ประเพณีลอยกระทงสาย ของจังหวัดตาก เป็นประเพณีที่นำเอาพระพุทธศาสนา ภูมิป การแปล - ประเพณีลอยกระทงสาย ของจังหวัดตาก เป็นประเพณีที่นำเอาพระพุทธศาสนา ภูมิป ไทย วิธีการพูด

ประเพณีลอยกระทงสาย ของจังหวัดตาก เป

ประเพณีลอยกระทงสาย ของจังหวัดตาก เป็นประเพณีที่นำเอาพระพุทธศาสนา ภูมิปัญญาชาวบ้าน งานศิลปวัฒนธรรมมาหล่อหลอมรวมกันจนเป็นรูปแบบที่โดดเด่นปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งจะแตกต่างจากจังหวัดอื่นเพราะส่วนประกอบของกระทงที่ใช้กะลามะพร้าว ประกอบกับแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านจังหวัดตากจะมีสันทรายใต้น้ำทำให้เกิดเป็นร่องน้ำที่สวยงามตามธรรมชาติ เมื่อนำกระทงลอยกระทงจะไหลไปตามร่องน้ำดังกล่าวเกิดเป็นสายยาวต่อเนื่องของกระทงทำให้แสงไฟของกระทงส่องแสงระยิบระยับเป็นสายยาวตามความยาวของร่องน้ำมีความสวยงามมาก จึงได้มีการพัฒนารูปแบบจากการลอยในชุมชนมาเป็นการแข่งขันลอยกระทงสาย โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศเป็นประจำทุกปี และยังได้รับพระราชทานพระประทีปจากพระบรมวงศานุวงศ์รวม 10 พระองค์ มาลอยเป็นปฐมฤกษ์ในการจัดงาน




เหตุที่มีการนำเอากะลามาเป็นส่วนประกอบนั้น เนื่องมาจากชาวเมืองตาก มีการนำเอามะพร้าวมาแปรรูปทำเป็นอาหารว่าง ที่เรียกว่า เมี่ยง โดยถือเป็นอาหารว่างที่ชาวเมืองตากรับประทานเป็นประจำหลังอาหาร ซึ่งมีมะพร้าว ถั่วลิสง ใบเมี่ยงหมัก เป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากทำเพื่อรับประทานกันเองภายในครอบครัวแล้ว ยังมีการนำมาขายเป็นอาหารพื้นเมืองและได้รับความนิยมในภาคเหนือโดยทั่วไป กรรมาวิธีในการแปรรูปมะพร้าวเป็น “ เมี่ยง ” นั้น มีการขูดเอาเฉพาะเนื้อมะพร้าวมาทำ ส่วนกะลามะพร้าวจะถูกทิ้งไว้ในบริเวณบ้านเป็นจำนวนมาก ไม่มีการนำเอามาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

ครั้นถึงวันเพ็ญ เดือนสิบสอง ( วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินทางจันทรคติ ) ประมาณเดือนพฤศจิกายน ชาวบ้านจึงได้ทดลองนำกะลาด้านที่ไม่มีรูมาทำเป็นกระทง โดยเอากะลามาขัดถูจนสะอาด ตกแต่งลวดลายสวยงาม ภายในกะลาใส่ด้ายดิบ ที่ฟั่นเป็น รูปตีนกา (นำด้ายขาวมาล้วงเส้นดายให้เป็น9เส้น) แล้วหล่อ เทียนขี้ผึ้ง เพื่อให้เกิดความเหนียว จากนั้นเทเทียนแล้วรอให้เทียนแข็งตัว ซึ่งเทียนขี้ผึ้งนั้นนำมาจากเทียนจำนำพรรษาที่พระสงฆ์จุดเพื่อทำพิธีสวดมนต์ในโบสถ์วิหารตลอดสามเดือน หลังจาก ออกพรรษา ชาวบ้านจะนำเทียนขี้ผึ้งเหล่านั้นมาหล่อใส่ในกะลา ซึ่งถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์และเป็นศิริมงคลแก่ผู้นำไปลอย ก่อนที่จะปล่อยลงลอยในแม่น้ำปิง ประกอบกับแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านจังหวัดตากจะเกิดสันทรายใต้น้ำ ทำให้เกิดเป็นร่องน้ำที่สวยงามเป็นธรรมชาติ เมื่อนำ กระทงกะลา ลงลอย กระทงกะลาจะไหลไปตามร่องน้ำดังกล่าว ทำให้ดูเป็นสายอย่างต่อเนื่อง จนสุดสายตา ซึ่งไฟในกะลาจะส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องน้ำ

โดยเดิมทีก่อนที่จะมาเป็นงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง นั้น การนำเอากระทงกะลามาลอยเป็นสายจะเป็นเพียงการสาธิตการลอยเท่านั้น ซึ่งในระยะต่อมาได้มีการพัฒนาการลอยมาเป็นการแข่งขันกันอย่างยิ่งใหญ่ในปี พ.ศ. 2540 จนเป็นงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง ในปัจจุบัน เป็นรูปแบบที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดตากที่ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

ประเพณีลอยกระทงสาย เป็นประเพณีเฉพาะท้องถิ่นของชาว จังหวัดตาก ซึ่งโดยทั่วไปการลอยกระทงไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เช่น ต้องมีกระทงซึ่งประดิษฐ์ขึ้นลักษณะคล้ายดอกบัวบาน แต่ของจังหวัดตากใช้กระทงทำไม่เหมือนใคร คือ ใช้กะลามะพร้าวเป็นตัวกระทง ภายในมีไส้กระทงเป็นมะพร้าวแห้งชุบน้ำมัน สำหรับความเชื่อในการลอยกระทงนั้นก็คล้ายกับชาวไทยในภาคอื่นๆ คือเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาพระแม่คงคา แต่ในบางครั้งก็เชื่อว่าเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที อันเป็นคติความเชื่อเหมือนกับภาคกลาง แต่บางทีก็เชื่อว่าเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์หรือพระโมคคัลลีบุตรมหาสาวก (ตามอย่างความคิดอิทธิพลของพม่าที่แพร่กระจายอยู่ในดินแดนล้านนา)

จังหวัดตากนั้นมีแม่น้ำปิงไหลผ่าน โดยเฉพาะแม่น้ำปิงช่วงที่ไหลผ่านหน้าเมืองตาก ชาวตากเชื่อว่าสวยงามยิ่งกว่าที่อื่นๆ เพราะน้ำปิงช่วงนี้เป็นหาดทราย และทิวทัศน์เบื้องหลังเป็นทิวเขา ชาวจังหวัดจึงใช้สถานที่แห่งนี้ในการลอยกระทงด้วย

“ประเพณีลอยกระทงสาย ไหลประทีป 1000 ดวง” นั้น จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 3-8 พฤศจิกายน ณ ริมสายธาร ลานกระทงสาย อ. เมือง จ. ตากนอกจากการลอยกระทงสายแล้ว ยังมีขบวนแห่อัญเชิญพระประทีป ถ้วยพระราชทานฯ และขบวนแห่กระทงสายทุกสาย หน้าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช การแสดงลานวัฒนธรรม การแสดงน้ำพุเริงระบำกลางลำน้ำปิง การประกวดธิดากระทงสาย การจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ฯลฯ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ประเพณีลอยกระทงสายของจังหวัดตากเป็นประเพณีที่นำเอาพระพุทธศาสนาภูมิปัญญาชาวบ้านงานศิลปวัฒนธรรมมาหล่อหลอมรวมกันจนเป็นรูปแบบที่โดดเด่นปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านานซึ่งจะแตกต่างจากจังหวัดอื่นเพราะส่วนประกอบของกระทงที่ใช้กะลามะพร้าวประกอบกับแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านจังหวัดตากจะมีสันทรายใต้น้ำทำให้เกิดเป็นร่องน้ำที่สวยงามตามธรรมชาติเมื่อนำกระทงลอยกระทงจะไหลไปตามร่องน้ำดังกล่าวเกิดเป็นสายยาวต่อเนื่องของกระทงทำให้แสงไฟของกระทงส่องแสงระยิบระยับเป็นสายยาวตามความยาวของร่องน้ำมีความสวยงามมากจึงได้มีการพัฒนารูปแบบจากการลอยในชุมชนมาเป็นการแข่งขันลอยกระทงสายโดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศเป็นประจำทุกปีและยังได้รับพระราชทานพระประทีปจากพระบรมวงศานุวงศ์รวม 10 พระองค์มาลอยเป็นปฐมฤกษ์ในการจัดงาน เหตุที่มีการนำเอากะลามาเป็นส่วนประกอบนั้นเนื่องมาจากชาวเมืองตากมีการนำเอามะพร้าวมาแปรรูปทำเป็นอาหารว่างที่เรียกว่าเมี่ยงโดยถือเป็นอาหารว่างที่ชาวเมืองตากรับประทานเป็นประจำหลังอาหารซึ่งมีมะพร้าวถั่วลิสงใบเมี่ยงหมักเป็นส่วนประกอบหลักนอกจากทำเพื่อรับประทานกันเองภายในครอบครัวแล้วยังมีการนำมาขายเป็นอาหารพื้นเมืองและได้รับความนิยมในภาคเหนือโดยทั่วไปกรรมาวิธีในการแปรรูปมะพร้าวเป็นเมี่ยงนั้นมีการขูดเอาเฉพาะเนื้อมะพร้าวมาทำส่วนกะลามะพร้าวจะถูกทิ้งไว้ในบริเวณบ้านเป็นจำนวนมากไม่มีการนำเอามาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ครั้นถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง (วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ตามปฏิทินทางจันทรคติ) ประมาณเดือนพฤศจิกายนชาวบ้านจึงได้ทดลองนำกะลาด้านที่ไม่มีรูมาทำเป็นกระทงโดยเอากะลามาขัดถูจนสะอาดตกแต่งลวดลายสวยงามภายในกะลาใส่ด้ายดิบที่ฟั่นเป็นรูปตีนกา (นำด้ายขาวมาล้วงเส้นดายให้เป็น9เส้น) แล้วหล่อเทียนขี้ผึ้งเพื่อให้เกิดความเหนียวจากนั้นเทเทียนแล้วรอให้เทียนแข็งตัวซึ่งเทียนขี้ผึ้งนั้นนำมาจากเทียนจำนำพรรษาที่พระสงฆ์จุดเพื่อทำพิธีสวดมนต์ในโบสถ์วิหารตลอดสามเดือนหลังจากออกพรรษาชาวบ้านจะนำเทียนขี้ผึ้งเหล่านั้นมาหล่อใส่ในกะลาซึ่งถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์และเป็นศิริมงคลแก่ผู้นำไปลอยก่อนที่จะปล่อยลงลอยในแม่น้ำปิงประกอบกับแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านจังหวัดตากจะเกิดสันทรายใต้น้ำทำให้เกิดเป็นร่องน้ำที่สวยงามเป็นธรรมชาติเมื่อนำกระทงกะลาลงลอยกระทงกะลาจะไหลไปตามร่องน้ำดังกล่าวทำให้ดูเป็นสายอย่างต่อเนื่องจนสุดสายตาซึ่งไฟในกะลาจะส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องน้ำ โดยเดิมทีก่อนที่จะมาเป็นงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวงนั้นการนำเอากระทงกะลามาลอยเป็นสายจะเป็นเพียงการสาธิตการลอยเท่านั้นซึ่งในระยะต่อมาได้มีการพัฒนาการลอยมาเป็นการแข่งขันกันอย่างยิ่งใหญ่ในปีพ.ศ. 2540 จนเป็นงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวงในปัจจุบันเป็นรูปแบบที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดตากที่ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ประเพณีลอยกระทงสาย เป็นประเพณีเฉพาะท้องถิ่นของชาว จังหวัดตาก ซึ่งโดยทั่วไปการลอยกระทงไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เช่น ต้องมีกระทงซึ่งประดิษฐ์ขึ้นลักษณะคล้ายดอกบัวบาน แต่ของจังหวัดตากใช้กระทงทำไม่เหมือนใคร คือ ใช้กะลามะพร้าวเป็นตัวกระทง ภายในมีไส้กระทงเป็นมะพร้าวแห้งชุบน้ำมัน สำหรับความเชื่อในการลอยกระทงนั้นก็คล้ายกับชาวไทยในภาคอื่นๆ คือเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาพระแม่คงคา แต่ในบางครั้งก็เชื่อว่าเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที อันเป็นคติความเชื่อเหมือนกับภาคกลาง แต่บางทีก็เชื่อว่าเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์หรือพระโมคคัลลีบุตรมหาสาวก (ตามอย่างความคิดอิทธิพลของพม่าที่แพร่กระจายอยู่ในดินแดนล้านนา) จังหวัดตากนั้นมีแม่น้ำปิงไหลผ่านโดยเฉพาะแม่น้ำปิงช่วงที่ไหลผ่านหน้าเมืองตากชาวตากเชื่อว่าสวยงามยิ่งกว่าที่อื่น ๆ เพราะน้ำปิงช่วงนี้เป็นหาดทรายและทิวทัศน์เบื้องหลังเป็นทิวเขาชาวจังหวัดจึงใช้สถานที่แห่งนี้ในการลอยกระทงด้วย "ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง" นั้นจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 3-8 พฤศจิกายนณริมสายธารลานกระทงสายอ. เมืองจ. ตากนอกจากการลอยกระทงสายแล้วยังมีขบวนแห่อัญเชิญพระประทีปถ้วยพระราชทานฯ และขบวนแห่กระทงสายทุกสายหน้าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชการแสดงลานวัฒนธรรมการแสดงน้ำพุเริงระบำกลางลำน้ำปิงการประกวดธิดากระทงสายการจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ฯลฯ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ประเพณีลอยกระทงสาย ของจังหวัดตาก เป็นประเพณีที่นำเอาพระพุทธศาสนา ภูมิปัญญาชาวบ้าน งานศิลปวัฒนธรรมมาหล่อหลอมรวมกันจนเป็นรูปแบบที่โดดเด่นปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งจะแตกต่างจากจังหวัดอื่นเพราะส่วนประกอบของกระทงที่ใช้กะลามะพร้าว ประกอบกับแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านจังหวัดตากจะมีสันทรายใต้น้ำทำให้เกิดเป็นร่องน้ำที่สวยงามตามธรรมชาติ เมื่อนำกระทงลอยกระทงจะไหลไปตามร่องน้ำดังกล่าวเกิดเป็นสายยาวต่อเนื่องของกระทงทำให้แสงไฟของกระทงส่องแสงระยิบระยับเป็นสายยาวตามความยาวของร่องน้ำมีความสวยงามมาก จึงได้มีการพัฒนารูปแบบจากการลอยในชุมชนมาเป็นการแข่งขันลอยกระทงสาย โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศเป็นประจำทุกปี และยังได้รับพระราชทานพระประทีปจากพระบรมวงศานุวงศ์รวม 10 พระองค์ มาลอยเป็นปฐมฤกษ์ในการจัดงาน




เหตุที่มีการนำเอากะลามาเป็นส่วนประกอบนั้น เนื่องมาจากชาวเมืองตาก มีการนำเอามะพร้าวมาแปรรูปทำเป็นอาหารว่าง ที่เรียกว่า เมี่ยง โดยถือเป็นอาหารว่างที่ชาวเมืองตากรับประทานเป็นประจำหลังอาหาร ซึ่งมีมะพร้าว ถั่วลิสง ใบเมี่ยงหมัก เป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากทำเพื่อรับประทานกันเองภายในครอบครัวแล้ว ยังมีการนำมาขายเป็นอาหารพื้นเมืองและได้รับความนิยมในภาคเหนือโดยทั่วไป กรรมาวิธีในการแปรรูปมะพร้าวเป็น “ เมี่ยง ” นั้น มีการขูดเอาเฉพาะเนื้อมะพร้าวมาทำ ส่วนกะลามะพร้าวจะถูกทิ้งไว้ในบริเวณบ้านเป็นจำนวนมาก ไม่มีการนำเอามาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

ครั้นถึงวันเพ็ญ เดือนสิบสอง ( วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินทางจันทรคติ ) ประมาณเดือนพฤศจิกายน ชาวบ้านจึงได้ทดลองนำกะลาด้านที่ไม่มีรูมาทำเป็นกระทง โดยเอากะลามาขัดถูจนสะอาด ตกแต่งลวดลายสวยงาม ภายในกะลาใส่ด้ายดิบ ที่ฟั่นเป็น รูปตีนกา (นำด้ายขาวมาล้วงเส้นดายให้เป็น9เส้น) แล้วหล่อ เทียนขี้ผึ้ง เพื่อให้เกิดความเหนียว จากนั้นเทเทียนแล้วรอให้เทียนแข็งตัว ซึ่งเทียนขี้ผึ้งนั้นนำมาจากเทียนจำนำพรรษาที่พระสงฆ์จุดเพื่อทำพิธีสวดมนต์ในโบสถ์วิหารตลอดสามเดือน หลังจาก ออกพรรษา ชาวบ้านจะนำเทียนขี้ผึ้งเหล่านั้นมาหล่อใส่ในกะลา ซึ่งถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์และเป็นศิริมงคลแก่ผู้นำไปลอย ก่อนที่จะปล่อยลงลอยในแม่น้ำปิง ประกอบกับแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านจังหวัดตากจะเกิดสันทรายใต้น้ำ ทำให้เกิดเป็นร่องน้ำที่สวยงามเป็นธรรมชาติ เมื่อนำ กระทงกะลา ลงลอย กระทงกะลาจะไหลไปตามร่องน้ำดังกล่าว ทำให้ดูเป็นสายอย่างต่อเนื่อง จนสุดสายตา ซึ่งไฟในกะลาจะส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องน้ำ

โดยเดิมทีก่อนที่จะมาเป็นงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง นั้น การนำเอากระทงกะลามาลอยเป็นสายจะเป็นเพียงการสาธิตการลอยเท่านั้น ซึ่งในระยะต่อมาได้มีการพัฒนาการลอยมาเป็นการแข่งขันกันอย่างยิ่งใหญ่ในปี พ.ศ. 2540 จนเป็นงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง ในปัจจุบัน เป็นรูปแบบที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดตากที่ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

ประเพณีลอยกระทงสาย เป็นประเพณีเฉพาะท้องถิ่นของชาว จังหวัดตาก ซึ่งโดยทั่วไปการลอยกระทงไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เช่น ต้องมีกระทงซึ่งประดิษฐ์ขึ้นลักษณะคล้ายดอกบัวบาน แต่ของจังหวัดตากใช้กระทงทำไม่เหมือนใคร คือ ใช้กะลามะพร้าวเป็นตัวกระทง ภายในมีไส้กระทงเป็นมะพร้าวแห้งชุบน้ำมัน สำหรับความเชื่อในการลอยกระทงนั้นก็คล้ายกับชาวไทยในภาคอื่นๆ คือเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาพระแม่คงคา แต่ในบางครั้งก็เชื่อว่าเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที อันเป็นคติความเชื่อเหมือนกับภาคกลาง แต่บางทีก็เชื่อว่าเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์หรือพระโมคคัลลีบุตรมหาสาวก (ตามอย่างความคิดอิทธิพลของพม่าที่แพร่กระจายอยู่ในดินแดนล้านนา)

จังหวัดตากนั้นมีแม่น้ำปิงไหลผ่าน โดยเฉพาะแม่น้ำปิงช่วงที่ไหลผ่านหน้าเมืองตาก ชาวตากเชื่อว่าสวยงามยิ่งกว่าที่อื่นๆ เพราะน้ำปิงช่วงนี้เป็นหาดทราย และทิวทัศน์เบื้องหลังเป็นทิวเขา ชาวจังหวัดจึงใช้สถานที่แห่งนี้ในการลอยกระทงด้วย

“ประเพณีลอยกระทงสาย ไหลประทีป 1000 ดวง” นั้น จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 3-8 พฤศจิกายน ณ ริมสายธาร ลานกระทงสาย อ. เมือง จ. ตากนอกจากการลอยกระทงสายแล้ว ยังมีขบวนแห่อัญเชิญพระประทีป ถ้วยพระราชทานฯ และขบวนแห่กระทงสายทุกสาย หน้าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช การแสดงลานวัฒนธรรม การแสดงน้ำพุเริงระบำกลางลำน้ำปิง การประกวดธิดากระทงสาย การจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ฯลฯ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ประเพณีลอยกระทงสายของจังหวัดตากเป็นประเพณีที่นำเอาพระพุทธศาสนาภูมิปัญญาชาวบ้านงานศิลปวัฒนธรรมมาหล่อหลอมรวมกันจนเป็นรูปแบบที่โดดเด่นปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านานประกอบกับแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านจังหวัดตากจะมีสันทรายใต้น้ำทำให้เกิดเป็นร่องน้ำที่สวยงามตามธรรมชาติจึงได้มีการพัฒนารูปแบบจากการลอยในชุมชนมาเป็นการแข่งขันลอยกระทงสายโดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯพระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศเป็นประจำทุกปี10 พระองค์มาลอยเป็นปฐมฤกษ์ในการจัดงาน




เหตุที่มีการนำเอากะลามาเป็นส่วนประกอบนั้นเนื่องมาจากชาวเมืองตากมีการนำเอามะพร้าวมาแปรรูปทำเป็นอาหารว่างที่เรียกว่าเมี่ยงโดยถือเป็นอาหารว่างที่ชาวเมืองตากรับประทานเป็นประจำหลังอาหารซึ่งมีมะพร้าวใบเมี่ยงหมักเป็นส่วนประกอบหลักนอกจากทำเพื่อรับประทานกันเองภายในครอบครัวแล้วยังมีการนำมาขายเป็นอาหารพื้นเมืองและได้รับความนิยมในภาคเหนือโดยทั่วไปกรรมาวิธีในการแปรรูปมะพร้าวเป็น " เมี่ยงนั้น "ส่วนกะลามะพร้าวจะถูกทิ้งไว้ในบริเวณบ้านเป็นจำนวนมากไม่มีการนำเอามาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

ครั้นถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง ( 15 วันขึ้นค่ำเดือน 12 ตามปฏิทินทางจันทรคติ ) ประมาณเดือนพฤศจิกายนชาวบ้านจึงได้ทดลองนำกะลาด้านที่ไม่มีรูมาทำเป็นกระทงโดยเอากะลามาขัดถูจนสะอาดตกแต่งลวดลายสวยงามที่ฟั่นเป็นรูปตีนกา ( นำด้ายขาวมาล้วงเส้นดายให้เป็น 9 เส้น ) แล้วหล่อเทียนขี้ผึ้งเพื่อให้เกิดความเหนียวจากนั้นเทเทียนแล้วรอให้เทียนแข็งตัวหลังจากออกพรรษาชาวบ้านจะนำเทียนขี้ผึ้งเหล่านั้นมาหล่อใส่ในกะลาซึ่งถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์และเป็นศิริมงคลแก่ผู้นำไปลอยก่อนที่จะปล่อยลงลอยในแม่น้ำปิงทำให้เกิดเป็นร่องน้ำที่สวยงามเป็นธรรมชาติเมื่อนำกระทงกะลาลงลอยกระทงกะลาจะไหลไปตามร่องน้ำดังกล่าวทำให้ดูเป็นสายอย่างต่อเนื่องจนสุดสายตาซึ่งไฟในกะลาจะส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องน้ำ

โดยเดิมทีก่อนที่จะมาเป็นงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป๑๐๐๐ดวงนั้นการนำเอากระทงกะลามาลอยเป็นสายจะเป็นเพียงการสาธิตการลอยเท่านั้นพ .
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: