Exploring the project management co

Exploring the project management community paradigm and the role of performance prediction
‘Project performance’ is the metric of delivering project objectives. This research is motivated by levels of project failure and the purpose of the research is to investigate improved project performance. The scientific spectrum is considered; arguing project management as a sub-field of management science based in ‘design science’. Despite research since the 1950s, there is no established community paradigm for project management, illustrated by multiple ‘schools of thought’ failing to stimulate performance improvement. This is investigated with respect to the changing nature of projects and their management; application in numerous industrial sectors, across increasing scope of the product lifecycle (including service projects), and the changing role of project managers as value adding ‘implementers’ rather than status ‘reporters’. Methodology examines the community paradigm and identifies the lack of community paradigm and argues that gap spotting is not appropriate. Conducting research that fills knowledge gaps does not identify underlying issues and reinforces fundamental failings. Underlying assumptions are identified and challenged. Key characteristics are examined in the context of requirements of the community paradigm. The purpose of theory is to describe, explain and predict. Some techniques describe and explain. Few, if any, predict. This locates ‘performance prediction’ as the research issue and suggests it is a missing function for performance improvement. The research focus considers single tasks within a project network. A research model of early stage deviation from plan is developed from the literature on project pathogens and incubation processes. ‘Deviation lifecycle’ as a project function is identified as having no previous evidence in literature. This is developed into a practice model extending the role of failure modes and effects analysis (FMEA) and integrating weak signals and tipping point theory to test performance. Case studies examine representative application of the model and build on the previous cases to illustrate potential for practice. The case studies were reviewed by industrial experts. The changing role of project managers to value added implementers implies a need to improve performance. Research found potential to understand and predict early stage deviation and develops the deviation lifecycle and research model. Across the case studies the research model illustrated potential application. Practical implications indicate potential contribution of project management techniques based on prediction rather than traditional reporting. Developing the community paradigm based on design science is discussed as further work. The originality of the research challenges the lack of theoretical foundation for project management by discussion of the community paradigm and proposes design science as a candidate. The work identifies ‘prediction’ as a relevant but missing function from the project management ‘toolbox’, and introduces the concept of the deviation lifecycle and note no previous literature. The research develops an industrial research model that extends the application of FMEA to examine ‘performance’ and integrates weak signals and tipping point analysis to manage the resolution.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำรวจกระบวนทัศน์ชุมชนการจัดการโครงการและบทบาทของการทำนายประสิทธิภาพการทำงาน 'โครงการประสิทธิภาพ' เป็นการวัดของวัตถุประสงค์โครงการ การวิจัยครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจ โดยระดับของความล้มเหลวของโครงการ และวัตถุประสงค์ของการวิจัยคือการ ตรวจสอบโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพ คลื่นทางวิทยาศาสตร์ถือว่า เถียงการบริหารเป็นเขตย่อยของวิทยาศาสตร์การจัดการใน 'แบบวิทยาศาสตร์' แม้ มีการวิจัยตั้งแต่ปี 1950 มีกระบวนทัศน์ไม่ก่อตั้งชุมชนสำหรับการจัดการโครงการ แสดง โดยหลาย 'โรงเรียนของความคิด' ล้มเหลวในการกระตุ้นการปรับปรุงประสิทธิภาพ นี้จะตรวจสอบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงลักษณะของโครงการและการจัดการของพวกเขา การประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมจำนวนมาก ข้ามขอบเขตของระยะเวลาการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ (รวมทั้งโครงการบริการ), และการเปลี่ยนแปลงบทบาทของผู้จัดการโครงการเป็นค่าเพิ่ม 'สำหรับตัวใช้งาน' แทนสถานะ 'นักข่าว' วิธีตรวจสอบกระบวนทัศน์ชุมชน และระบุการขาดของกระบวนทัศน์ชุมชน และแย้งว่า ส่องช่องว่างไม่เหมาะสม ทำการวิจัยที่รู้ช่องว่างระบุปัญหาพื้นฐาน และช่วยเสริมพื้นฐานความล้มเหลว ระบุ และท้าทายสมมติฐาน มีการตรวจสอบลักษณะสำคัญในบริบทของความต้องการของกระบวนทัศน์ชุมชน วัตถุประสงค์ของทฤษฎีจะอธิบาย อธิบาย และทำนาย บางเทคนิคอธิบาย และอธิบาย น้อย ถ้ามี ทายไว้ นี้หาประสิทธิภาพทำนายเป็นปัญหาวิจัย และแนะนำมันเป็นฟังก์ชั่นที่หายไปสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน มุ่งเน้นการวิจัยพิจารณางานเดี่ยวภายในเครือข่ายโครงการ มีพัฒนาแบบจำลองการวิจัยของช่วงระยะเบี่ยงเบนจากแผนจากวรรณคดีบนเชื้อโครงการและกระบวนการบ่ม เบี่ยงเบนวัฏจักรเป็นฟังก์ชันโครงการเป็นระบุว่ามีหลักฐานก่อนหน้านี้ไม่มีในวรรณคดี นี้ได้รับการพัฒนาเป็นรูปแบบปฏิบัติที่ขยายบทบาทของโหมดความล้มเหลว และวิเคราะห์ผลกระทบ (FMEA) และการรวมสัญญาณอ่อนแอ และการให้ทิปทฤษฎีจุดเพื่อทดสอบประสิทธิภาพ กรณีศึกษาตรวจสอบแอพลิเคชันแทนของรูปแบบ และสร้างในกรณีก่อนหน้านี้เพื่อแสดงศักยภาพในการปฏิบัติ กรณีศึกษาสอบทาน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงบทบาทของผู้จัดการโครงการค่าเพิ่มสำหรับตัวใช้งานหมายถึงต้องปรับปรุงประสิทธิภาพ วิจัยพบมีศักยภาพที่จะเข้าใจ และทำนายความเบี่ยงเบนขั้นต้น และพัฒนาแบบจำลองวัฏจักรและวิจัยเบี่ยงเบน ข้ามกรณีศึกษา รูปแบบการวิจัยที่แสดงโปรแกรมประยุกต์อาจเกิดขึ้น ปฏิบัตินัยบ่งชี้ศักยภาพผลงานของโครงการเทคนิคการบริหารจัดการบนพื้นฐานการคาดเดามากกว่าการรายงานแบบดั้งเดิม การพัฒนากระบวนทัศน์ชุมชนที่อิงการออกแบบวิทยาศาสตร์กล่าวถึงเป็นการ ความคิดริเริ่มของการวิจัยท้าทายการขาดรากฐานทางทฤษฎีสำหรับการจัดการโครงการ โดยการสนทนาของกระบวนทัศน์ชุมชน และเสนอออกแบบวิทยาศาสตร์เป็นผู้สมัคร การทำงานระบุ 'ทำนาย' เป็นฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง แต่ขาดหายไปจากการบริหารจัดการโครงการ 'เครื่องมือ' และแนะนำแนวคิดของวงจรการเบี่ยงเบน และวรรณกรรมก่อนหน้าไม่ทราบ การวิจัยพัฒนาแบบวิจัยที่ขยายการประยุกต์ใช้ FMEA ในการตรวจสอบ 'ประสิทธิภาพ' และรวมสัญญาณอ่อนและวิเคราะห์จุดพลิกผันในการจัดการการแก้ปัญหา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำรวจกระบวนทัศน์การบริหารจัดการโครงการชุมชนและบทบาทของประสิทธิภาพการทำนาย
ผลการดำเนินงานโครงการ 'เป็นตัวชี้วัดในการส่งมอบโครงการวัตถุประสงค์ งานวิจัยนี้ได้แรงบันดาลใจจากระดับของความล้มเหลวของโครงการและวัตถุประสงค์ของการวิจัยคือการตรวจสอบประสิทธิภาพของโครงการที่ดีขึ้น สเปกตรัมทางวิทยาศาสตร์การพิจารณา เถียงจัดการโครงการเป็นสาขาย่อยของวิทยาศาสตร์การจัดการที่อยู่ในการออกแบบวิทยาศาสตร์ ' แม้จะมีการวิจัยตั้งแต่ปี 1950 ไม่มีกระบวนทัศน์ชุมชนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการจัดการโครงการการแสดงโดย 'โรงเรียนแห่งความคิด' หลายล้มเหลวในการกระตุ้นให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน นี้จะตรวจสอบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของโครงการและการจัดการของพวกเขา; การประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมจำนวนมากทั่วทั้งการเพิ่มขอบเขตของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (รวมถึงโครงการบริการ) และการเปลี่ยนแปลงบทบาทของผู้จัดการโครงการเป็นมูลค่าเพิ่ม 'พัฒนาระบบมากกว่าสถานะ' นักข่าว ' วิธีการตรวจสอบกระบวนทัศน์ชุมชนและระบุขาดกระบวนทัศน์ชุมชนและระบุว่าช่องว่างจำไม่เหมาะสม การดำเนินการวิจัยที่เติมช่องว่างความรู้ไม่ได้ระบุปัญหาพื้นฐานและตอกย้ำความล้มเหลวพื้นฐาน ข้อสมมติฐานที่มีการระบุและท้าทาย ลักษณะสำคัญมีการตรวจสอบในบริบทของความต้องการของกระบวนทัศน์ชุมชน วัตถุประสงค์ของทฤษฎีคือการอธิบายอธิบายและคาดการณ์ เทคนิคบางอย่างอธิบายและอธิบาย ถ้ามีไม่กี่ทำนาย นี้ตั้งอยู่ประสิทธิภาพการทำนาย 'เป็นปัญหาการวิจัยและแสดงให้เห็นว่ามันเป็นฟังก์ชั่นที่ขาดหายไปในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน มุ่งเน้นการวิจัยพิจารณางานเดียวภายในเครือข่ายโครงการ รูปแบบการวิจัยของการเบี่ยงเบนในช่วงเริ่มต้นจากแผนพัฒนามาจากหนังสือที่เกี่ยวกับเชื้อโรคโครงการและกระบวนการบ่ม 'เบี่ยงเบนวงจรชีวิต' เป็นฟังก์ชั่นโครงการที่มีการระบุว่ามีไม่มีหลักฐานก่อนหน้านี้ในวรรณคดี นี้ถูกพัฒนาขึ้นในรูปแบบการปฏิบัติการขยายบทบาทของความล้มเหลวและผลการวิเคราะห์ (FMEA) และการบูรณาสัญญาณอ่อนแอและทฤษฎีจุดเปลี่ยนในการทดสอบประสิทธิภาพ กรณีศึกษาการประยุกต์ใช้ตรวจสอบตัวแทนของรูปแบบและสร้างในกรณีที่ก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการปฏิบัติ กรณีศึกษาที่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงบทบาทของผู้จัดการโครงการเพื่อเพิ่มมูลค่าพัฒนาระบบหมายถึงความจำเป็นในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน การวิจัยพบว่ามีศักยภาพที่จะเข้าใจและคาดการณ์ค่าความเบี่ยงเบนในช่วงเริ่มต้นและพัฒนาวงจรชีวิตส่วนเบี่ยงเบนและรูปแบบการวิจัย ข้ามกรณีศึกษารูปแบบการวิจัยที่แสดงแอพลิเคชันที่มีศักยภาพ บ่งบอกถึงความหมายในทางปฏิบัติผลงานที่มีศักยภาพของการบริหารโครงการขึ้นอยู่กับการคาดการณ์มากกว่าการรายงานแบบดั้งเดิม กระบวนทัศน์การพัฒนาชุมชนบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์การออกแบบที่มีการกล่าวถึงการทำงานต่อไป ริเริ่มการวิจัยทำฟาวล์ขาดพื้นฐานทางทฤษฎีสำหรับการจัดการโครงการโดยการอภิปรายของกระบวนทัศน์ชุมชนและเสนอวิทยาศาสตร์การออกแบบที่เป็นผู้สมัคร การทำงานระบุ 'ทำนาย' เป็นฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง แต่หายไปจากการบริหารจัดการโครงการ 'กล่องเครื่องมือ' และแนะนำแนวคิดของวงจรชีวิตของการเบี่ยงเบนและทราบไม่มีวรรณกรรมก่อนหน้านี้ การวิจัยพัฒนารูปแบบงานวิจัยอุตสาหกรรมที่ขยายการประยุกต์ใช้ FMEA ในการตรวจสอบผลการดำเนินงานและบูรณาการสัญญาณอ่อนแอและการวิเคราะห์จุดเปลี่ยนในการจัดการความละเอียด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สำรวจโครงการการจัดการชุมชนกระบวนทัศน์และบทบาทของการทำนายประสิทธิภาพ" ประสิทธิภาพ " โครงการตัวชี้วัดของการส่งมอบ วัตถุประสงค์ของโครงการ งานวิจัยนี้เกิดจากระดับของความล้มเหลวของโครงการ และวัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาการปฏิบัติงานโครงการปรับปรุง สเปกตรัมของทางวิทยาศาสตร์ถือว่า ; เถียงการจัดการโครงการเป็นย่อยด้านการจัดการวิทยาศาสตร์ที่ใช้ในการออกแบบ " วิทยาศาสตร์ " แม้จะมีการวิจัยตั้งแต่ปี 1950 , ไม่มีการก่อตั้งชุมชนกระบวนทัศน์สำหรับการจัดการโครงการ ภาพประกอบโดยหลาย " ความคิด " ล้มเหลวที่จะกระตุ้นการปรับปรุงประสิทธิภาพ นี่คือการสอบสวนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของโครงการและการจัดการของพวกเขา การประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในการเพิ่มขอบเขตของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ( รวมถึงบริการโครงการ ) และการเปลี่ยนแปลงบทบาทของผู้จัดการโครงการเป็นค่าเพิ่ม " แต่ " มากกว่านักข่าว " " วิธีการตรวจสอบกระบวนทัศน์ชุมชน ระบุขาดกระบวนทัศน์ชุมชน และแย้งว่าช่องว่างที่ระบุไม่เหมาะสม การทำวิจัยที่เติมช่องว่างความรู้ไม่ได้ระบุปัญหาพื้นฐานและส่งเสริมพื้นฐานความล้มเหลว . ภายใต้สมมติฐานที่ระบุ และท้าทาย ลักษณะสำคัญที่พิจารณาในบริบทของความต้องการของกระบวนทัศน์ชุมชน วัตถุประสงค์ของทฤษฎีที่จะอธิบาย อธิบาย และทำนาย บางเทคนิคที่อธิบายและอธิบาย ไม่ , ถ้าใด ๆ , ทำนาย นี้ตั้ง " พยากรณ์ " การแสดงเป็นปัญหาการวิจัยและแสดงให้เห็นมันขาดฟังก์ชันสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพ เน้นวิจัยพิจารณางานเดียวในเครือข่ายโครงการ การวิจัยรูปแบบระยะแรกเบี่ยงเบนจากแผนพัฒนาจากวรรณคดีในโครงการบ่มเพาะเชื้อโรคและกระบวนการ " คน " เป็นฟังก์ชันสำหรับโครงการก่อนหน้านี้ระบุว่ามีหลักฐานในวรรณคดี นี้ถูกพัฒนาในรูปแบบการปฏิบัติการขยายบทบาทของการวิเคราะห์ความล้มเหลวและผลกระทบ ( FMEA ) และรวมสัญญาณอ่อนแอและการให้ทิปทฤษฎีจุดเพื่อทดสอบประสิทธิภาพ กรณีศึกษาตรวจสอบใบสมัครตัวแทนของรูปแบบและการสร้างกรณีก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการปฏิบัติ การศึกษาทบทวน โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงบทบาทของผู้บริหารโครงการ เพื่อเพิ่มมูลค่า แต่หมายถึงต้องปรับปรุงประสิทธิภาพ วิจัยพบศักยภาพในการเข้าใจและคาดการณ์ระยะเริ่มต้นและพัฒนาวงจรส่วนเบี่ยงเบน และรูปแบบการวิจัย ผ่านกรณีศึกษารูปแบบการวิจัยแสดงให้เห็นการใช้ศักยภาพ ผลการปฏิบัติงานโครงการแสดงศักยภาพของเทคนิคการจัดการบนพื้นฐานของการคาดการณ์มากกว่าการรายงานแบบดั้งเดิม การพัฒนาชุมชนตัวอย่างตามแบบวิทยาศาสตร์กล่าวถึงงานเพิ่มเติม ความคิดริเริ่มของการวิจัยความท้าทาย การขาดทฤษฎีพื้นฐานสำหรับการบริหารจัดการโครงการโดยการอภิปรายของกระบวนทัศน์ชุมชน และเสนอการออกแบบวิทยาศาสตร์เป็นผู้สมัคร งานระบุ " พยากรณ์ " เป็นฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องแต่ที่หายไปจากโครงการการจัดการ " กล่อง " และแนะนำแนวคิดของการเบี่ยงเบนน้อยที่สุด และทราบก่อนหน้านี้ไม่วรรณคดี การวิจัยพัฒนารูปแบบการวิจัยอุตสาหกรรมที่ขยายการใช้ FMEA เพื่อตรวจสอบ " ประสิทธิภาพ " และรวมสัญญาณและการวิเคราะห์จุดให้ทิปที่อ่อนแอเพื่อจัดการกับความละเอียด