sugar in the mouth. Plants and some bacteria also produce amylase. As diastase, amylase was the first enzyme to be discovered and isolated (by Anselme Payen in 1833). All amylases are glycoside hydrolases and act on α-1,4-glycosidic bonds. Amylases are significant enzymes for their specific use in the industrial starch conversion process. Amylolytic enzymes act on starch and related oligo- and polysaccharides. In the food industry amylolytic enzymes have a large scale of applications, such as the production of glucose syrups, high fructose corn syrups, maltose syrup, reduction of viscosity of sugar syrups, reduction of turbidity to produce clarified fruit juice for longer shelf-life, solubilisation and saccharification of starch in the brewing industry. The baking industry uses
amylases to delay the staling of bread and other baked products; the paper industry uses amylases for the reduction of starch viscosity to achieve the appropriate coating of paper. Amylase enzyme is used in the textile industry for warp sizing of textile fibers, and used as a digestive aid in the pharmaceutical industry. Amylases are a group of important enzymes which are mainly employed in the starch processing industries for the hydrolysis of polysaccharides like starch into simple sugars (Akpan et al., 1999; Mitchell and Lonsane, 1990; Damien et al., 2010). Amylases accounts for about 30% of the world’s enzyme production (Vander et al., 2002; Rita et al., 2009). Amylase enzyme for biofilm removal and degradation of extracellular polymeric substances (EPS) produced by Pseudomonas fluorescens bacteria.( Phyllis Molobela,T. Eugene Cloeteand Mervyn Beukes, 2010). The amylase of Bacillus amyloliquefaciens was the first liquefying α-amylase used on a large scale. Later, a more heat stable enzyme from Bacillus licheniformis was introduced commercially (Madsen et al., 1973).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำอะไมเลสเป็นเอนไซม์ที่สลายแป้งเป็นน้ำตาล อะไมเลสมีอยู่ในน้ำลายมนุษย์ ที่เริ่มต้นกระบวนการทางเคมีของการย่อยอาหาร อาหารที่ประกอบด้วยแป้งมากแต่น้ำตาลเล็กน้อย เช่นข้าวและมันฝรั่ง รสชาติหวานเล็กน้อย ตามที่พวกเขาจะเคี้ยวเนื่องจากอะไมเลสเปลี่ยนบางส่วนของแป้งเป็นน้ำตาลในปาก พืชและแบคทีเรียบางยังผลิตอะไมเลส เป็น diastase อะไมเลสเป็นเอนไซม์ตัวแรกที่ถูกค้นพบ และแยก (โดย Payen สกุลนี้ใน 1833) ทั้งหมด amylases จะ glycoside hydrolases และทำหน้าที่บนα 1, 4 glycosidic พันธบัตร Amylases มีเอนไซม์ที่สำคัญสำหรับการใช้เฉพาะในกระบวนการแปลงอุตสาหกรรมแป้ง เอนไซม์ amylolytic ทำแป้ง และที่เกี่ยวข้องกับโอลิ - และไรด์ ในอาหารที่ เอนไซม์ amylolytic อุตสาหกรรมมีขนาดใหญ่ของการใช้งาน การผลิตน้ำเชื่อมกลูโคส maltose น้ำเชื่อม น้ำเชื่อมข้าวโพดฟรักโทสสูง ลดความหนืดของน้ำเชื่อมน้ำตาล ลดความขุ่นในการผลิตน้ำผลไม้ใสสำหรับการต่ออายุ solubilisation และ saccharification แป้งในอุตสาหกรรมผลิตเบียร์ อุตสาหกรรมการอบใช้ ผลิตภัณฑ์ อบ amylases รีรอ staling ขนมปังและอื่น ๆ อุตสาหกรรมกระดาษใช้ amylases สำหรับการลดความหนืดของแป้งเพื่อให้เกิดการเคลือบที่เหมาะสมของกระดาษ เอนไซม์อะไมเลสเป็นใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอสำหรับวาร์ปขนาดของเส้นใยสิ่งทอ และใช้เป็นเครื่องช่วยการย่อยอาหารในอุตสาหกรรมยา Amylases คือ กลุ่มของเอนไซม์ที่สำคัญซึ่งส่วนใหญ่ทำงานในแป้งแปรรูปอุตสาหกรรมสำหรับย่อยสลายของไรด์เช่นแป้งเป็นน้ำตาลอย่างง่าย (Akpan et al. 1999 มิทเชลและ Lonsane, 1990 Damien et al. 2010) Amylases บัญชีสำหรับประมาณ 30% ของการผลิตเอนไซม์ของโลก (Vander et al. 2002 Rita et al. 2009) เอนไซม์อะไมเลสสำหรับฟิล์มกำจัดและย่อยสลายของสารโพลีเมอร์สาร (EPS) ผลิต โดยเชื้อแบคทีเรีย Pseudomonas fluorescens (สาธินี Molobela, T. Eugene Cloeteand Mervyn Beukes, 2010) อะไมเลสเป็นของ Bacillus amyloliquefaciens แรก liquefying α-อะไมเลสที่ใช้ในขนาดใหญ่ได้ ในภายหลัง เอนไซม์มีเสถียรภาพความร้อนเพิ่มเติมจากบาซิลลัส licheniformis ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ (แมดเซน et al. 1973)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำเป็นเอนไซม์อะไมเลสที่แบ่งแป้งลงไปในน้ำตาล อะไมเลสที่มีอยู่ในน้ำลายของมนุษย์ที่จะเริ่มต้นกระบวนการทางเคมีของการย่อยอาหาร อาหารที่มีแป้งมาก แต่น้ำตาลน้อยเช่นข้าวและมันฝรั่งรสหวานเล็กน้อยในขณะที่พวกเขากำลังเคี้ยวเพราะอะไมเลสจะเปิดบางส่วนของแป้งเป็นน้ำตาลของพวกเขาในปาก พืชและแบคทีเรียบางชนิดยังผลิตอะไมเลส ในฐานะที่เป็น diastase, อะไมเลสเป็นเอนไซม์แรกที่ถูกค้นพบและแยก (โดย Anselme Payen 1833) อะมัยเลสทั้งหมดจะถูก glycoside hydrolases และดำเนินการกับพันธบัตรα-1,4-glycosidic Amylases เอนไซม์ที่สำคัญสำหรับการใช้งานเฉพาะของพวกเขาในขั้นตอนการแปลงแป้งอุตสาหกรรม เอนไซม์เอนไซม์ทำหน้าที่เกี่ยวกับแป้งและ oligo- ที่เกี่ยวข้องและ polysaccharides ในอุตสาหกรรมอาหารเอนไซม์เอนไซม์มีขนาดใหญ่ของการใช้งานเช่นการผลิตน้ำเชื่อมกลูโคสฟรุกโตสสูงน้ำเชื่อมข้าวโพดน้ำเชื่อมมอลโตสที่ลดลงของความหนืดของน้ำเชื่อมน้ำตาลลดความขุ่นในการผลิตน้ำผลไม้ชี้แจงสำหรับอายุการเก็บรักษาอีกต่อไป solubilisation และ saccharification ของแป้งในอุตสาหกรรมเบียร์ อุตสาหกรรมการอบใช้
อะมัยเลสที่จะชะลอการ staling ของขนมปังอบและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ; อุตสาหกรรมกระดาษใช้อะมัยเลสสำหรับการลดความหนืดของแป้งเพื่อให้บรรลุการเคลือบกระดาษที่เหมาะสม เอนไซม์อะไมเลสที่ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอสำหรับการปรับขนาดวิปริตของเส้นใยสิ่งทอและใช้เป็นเครื่องช่วยย่อยอาหารในอุตสาหกรรมยา Amylases เป็นกลุ่มของเอนไซม์ที่สำคัญที่มีการจ้างงานส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมแปรรูปแป้งสำหรับการย่อยสลายของ polysaccharides เช่นแป้งเป็นน้ำตาลอย่างง่าย (Akpan et al, 1999;. มิตเชลล์และ Lonsane, 1990;. เดเมี่ยน, et al, 2010) บัญชี Amylases ประมาณ 30% ของการผลิตเอนไซม์ของโลก (Vander, et al., 2002; ริต้า et al, 2009). เอนไซม์อะไมเลสสำหรับการกำจัดไบโอฟิล์มและการย่อยสลายของสารพอลิเมอสาร (EPS) ที่ผลิตโดยแบคทีเรีย Pseudomonas fluorescens. (ฟิลลิส Molobela ที. ยู Cloeteand เมอร์วิน Beukes 2010) อะไมเลสจาก Bacillus amyloliquefaciens เป็นครั้งแรกที่เป็นของเหลวαอะไมเลสที่ใช้ในขนาดใหญ่ ต่อมาความร้อนมากขึ้นเอนไซม์ที่มีเสถียรภาพจาก Bacillus licheniformis ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ (เซน et al., 1973)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนําเลส เป็นเอนไซม์ที่ทำลายลงในแป้งน้ำตาล พบมีอยู่ในน้ำลายของมนุษย์ ซึ่งจะเริ่มกระบวนการทางเคมีของการย่อยอาหาร อาหารที่ประกอบด้วยแป้ง น้ำตาลมาก แต่น้อย เช่นข้าวและมันฝรั่ง รสหวานเล็กน้อยเช่นที่พวกเขาจะเคี้ยว เพราะเลสเปลี่ยนบางส่วนของแป้งในน้ำตาลในช่องปาก พืช และแบคทีเรียบางชนิดผลิตอะไมเลส . เป็น diastase อะไมเลสเป็นเอนไซม์แรกถูกค้นพบและแยก ( โดย anselme payen ใน 1833 ) ทุกกลุ่ม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะทำไกลโคไซด์ไฮโดรเลสและแอลฟา 1,4-glycosidic พันธบัตร กลุ่ม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นเอนไซม์ที่สำคัญสำหรับการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงของพวกเขาในอุตสาหกรรมแป้งการแปลงกระบวนการ ไมโลไลติกเอนไซม์ทำแป้ง และโอลิโก - ที่เกี่ยวข้องและ polysaccharides ในอุตสาหกรรมอาหารไมโลไลติกเอนไซม์มีขนาดใหญ่ของการใช้งาน เช่น การผลิตน้ำเชื่อมกลูโคส ฟรักโทสข้าวโพดน้ำเชื่อมมอลโตสไซรัป , ลดความหนืดของน้ำเชื่อม น้ำตาล ลดความขุ่นเพื่อผลิตน้ำผลไม้เพื่อชี้แจงอีกต่อไป ( solubilisation เส้น , และแป้งในอุตสาหกรรมเบียร์ อุตสาหกรรมการอบใช้กลุ่ม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อหน่วงเวลาสเตลิ่งของขนมปังและผลิตภัณฑ์ขนมอบอื่นๆ อุตสาหกรรมกระดาษ การใช้กลุ่ม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อลดความหนืดของแป้งเพื่อให้บรรลุผิวเคลือบที่เหมาะสมของกระดาษ เอนไซม์อะไมเลสที่ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ วิปริตขนาดของเส้นใยสิ่งทอ และใช้เป็นตัวช่วยย่อยอาหารในอุตสาหกรรมเภสัชกรรม กลุ่ม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีกลุ่มของเอนไซม์ที่สำคัญซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรมการแปรรูปแป้งสำหรับการย่อยสลายของ polysaccharides เช่นแป้งให้เป็นน้ำตาลง่าย ( akpan et al . , 1999 ; มิเชล และ lonsane 1990 ; เดเมี่ยน et al . , 2010 ) กลุ่ม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบัญชีประมาณ 30 % ของการผลิตเอนไซม์ของโลก ( วันเดอร์ et al . , 2002 ; ริต้า et al . , 2009 ) เอนไซม์อะไมเลสเพื่อกำจัดไบโอฟิล์มและการเสื่อมสภาพของพอลิเมอร์และสาร ( EPS ) ที่ผลิตโดยแบคทีเรีย Pseudomonas fluorescens ( ฟิลลิส molobela . ยูจีน cloeteand Mervyn Beukes , 2010 ) ส่วนเลสของ Bacillus amyloliquefaciens เป็นครั้งแรก liquefying แอลฟาอะไมเลสที่ใช้ในขนาดใหญ่ ต่อมา ความร้อนจาก Bacillus licheniformis เอนไซม์มีเสถียรภาพมากขึ้นใช้ในเชิงพาณิชย์ ( แมดเซ่น et al . , 1973 )