Unlike traditionally structured pro

Unlike traditionally structured programming languages, APL code is typically structured as chains of monadic or dyadic functions, and operators[50] acting on arrays.[51] APL has many nonstandard primitives (functions and operators) that are indicated by a single symbol or a combination of a few symbols. All primitives are defined to have the same precedence, and always associate to the right; hence APL is read or best understood from right-to-left.

Early APL implementations (circa 1970 or so) did not have programming loop-flow control structures, such as "do" or "while" loops, and "if-then-else" constructions. Instead, they used array operations, and use of structured programming constructs was often not necessary, since an operation could be carried out on an entire array in a single statement. For example, the iota function (ι) can replace for-loop iteration: ιN when applied to a scalar positive integer yields a one-dimensional array (vector), 1 2 3 ... N. More recent implementations of APL generally include comprehensive control structures, so that data structure and program control flow can be clearly and cleanly separated.

The APL environment is called a workspace. In a workspace the user can define programs and data, i.e. the data values exist also outside the programs, and the user can also manipulate the data without having to define a program.[52] In the examples below, the APL interpreter first types six spaces before awaiting the user's input. Its own output starts in column one.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเพณีภาษาการเขียนโปรแกรมแบบมีโครงสร้าง รหัส APL โดยปกติโครงสร้างเป็นโซ่ monadic หรือ dyadic ฟังก์ชั่น และผู้ประกอบการ [50] ในอาร์เรย์ [51] APL มีหลายมาตรฐาน primitives (ฟังก์ชันและตัวดำเนินการ) ที่มีสัญลักษณ์เดียวหรือชุดของสัญลักษณ์บางอย่าง มีกำหนดรูปทรงเรขาคณิตทั้งหมดตามลำดับ และเชื่อมโยงเสมอขวา ด้วยเหตุนี้ APL เป็นอ่าน หรือเข้าใจดีที่สุดจากขวาไปซ้ายก่อนใช้งาน APL (ประมาณ 1970 หรือดังนั้น) ไม่มีการเขียนโปรแกรมโครงสร้างการควบคุมอัตราการไหลวน เช่น "ทำ" หรือ "ขณะ" ลูป และการก่อสร้าง "ถ้าแล้ว-else" แทน พวกเขาใช้งานอาร์เรย์ และการใช้โครงสร้างการเขียนโปรแกรมแบบมีโครงสร้างก็มักจะไม่จำเป็น เนื่องจากการดำเนินการอาจมีขึ้นในอาร์เรย์ทั้งหมดในหนึ่งคำสั่ง ตัวอย่างเช่น ฟังก์ชันไอโอตา (ι) สามารถแทนการวนรอบซ้ำ: ιN เมื่อใช้ไปเป็นจำนวนเต็มบวกสเกลาผลอาร์เรย์ one-dimensional (เวกเตอร์), 1 2 3 ... N. ปฏิบัติการล่าสุดของ APL ทั่วไปโครงสร้างการควบคุมที่ครอบคลุม เพื่อให้ส่งข้อมูลโครงสร้างและโปรแกรมควบคุมสามารถอย่างชัดเจน และปลอดภัยแบ่งออกสิ่งแวดล้อม APL คือพื้นที่ทำงาน ในพื้นที่ทำ ให้ผู้ใช้สามารถกำหนดโปรแกรมและข้อมูล เช่นค่าข้อมูลที่มีอยู่ยังนอกโปรแกรม และผู้ใช้ยังสามารถจัดการกับข้อมูลได้ โดยไม่ต้องกำหนดโปรแกรม [52] ในตัวอย่างด้านล่าง ล่าม APL แรกชนิด 6 ช่องก่อนรอการป้อนข้อมูลของผู้ใช้ ผลผลิตของตนเองเริ่มต้นในคอลัมน์หนึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซึ่งแตกต่างจากโครงสร้างแบบดั้งเดิมภาษาโปรแกรมรหัส APL โดยทั่วไปจะมีโครงสร้างเป็นโซ่ของฟังก์ชั่นเอกหรือ dyadic และผู้ประกอบการ [50] ทำหน้าที่เกี่ยวกับอาร์เรย์. [51] APL มีวิทยาการที่ไม่เป็นมาตรฐานจำนวนมาก (ฟังก์ชั่นและผู้ประกอบการ) ที่จะมีการแสดงสัญลักษณ์เดียวหรือการรวมกันของสัญลักษณ์ครู่ วิทยาการทั้งหมดจะถูกกำหนดให้มีความสำคัญเหมือนกันและมักจะเชื่อมโยงไปทางขวา; จึง APL จะอ่านหรือเข้าใจได้ดีที่สุดจากขวาไปซ้าย.

ในช่วงต้นของการใช้งาน APL (ประมาณ 1,970 หรือดังนั้น) ไม่ได้มีการเขียนโปรแกรมโครงสร้างการควบคุมวงไหลเช่น "ทำ" หรือ "ขณะที่" ลูปและ "IF- ณ ขณะนั้น อื่น "การก่อสร้าง แต่พวกเขาใช้ในการดำเนินงานอาร์เรย์และการใช้โครงสร้างการเขียนโปรแกรมโครงสร้างก็มักจะไม่จำเป็นเนื่องจากการดำเนินการอาจจะมีการดำเนินการในอาร์เรย์ทั้งในคำเดียว ยกตัวอย่างเช่นฟังก์ชั่นส่วนน้อยนิด (ι) สามารถแทนที่สำหรับวงซ้ำ: ιNเมื่อนำไปใช้เป็นจำนวนเต็มบวกผลตอบแทนถัวเฉลี่ยเกลาอาร์เรย์หนึ่งมิติ (เวกเตอร์) 1 2 3 ... N. การใช้งานอื่น ๆ ที่ผ่านมาของ APL โดยทั่วไปรวมถึงครอบคลุม โครงสร้างการควบคุมเพื่อให้โครงสร้างข้อมูลและการควบคุมการไหลของโปรแกรมสามารถอย่างชัดเจนและหมดจดแยก.

สภาพแวดล้อม APL ที่เรียกว่าพื้นที่ทำงาน ในพื้นที่ที่ผู้ใช้สามารถกำหนดโปรแกรมและข้อมูลคือค่าของข้อมูลที่มีอยู่ยังอยู่นอกโปรแกรมและผู้ใช้ยังสามารถจัดการกับข้อมูลได้โดยไม่ต้องกำหนดโปรแกรม. [52] ในตัวอย่างด้านล่างที่ APL ล่ามประเภทแรกหกช่องว่างก่อนที่จะรอการป้อนข้อมูลของผู้ใช้ เอาท์พุทของตัวเองเริ่มต้นในคอลัมน์หนึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ซึ่งแตกต่างจากแบบดั้งเดิมโครงสร้างการเขียนโปรแกรมภาษา , รหัส APL มักมีโครงสร้างเป็นโซ่ของฟังก์ชัน monadic หรือรับรู้ และผู้ประกอบการ [ 50 ] การแสดงในอาร์เรย์ [ 51 ] APL มี primitives ไม่มาก ( หน้าที่และผู้ประกอบการ ) ที่ระบุโดยสัญลักษณ์เดียวหรือรวมกันไม่กี่สัญลักษณ์ ทั้งหมด primitives มีไว้มีความสําคัญเดียวกันและมักจะเชื่อมโยงไปทางขวา ดังนั้น APL เป็นอ่านหรือดีที่สุดครับ จากขวาไปซ้ายการใช้งาน APL แต่เช้า ( 1970 ประมาณหรือดังนั้น ) ไม่ได้มีโปรแกรมวงจรการไหลควบคุมโครงสร้าง เช่น " ทำ " หรือ " ขณะที่ " ลูป , และ " ได้ " ก่อสร้าง แต่การใช้อาร์เรย์ และใช้โครงสร้างการเขียนโปรแกรมโครงสร้างมักจะไม่จำเป็น เนื่องจากการผ่าตัดสามารถดำเนินการอาร์เรย์ทั้งหมดในคำสั่งเดียว ตัวอย่างเช่นฟังก์ชันน้อยนิด ( ι ) สามารถเปลี่ยนการวนซ้ำ : ιเมื่อใช้กับสเกลาร์จำนวนเต็มบวกผลผลิตอาร์เรย์ 1 มิติ ( เวกเตอร์ ) , 1 2 3 . . . . . . . โดยล่าสุดใช้ APL โดยทั่วไปรวมถึงครอบคลุมโครงสร้างการควบคุม เพื่อให้โครงสร้างของข้อมูล และการควบคุมการไหลของโปรแกรม สามารถ ชัดเจน และให้แยกจากกันส่วน APL สิ่งแวดล้อมที่เรียกว่า พื้นที่ทำงาน ในพื้นที่ผู้ใช้สามารถกำหนดโปรแกรมและข้อมูล เช่น ข้อมูลค่ามีอยู่นอกโปรแกรมและผู้ใช้ยังสามารถจัดการกับข้อมูลได้โดยไม่ต้องกำหนดโปรแกรม [ 52 ] ในตัวอย่างด้านล่าง ล่าม APL ประเภทแรกหกเป็นก่อนรอการป้อนข้อมูลของผู้ใช้ ผลผลิตของตนเองเริ่มต้นในคอลัมน์เดียว