The nitrite and nitrate are inorgan

The nitrite and nitrate are inorganic compounds that
naturally present in the environment such as water and soil.
Nitrite is commonly used in food industry as food preservative
to prevent spoilage and to maintain the colour of meat
and meat products such as bacon, ham, luncheon, corned
beef, hamburger and smoked fish [12]. However, there is a
concern of association of nitrite contents with cancers. The
nitrite can be harmful to human health when it reacts with
secondary amines and amides in the gastrointestinal tract
to form carcinogenic N-nitrosamines which can cause stomach
cancer [13–15]. Reports from the Joint FAO/WHO Expert
Committee on Food Additives (JECFA) in 2002 suggested that
the acceptable human daily intake amount of nitrite should
not exceed 0.07 mg/kg of body weight. The major source of
nitrate in food comes from water and many vegetables such
as spinach, eggplants, lettuce, radishes and beets because it
is a natural constituent in plants [12]. High intake of nitrate
can be hazardous to health because nitrate is a potential
source of nitrite through bacterial or microbial reduction
[12,13]. Nitrite is more toxic than nitrate because nitrite interacts
with blood pigment to produce methemoglobinemia
which caused blood disorder and breathing difficulty in
human [12,13].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไนไตรท์และไนเตรทเป็นอนินทรีย์สารประกอบที่ตามธรรมชาติอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นน้ำและดินไนไตรท์มักใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเป็นอาหารและถนอมอาหารเพื่อป้องกันการเน่าเสีย และ เพื่อรักษาสีของเนื้อและผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์เช่นเบคอน แฮม เลี้ยงอาหารกลาง วัน ประกอบเนื้อ แฮมเบอร์เกอร์ และปลารมควัน [12] อย่างไรก็ตาม มีการข้อกังวลของสมาคมไนไตรต์เนื้อหากับมะเร็ง การไนไตรท์จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์เมื่อมันทำปฏิกิริยากับเอมีนรองและ amides เดินแบบ nitrosamines N ที่ทำให้กระเพาะอาหารเกิดโรคมะเร็งมะเร็ง [13-15] รายงานจาก FAO ร่วม / WHO ผู้เชี่ยวชาญคณะกรรมการในวัตถุเจือปนอาหาร (JECFA) 2002 แนะนำที่ควรยอมรับมนุษย์ทุกวันบริโภคปริมาณไนไตรท์ไม่เกิน 0.07 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมของน้ำหนักตัว แหล่งข้อมูลไนเตรทในอาหารที่มาจากน้ำและผักมากมายเช่นผักโขม eggplants ผักกาดหอม radishes และผสมเนื่องจากมันเป็นองค์ประกอบธรรมชาติในพืช [12] ทานของไนเตรทเป็นอันตรายต่อสุขภาพเนื่องจากไนเตรทมีศักยภาพแหล่งที่มาของไนไตรต์แบคทีเรีย หรือจุลินทรีย์ลดลง[12,13] . ไนไตรท์เป็นพิษมากขึ้นกว่าไนเตรทเนื่องจากไนไตรท์ในการโต้ตอบมีเม็ดเลือดผลิต methemoglobinemiaซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเลือดและความยากลำบากในการหายใจมนุษย์ [12,13]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไนไตรท์และไนเตรทเป็นสารอนินทรีที่เป็นธรรมชาติอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นน้ำและดิน. ไนไตรท์เป็นที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเป็นสารกันบูดอาหารเพื่อป้องกันการเน่าเสียและเพื่อรักษาสีของเนื้อผลิตภัณฑ์และเนื้อสัตว์เช่นเบคอน, แฮม, เลี้ยงอาหารกลางวัน, corned เนื้อแฮมเบอร์เกอร์และปลารมควัน [12] อย่างไรก็ตามมีความกังวลของสมาคมของเนื้อหาไนไตรท์ที่มีการเกิดโรคมะเร็ง ไนไตรท์อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์เมื่อมันทำปฏิกิริยากับเอมีนรองและเอไมด์ในทางเดินอาหารในรูปแบบสารก่อมะเร็งไนโตรซาN-ซึ่งอาจทำให้เกิดกระเพาะอาหารมะเร็ง [13-15] รายงานจาก Joint FAO / WHO ผู้เชี่ยวชาญคณะกรรมการวัตถุเจือปนอาหาร(JECFA) ในปี 2002 ชี้ให้เห็นว่าจำนวนเงินที่ได้รับการยอมรับการบริโภคในชีวิตประจำวันของมนุษย์ของไนไตรท์ควรจะไม่เกิน0.07 มิลลิกรัม / กิโลกรัมของน้ำหนักตัว แหล่งที่มาของไนเตรตในอาหารที่มาจากน้ำและผักหลายอย่างเช่นผักขมมะเขือผักกาดหอม, หัวไชเท้าและหัวบีทเพราะมันเป็นองค์ประกอบธรรมชาติในพืช [12] การบริโภคสูงไนเตรตสามารถเป็นอันตรายต่อสุขภาพเพราะไนเตรตที่มีศักยภาพเป็นแหล่งที่มาของไนไตรท์ผ่านการลดแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์[12,13] ไนไตรท์เป็นพิษมากกว่าไนเตรทไนไตรท์เพราะมีปฏิสัมพันธ์กับสีเลือดในการผลิต Methemoglobinemia ซึ่งก่อให้เกิดความผิดปกติของเลือดและความยากลำบากในการหายใจของมนุษย์ [12,13]