Weber, like Durkheim, saw constitut

Weber, like Durkheim, saw constitutive connections between economic forms and cultural forms. In contrast to Marx, who, as we shall see in Chapter 7, saw the economic system of a society as determining other cultural subsystems, Weber looked at the connection between culture and economy the other way round, and in his famous work, The Protestant Ethic and the spirit of Capitalism (1930, originally published in 1905), he explored the reasons why capitalism had arisen in the societies of north¬ern Europe rather than elsewhere He found his answer in the religious beliefs of the capitalist countries: Protestantism, he said, had a positive attitude to the accumulation of wealth by individuals and their families, and it encouraged individual achievement rather than sacrifice on behalf of the wider community. Weber sees, as do Durkheim and Marx, that once an economic system has developed, it then influences other social for-mations. In his other major work, Economy and Society (1978, originally published in 1920), he looks at the types of social institution that will best serve a modern capitalist state. It is his descriptions of modern forms of authority and rationality that have been most fruitful for the sociology of punishment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เวเบอร์เช่น Durkheim เห็นการเชื่อมต่อที่เป็นส่วนประกอบระหว่างรูปแบบทางเศรษฐกิจและรูปแบบทางวัฒนธรรม ในทางตรงกันข้ามกับมาร์กซ์ที่ดังที่เราจะเห็นในบทที่ 7 เห็นระบบเศรษฐกิจของสังคมในขณะที่การกำหนดระบบย่อยทางวัฒนธรรมอื่น ๆ , เวเบอร์มองไปที่การเชื่อมต่อระหว่างวัฒนธรรมและเศรษฐกิจรอบทางอื่น ๆ และในงานที่มีชื่อเสียงของเขาโปรเตสแตนต์ จริยธรรมและจิตวิญญาณของทุนนิยม (1930,ตีพิมพ์ในปี 1905) เขาสำรวจเหตุผลที่ทุนนิยมเกิดขึ้นในสังคมของภาคเหนือฌเอิยุโรปมากกว่าที่อื่น ๆ เขาก็พบว่าคำตอบของเขาในความเชื่อทางศาสนาของประเทศทุนนิยม: โ​​ปรเตสแตนต์เขากล่าวว่ามีทัศนคติในเชิงบวกต่อการสะสม ของความมั่งคั่งโดยบุคคลและครอบครัวของพวกเขาและจะสนับสนุนความสำเร็จของแต่ละบุคคลมากกว่าที่จะเสียสละในนามของชุมชนที่กว้างขึ้น เวเบอร์เห็นเป็นไม่ Durkheim และมาร์กซ์ว่าเมื่อระบบเศรษฐกิจได้พัฒนามันก็มีอิทธิพลต่อสังคมอื่น ๆ สำหรับ mations อื่น ๆ ของเขาในการทำงานที่สำคัญทางเศรษฐกิจและสังคม (1978, ตีพิมพ์ในปี 1920) เขามองไปที่ประเภทของสถ​​าบันทางสังคมที่ดีที่สุดที่จะให้บริการของรัฐทุนนิยมสมัยใหม่มันเป็นรายละเอียดของรูปแบบที่ทันสมัย​​ของผู้มีอำนาจและเป็นเหตุเป็นผลที่ได้รับผลมากที่สุดสำหรับสังคมวิทยาของการลงโทษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เวเบอร์ เช่น Durkheim เห็นการเชื่อมต่อระหว่างรูปแบบทางเศรษฐกิจและรูปแบบทางวัฒนธรรมขึ้น ตรงข้าม Marx ที่ เราจะเห็นในบทที่ 7 เห็นระบบเศรษฐกิจของสังคมเป็นการกำหนดย่อยอื่น ๆ วัฒนธรรม เวเบอร์มองการเชื่อมต่อระหว่างวัฒนธรรมและเศรษฐกิจวิธีอื่น ๆ รอบ และ ในงานของเขามีชื่อเสียง The Protestant จริยธรรม และจิตวิญญาณของทุนนิยม (1930 ตีพิมพ์ครั้งแรก เมื่อปีพ.ศ. 2448 สมัย), เขาสำรวจสาเหตุว่าทำไมทุนนิยมได้เกิดขึ้นในสังคมของ north¬ern ยุโรป มากกว่าอื่น ๆ เขาพบคำตอบของเขาในความเชื่อทางศาสนาของประเทศทุน: โปรเตสแตนต์ เขากล่าว มีทัศนคติบวกให้สะสมโดยบุคคลและครอบครัว และจะสนับสนุนให้สำเร็จละแต่กว่าเสียสละแทนชุมชนกว้างขึ้น แบ่งแยกเห็น ทำ Durkheim และ Marx มีผลว่า เมื่อมีพัฒนาระบบการเศรษฐกิจ มันแล้วต่ออื่น ๆ สังคมสำหรับ-mations ในเขาใหญ่งานอื่น ๆ เศรษฐกิจและสังคม (1978 เผยแพร่ครั้งแรก ในปี 1920), เขามองประเภทของสถาบันทางสังคมที่ส่วนทุนรัฐสมัยใหม่ คำอธิบายรูปแบบสมัยใหม่ของหน่วยงานและ rationality ที่ประสบมากที่สุดสำหรับสังคมวิทยาของการลงโทษ เขาได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Weber เหมือน, Durkheim เห็นการเชื่อมต่อส่วนประกอบระหว่างรูปแบบทางวัฒนธรรมและรูปแบบทางเศรษฐกิจ ในทางตรงกันข้ามกับตลกที่เราจะได้เห็นในบทที่ 7 เห็นว่าระบบเศรษฐกิจสังคมที่เป็นการกำหนดระบบย่อยทางวัฒนธรรมอื่นๆ Weber มองไปที่การใช้การเชื่อมต่อระหว่างทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมทางอื่นๆที่อยู่รอบในการทำงานและมีชื่อเสียงของเขาจริยธรรมโปรเตสแตนต์และวิญญาณของระบบทุนนิยม( 1930แต่เดิมจัดพิมพ์ไว้ใน 1905 )เขาสำรวจด้วยเหตุผลที่ว่าทำไมระบบทุนนิยมได้ถือกำเนิดขึ้นในสังคมของประเทศในทวีปยุโรป ทิศเหนือ ¬ นกอินทรีทะเลมากกว่าที่อื่นเขาได้พบคำตอบของเขาในความเชื่อทางศาสนาของประเทศทุนนิยมที่โปรเตสแตนท์เขาก็บอกว่ามีทัศนคติที่ดีในการการสะสมของความมั่งคั่งโดยบุคคลและครอบครัวของเขาและเป็นการส่งเสริมให้การประสบความสำเร็จแบบเฉพาะรายมากกว่าเครื่องบูชาในนามของชุมชนที่กว้าง Weber เห็นว่ามันเป็นอะไรที่ตลก, Durkheim และเมื่อระบบเศรษฐกิจที่มีการพัฒนาแล้วมีอิทธิพลต่อสังคมอื่นๆสำหรับ - mations ในงานสำคัญอื่นๆของเขาทางเศรษฐกิจและสังคม( 1978 ซึ่งแต่เดิมจัดพิมพ์ไว้ในช่วงทศวรรษที่ 1920 )เขามีลักษณะที่ ประเภท ของสถาบันทางสังคมที่จะจัดให้บริการรัฐทุนนิยมสมัยใหม่ที่ดีที่สุดเป็นคำอธิบายของเขาในรูปแบบที่ทันสมัยของความมีเหตุผลและหน่วยงานที่ได้รับการผลมากที่สุดสำหรับสังคมของการลงโทษ