Throughout 2010, most companies wit

Throughout 2010, most companies with a rating headroom (A+) such as GSK, Roche, Sanofi- Aventis, and Bristol-Meyers Squibb pursued opportunities to broaden product offerings and expand geographically along with their R&D programmes. Nevertheless, such defensive strategies are likely to lead to a decline in profitability over time due to the rapid increase in the cost of prescription drug containment by regulatory agencies, health authorities, and third-party payers, as well as the near- term drug patent lapses dampening current restructuring and ‘efficiency’ efforts. High-profile managers of all of those companies are therefore facing increasing challenges such as responding to higher demand to deliver larger profits from increasingly smaller promotional budgets in the midst of a very turbulent environment: the world pharmaceutical market was worth an estimated €484 130 million ($663 500 million) at ex-factory prices in 2007. North America accounted for 45.9% of world pharmaceutical sales against 31.1% for Europe, but the European market outpaced the US market in terms of growth (6.7 vs. 4.2%).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตลอดปี 2010 บริษัท ส่วนใหญ่มีคะแนนเหนือกว่า (ก) เช่น GSK, โรชซาโนฟี่อเวนตีส-และบริสตอเมเยอร์ส Squibb ตามโอกาสที่จะขยายการนำเสนอผลิตภัณฑ์และขยายทางภูมิศาสตร์พร้อมกับ r ของพวกเขา&งโปรแกรม แต่กลยุทธ์การป้องกันดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่​​การลดลงในการทำกำไรในช่วงเวลาเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในค่าใช้จ่ายของบรรจุยาตามใบสั่งแพทย์โดยหน่วยงานกำกับดูแลหน่วยงานด้านสุขภาพและผู้จ่ายเงินของบุคคลที่สามเป็นระยะใกล้นาคสิทธิบัตรยาต้าน การปรับโครงสร้างในปัจจุบันและมีประสิทธิภาพความพยายามผู้จัดการสูงโปรไฟล์ทั้งหมดของ บริษัท เหล่านั้นจึงเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นเช่นการตอบสนองต่อความต้องการที่สูงขึ้นจะส่งผลกำไรขนาดใหญ่จากงบประมาณส่งเสริมการขายขนาดเล็กมากขึ้นในท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายมาก: ตลาดยาโลกเป็นมูลค่าประมาณล้าน€ 484 130 (663 $ 500 ล้าน) ในราคาโรงงานอดีตในปี 2007 อเมริกาเหนือคิดเป็น 459% ของการขายยาโลกกับ 31.1% ในยุโรป แต่ตลาดยุโรปแซงหน้าตลาดเราในแง่ของการเติบโต (6.7 เทียบกับ 4.2%)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตลอด 2010 บริษัทส่วนใหญ่ มีการ headroom คะแนน (A) เช่น GSK, Roche, Sanofi Aventis และบริ Meyers Squibb ติดตามโอกาส การขยายผลิตภัณฑ์เสนอขยายกันทางภูมิศาสตร์ ด้วยโปรแกรม R&D ของพวกเขา อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การป้องกันดังกล่าวจะนำไปลดลงในกำไรช่วงเวลาเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในต้นทุนของใบสั่งยาบรรจุยาเสพติด โดยหน่วยงานกำกับดูแล หน่วย งานด้านสุขภาพ และอื่น ๆ รายงานผู้ชำระ ตลอดจน lapses สิทธิบัตรยาใกล้ระยะ dampening ปัจจุบันความพยายามปรับโครงสร้างและ 'ประสิทธิภาพ' ผู้จัดการสูงโปรไฟล์ทั้งหมดของบริษัทเหล่านั้นจึงกำลังเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นเช่นการตอบสนองต่อความต้องการสูงส่งผลกำไรขนาดใหญ่จากขนาดเล็กมากโปรโมชั่นประมาณท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เชี่ยวมาก: ตลาดยาโลกมีมูลค่าที่ประมาณ €484 130 ล้าน ($ 500 663 ล้าน) ราคาโรงในปี 2007 อเมริกาเหนือคิดเป็น 459% ของโลกขายยากับ 31 1 ล้าน%ยุโรป ตลาดยุโรป outpaced ตลาดสหรัฐในด้านการเจริญเติบโต (6.7 เทียบกับ 4.2%)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตลอดทั่วทั้งพื้นที่ 2010 บริษัทส่วนใหญ่ที่พร้อมด้วยความสามารถในการรองรับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ( A )เช่น Pfizer GSK Novartis Altria Roche bristol-meyers อะไรอยู่"และเพื่อมาถึงได้ - aventis ไล่ตามโอกาสที่จะขยาย ผลิตภัณฑ์ และการขยายทาง ภูมิศาสตร์ พร้อมด้วยโปรแกรม r&d ของพวกเขา อย่างไรก็ตามการป้องกันนั้นมีแนวโน้มนำไปสู่การปรับตัวลดลงอยู่ในความสามารถในการทำกำไรมากกว่าเวลาเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในราคาของการปนเปื้อนในยาการกำหนดโดยหน่วยงานที่กำกับดูแลหน่วยงานด้าน สุขภาพ และรักษาบุคคลที่สามและความพลาดพลั้งสิทธิบัตรยาอยู่ใกล้กับ - ระยะสั้นที่กันกระแทกนวัตกรรมพ็อดกันกระแทก'ปัจจุบัน'มี ประสิทธิภาพ และการปรับโครงสร้างความพยายามผู้จัดการฝ่ายไอทีระดับสูง - โปรไฟล์ของบริษัทที่มีทั้งหมดหันหน้าเข้าหาความท้าทายมากขึ้นเช่นการตอบสนองความต้องการในการให้กำไรมากขึ้นจากงบประมาณส่งเสริมการขายมากขึ้นมีขนาดเล็กกว่าในท่ามกลางความผันผวนของสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากดังนั้นตลาดยาระดับโลกที่มีมูลค่าประมาณ 130 ล้านบาทบริษัทเดมเลอร์ไครสเลอร์ที่ 484 ( 663 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 500 ล้านบาท)ในราคา ex - โรงงานผลิตในปี 2007 อเมริกาเหนือคิดเป็นสัดส่วน 459% ของยอดขายยาระดับโลกกับ 31.1 ถึง%สำหรับยุโรปแต่ตลาดยุโรปที่แซงหน้าตลาดสหรัฐฯในเงื่อนไขของการเติบโต( 6.7 เมื่อเทียบกับ 4.2% )